xs
xsm
sm
md
lg

แก้เกมงานพิมพ์หด! ฟูจิฟิล์มอัดฉีดธุรกิจโซลูชันจัดการเอกสาร ส่ง “FUJIFILM IWpro” บุก SME ดันปี 67 โตเท่าตัว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ฟูจิฟิล์ม บิสซิเนส อินโนเวชั่น (ประเทศไทย) หรือ FUJIFILM BI เดินหน้าขยายธุรกิจโซลูชันจัดการเอกสารอีกครั้งหลังผ่านการรีแบรนด์จากฟูจิซีรอกซ์ไปนานกว่า 2 ปี เปิดตัว “FUJIFILM IWpro” ย่อยขนาด-ลดราคาเพื่อบุกกลุ่มองค์กรขนาดย่อมที่มีพนักงาน 50-300 คนโดยเฉพาะ ยอมรับปรับโฟกัสเพราะกระแสเวิร์กฟอร์มโฮมทำรายได้การพิมพ์เอกสารในสำนักงานหดหาย มั่นใจเริ่มทำตลาดไม่ช้าเพราะเวลานี้ SME ส่วนใหญ่พร้อมลงทุน ยืนยันเตรียมลงทุนต่อเนื่องในธุรกิจโซลูชันเพื่อดันรายได้ FUJIFILM BI ให้เติบโตเกิน 100% ภายในปี 2567

นายมาซาอากิ ยานากิย่า ประธานบริษัท ฟูจิฟิล์ม บิสซิเนส อินโนเวชั่น (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงแนวโน้มตลาดซอฟต์แวร์ด้านดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชัน หรือ (DX) ในประเทศไทยว่ามีการเติบโตอย่างมากหลังวิกฤตโควิด-19 โดยเฉพาะความต้องการโซลูชันที่สามารถจัดการกระบวนการทำงานที่มีประสิทธิภาพอย่างอัตโนมัติ ความเข้าใจในลูกค้าไทยทำให้บริษัทมั่นใจว่ามีความเชี่ยวชาญสามารถสนับสนุนลูกค้าไทยได้ 

เพื่อช่วยให้ลูกค้าสามารถแก้ปัญหาในการปฏิบัติงานผ่านคลาวด์

"จากประสบการณ์ 60 ปีในธุรกิจผลิตกล้องถ่ายภาพ เครื่องพิมพ์ และระบบในโรงพยาบาล รวมถึงเครื่องสำอาง ตอนนี้เราพยายามให้บริการโซลูชันธุรกิจแก่องค์กร ซึ่งเป็นไปตามแกนหลักของธุรกิจฟูจิฟิล์มที่ยึดมั่นในโมเดล B2B" ยานากิย่ากล่าว "ตลาด DX โซลูชันเติบโตมากหลังโควิด ทุกอย่างเปลี่ยนไป ใครก็ทำงานได้จากทุกที่ทุกเวลา ต้องส่งเอกสารให้เร็วโดยปลอดภัย องค์กรจึงต้องการโซลูชันที่สามารถจัดการงานอย่างมีประสิทธิภาพได้อัตโนมัติ เราเข้าใจลูกค้าไทย และมั่นใจว่าการเป็นผู้ให้บริการที่เชี่ยวชาญด้านเอกสารของเราจะสามารถสนับสนุนลูกค้าไทยได้ ทำให้สามารถทำงานได้ราบรื่น"

นายมาซาอากิ ยานากิย่า (กลาง),  นายฮายาโตะ ซึโบอิ (ซ้ายสุด) และนางสาวทิพย์อาภา ลชิตาวงศ์ (ขวาสุด)
โซลูชันล่าสุดที่ฟูจิฟิล์มเปิดตัวคือ FUJIFILM IWpro ซึ่งได้รับการันตีว่าเป็นโซลูชันธุรกิจใหม่แบบครบวงจรที่สามารถเชื่อมโยงข้อมูลสู่คนในการจัดการเอกสารได้อย่างไร้รอยต่อ ด้วยการเป็นพื้นที่ส่วนกลางสำหรับทำงานร่วมกัน เพื่อให้การจัดลำดับการทำงานและเอกสารเป็นไปอย่างฉับไวและมีประสิทธิภาพ ก้าวเข้าสู่การเปลี่ยนผ่านระบบการทำงานแบบเดิมสู่แบบดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ

