เอปสัน (Epson) เดินหน้าสร้างการเติบโตในกลุ่มธุรกิจองค์กร หลังขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทคุณภาพสูงเข้าเจาะตลาดองค์กร เข้าแทนที่เครื่องโมโนเลเซอร์ คาดปีนี้รักษาการเติบโตในภาพรวม 8%
นายยรรยง มุนีมงคลทร ผู้อำนวยการบริหาร บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ในปีที่ผ่านมากลุ่มเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทสำหรับองค์กร (Epson WorkForce) สามารถสร้างการเติบโตโตได้ราว 30% แสดงให้เห็นถึงการชิงส่วนแบ่งตลาดจากเครื่องถ่ายเอกสารตามสำนักงาน และเครื่องพิมพ์เลเซอร์ได้เป็นอย่างดี
"กลยุทธ์หลักที่เอปสันใช้ในการสื่อสารคือ การให้ความรู้กับผู้ประกอบการถึงประโยชน์หัวพิมพ์อิงค์เจ็ท PrecisionCore Heat-Free Technology ไม่ใช้ความร้อนในการพิมพ์ กินไฟน้อย บำรุงรักษาง่าย และมีรูปแบบการทำตลาดทั้งการซื้อขาด เช่าเครื่อง คิดค่าบริการต่อแผ่น หรือเหมาจ่ายรายเดือน"
สำหรับในปีนี้ เอปสันจะเดินหน้าเจาะตลาดเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทสำหรับองค์กร ที่เข้าไปแทนที่เครื่องพิมพ์เลเซอร์เดิม ทั้งในกลุ่มเครื่องพิมพ์ขนาดใหญ่ที่รองรับการใช้งานในสำนักงาน รวมถึงเครื่องพิมพ์โมโนเลเซอร์ ขาวดำที่ยังมีสัดส่วนสำคัญในตลาด
ด้วยการเพิ่มไลน์สินค้าทั้งในกลุ่ม EcoTank และ WorkForce อย่างละ 2 รุ่น เข้าเจาะตลาดสำนักงานบริษัท สถาบันศึกษา โรงพยาบาล ซึ่งเป็นกลุ่มที่ต้องการเครื่องพิมพ์ที่ให้ต้นทุนการพิมพ์ต่อแผ่นต่ำ ความเร็วระดับปานกลาง แต่สามารถรองรับงานปริมาณมากได้
โดยสินค้าใหม่ทั้ง 4 รุ่น ประกอบด้วย เครื่องพิมพ์อิงค์แท็งก์ Epson EcoTank M2050 ที่เป็นรุ่นมัลติฟังก์ชัน และ Epson EcoTank M1050 ที่เป็นซิงเกิลฟังก์ชัน มีจุดเด่นที่ราคาไม่สูง ต้นทุนการพิมพ์ต่ำ เพราะชุดหมึกความจุสูงรองรับการพิมพ์ได้มากสุดถึง 6,000 แผ่น ให้งานพิมพ์ที่คมชัดกันน้ำได้ด้วยหมึก DURAbrite ET สามารถเชื่อมต่อได้ทั้ง Wi-Fi, Wi-Fi Direct และ Ethernet มาพร้อมกับการรับประกัน 4 ปี หรือ 50,000 แผ่น
ส่วนเครื่องในกลุ่ม WorkForce ทั้ง 2 รุ่น ได้แก่ Epson WorkForce Pro WF-M5899 เครื่องมัลติฟังก์ชัน และ Epson WorkForce Pro WF-M5399 เครื่องซิงเกิลฟังก์ชัน ที่ผสานคุณค่าด้านความยั่งยืนเข้ากับประสิทธิภาพการพิมพ์ได้อย่างลงตัว กินไฟต่ำ ขนาดกะทัดรัด ประหยัดพื้นที่ สามารถพิมพ์ได้เร็ว 25 ipm มาพร้อมกับฟีเจอร์มากมาย เช่น พิมพ์สองหน้าอัตโนมัติความเร็วสูง เชื่อมต่อกับคลาวด์และมือถือได้