จุดเด่นของ FUJIFILM IWpro คือการทำให้พนักงานเห็นไฟล์เอกสารเดียวกันบนพื้นที่เดียวกัน โดยสามารถดำเนินการอนุมัติ สร้างเอกสาร และจัดเก็บลงในระบบที่องค์กรใช้อยู่ โดยไม่ได้เน้นที่เอกสารดิจิทัลเท่านั้น แต่ยังสามารถในการพิมพ์งานและจัดการอุปกรณ์การพิมพ์ผ่านคลาวด์ที่หลากหลายแทนการใช้เซิร์ฟเวอร์

มีพันธมิตรไม่ต่ำกว่า 4 รายที่ FUJIFILM IWpro สามารถเชื่อมต่อกับโซลูชันอื่น ๆ ได้
ขณะนี้มีพันธมิตรไม่ต่ำกว่า 4 รายที่ FUJIFILM IWpro สามารถเชื่อมต่อกับโซลูชันอื่นๆ ได้ เช่น ลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ (e-Signature) ระบบวางแผนทรัพยากรขององค์กร หรือ ERP (Enterprise Resource Planning) และซอฟต์แวร์หุ่นยนต์ ทำให้ผู้ใช้งานสามารถทำงานขั้นตอนถัดไปได้อย่างอัตโนมัติ ทำให้งานเสร็จได้เร็วขึ้น และลดข้อผิดพลาดในกระบวนการทำงาน

***ปรับโฟกัส ตอบดีมานด์ใหม่

นายฮายาโตะ ซึโบอิ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท ฟูจิฟิล์ม บิสซิเนส อินโนเวชั่น (ประเทศไทย) จำกัด ยอมรับว่า FUJIFILM IWpro ถือเป็นส่วนหนึ่งของโฟกัสใหม่ของธุรกิจฟูจิฟิล์มในช่วงหลังโควิด-19 เนื่องจากแม้รายได้ของ FUJIFILM BI ในไทยจะมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 200 ล้านบาทต่อปี แต่ตัวเลขนี้อยู่ในภาวะลดลงเล็กน้อยตั้งแต่หลังการระบาดใหญ่ ผลจากกระแสเวิร์กฟอร์มโฮมที่ทำให้การพิมพ์เอกสารในสำนักงานมีปริมาณน้อยลง รายได้รวมจึงลดลง ดังนั้น บริษัทจึงมุ่งโฟกัสที่โซลูชันนี้ในช่วงระยะสั้นถึงกลาง เพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่พบว่ามีดีมานด์สูงทั่วโลก

"การสำรวจของการ์ทเนอร์ระบุว่าการใช้จ่ายด้านไอทีในตลาดไทยจะเติบโต 9.5-10% ต่อเนื่อง 3 ปี ถือเป็นโอกาสของเรา" ซึโบอิกล่าว "วันนี้ 66% ของเอสเอ็มอีรู้ตัวว่าจำเป็นต้องทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชัน แต่กลับมี 10% เท่านั้นที่ได้ลงทุนใช้งานระบบ DX สมัยใหม่ ดังนั้นอีก 90% จึงเป็นโอกาสของเราเช่นกัน"

ซึโบอิพบว่า 3 เหตุผลที่ทำให้การลงทุนระบบ DX กระจุกอยู่ที่เอสเอ็มอีเพียง 10% นั้นประกอบด้วย 1.แม้จะลงทุนระบบไปแล้ว แต่พันธมิตรที่ทำธุรกิจด้วยยังใช้เอกสารกระดาษ 2.ระบบที่ใช้งานมีหลากหลาย บางระบบยังต้องดำเนินการด้วยมือและไม่เชื่อมต่อกัน ทำให้การเชื่อมต่อไม่ราบรื่น และ 3.ภาวะข้อมูลในองค์กรกระจายตัว และรูปแบบการทำงานที่ยังกระจุกเฉพาะคน ทำให้ยุ่งยากในการใช้งาน ดังนั้น ฟูจิฟิล์มจึงพยายามเชื่อมโยงคนเข้ากับกระบวนการและข้อมูล บนแนวคิดการตลาดเพื่อทำให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่สะดวกสบาย

น.ส.ทิพย์อาภา ลชิตาวงศ์ ผู้จัดการการตลาดด้านผลิตภัณฑ์โซลูชัน บริษัท ฟูจิฟิล์ม บิสซิเนส อินโนเวชั่น (ประเทศไทย) จำกัด
เพื่อรับกับเป้าหมายการเติบโต 100% ในปี 2567 ซิโบอิย้ำว่าบริษัทมีแนวทางการลงทุนทั้งในส่วนการพัฒนาเครื่องมัลติฟังก์ชันหรือแมชชีน เพื่อให้เกิดการใช้เทคโนโลยีจากกล้องในการยกระดับงานพิมพ์ให้ได้คุณภาพสูง รวมถึงส่วนการลงทุนในโซลูชันที่มีมูลค่าสูงมากกว่า โดยจะมุ่งลงทุนให้ FUJIFILM IWpro สามารถเชื่อมกับซอฟต์แวร์อื่นได้มากขึ้น คู่กับการลงทุนควบรวมกับบริษัทที่เกี่ยวโยงกับธุรกิจของ FUJIFILM BI ซึ่งยังไม่สามารถเปิดเผยแผนการซื้อกิจการที่วางไว้ในปีนี้

***ไม่ได้ช้า เพราะทำมานานแล้ว

น.ส.ทิพย์อาภา ลชิตาวงศ์ ผู้จัดการการตลาดด้านผลิตภัณฑ์โซลูชัน บริษัท ฟูจิฟิล์ม บิสซิเนส อินโนเวชั่น (ประเทศไทย) จำกัด ย้ำว่าการเปิดตลาด FUJIFILM IWpro ในไทยนี้ถือเป็นการเริ่มทำการตลาดของประเทศกลุ่มแรกในเอเชีย โดย FUJIFILM BI ไม่ได้เพิ่งให้ความสำคัญกับธุรกิจโซลูชัน แต่ได้ให้บริการมาก่อนหน้าโควิด-19 นานหลายปี ซึ่งการรู้จักลูกค้าถือเป็นแต้มต่อที่ทำให้บริษัทสามารถต่อยอดจากฐานลูกค้าเครื่องถ่ายเอกสาร เป็นการเข้าถึงลูกค้าได้ทันที

"การเปิดตัวครั้งนี้เป็นการออกซอฟต์แวร์ที่เราพัฒนาเองจริงๆ ก่อนหน้านี้มีโซลูชันอยู่แล้ว มุ่งให้บริการกลุ่มองค์กรใหญ่ระดับเอนเตอร์ไพรส์มาหลายปีแล้ว (พนักงาน 300 คนขึ้นไป) รวมถึงซอฟต์แวร์หุ่นยนต์ที่ให้บริการมาตั้งแต่ก่อนตลาดตื่นตัว" ทิพย์อาภากล่าว "การเปิดตัวในวันนี้ถือว่าเป็นจังหวะเวลาที่ดีมาก เพราะองค์กรแต่ละแห่งมีความพร้อมไม่เท่ากัน ต้องใช้เวลาในการยอมรับ เราไม่ได้ช้า แต่การบุกตลาดเอสเอ็มอีในตอนนี้ถือว่าเหมาะสมที่สุด เพราะเอสเอ็มอีเห็นความจำเป็น และมีแผนลงทุน"

  นายฮายาโตะ ซึโบอิ (ซ้ายสุด) และ น.ส.ทิพย์อาภา ลชิตาวงศ์ (ขวาสุด)
ทิพย์อาภาให้ข้อมูลว่า FUJIFILM IWpro ถูกปรับลดราคาลงหลายเท่าตัวเมื่อเทียบกับโมดูลขนาดใหญ่ที่เคยมีราคาเกิน 2 ล้านบาท เชื่อว่าราคาใหม่เป็นราคาที่เข้าถึงได้สำหรับเอสเอ็มอีที่คิดเป็นสัดส่วน 70% ของ 25,000 รายที่เป็นฐานลูกค้ารวม FUJIFILM BI ในไทย ปัจจุบัน รายได้จากอุปกรณ์มัลติฟังก์ชันยังเป็นรายได้หลัก โดยธุรกิจโซลูชันคิดเป็น 27% จากรายได้รวมในไทย เบื้องต้นมีการกำหนดแผนระยะกลางที่จะเพิ่มสัดส่วนรายได้โซลูชันให้เป็น 40% ภายในปี 
2573 ก่อนที่จะผลักดันสัดส่วนจากธุรกิจซอฟต์แวร์โซลูชันและบริการให้เป็น 45%ในระยะยาว

สำหรับ FUJIFILM BI หรือ FUJIFILM Business Innovation นั้นเป็นชื่อใหม่ที่ Fuji Xerox ได้ประกาศเปลี่ยนแปลงชื่อบริษัทเมื่อวันที่ 1 เมษายน 2564 โดย FUJIFILM Business Innovation ยังคงให้บริการการบำรุงรักษาสำหรับผลิตภัณฑ์ที่ได้จำหน่ายภายใต้แบรนด์ Xerox และ Fuji Xerox ต่อเนื่อง


กำลังโหลดความคิดเห็น