'เอ็นที' อวดผลการดำเนินปี 66 ขาดทุนลดลงเหลือ 78 ล้านบาท ตั้งเป้าลดพนักงาน 2,800 คนใน 3 ปี ให้ผลประโยชน์ล่อใจ ปี 70 ต้องเหลือพนักงานแค่ 7,000 คน
นายณัฐพล ณัฏฐสมบูรณ์ รองปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ในฐานะประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือเอ็นที เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของเอ็นทีปี 66 ขาดทุนลดลงเหลือ 78 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปี 2565 ที่ขาดทุนถึง 9,864 ล้านบาท จากการควบคุมค่าใช้จ่ายได้ดีขึ้น ซึ่งมีกำไรจากการดำเนินงาน (ม.ค.-พ.ย.66) ถึง 400 ล้านบาท ก่อนหักค่าใช้จ่ายต่างๆ เช่น ค่าไฟฟ้าจากค่าเอฟทีที่สูงขึ้น และค่าประมาณหนี้ ทำให้สุดท้ายมีผลขาดทุน
อย่างไรก็ตาม แม้รายได้จะไม่เพิ่มขึ้นตามแผน แต่การลดค่าใช้จ่ายทำให้ผลการดำเนินงานดีขึ้นจากที่คาดไว้ บริษัทจึงมีแผนที่จะลดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม โดยเฉพาะในส่วนของการลดใช้พลังงานอย่างน้อย 10% การจัดการบุคลากร และปรับลดงบลงทุนสำหรับปี 67 จากเดิม 6,500 ล้านบาท ลง 1,400 ล้านบาท โดยไม่กระทบต่อการให้บริการและประสิทธิภาพการใช้งาน อีกทั้งเน้นลดการลงทุนที่ไม่จำเป็น มีความซ้ำซ้อน และหลีกเลี่ยงการซื้ออุปกรณ์ที่ไม่จำเป็น รวมถึงมองหารายได้จากการทำงานร่วมกับพันธมิตร เพื่อพลิกสถานการณ์ขาดทุนจากปีก่อนๆ ให้เป็นกำไรในอนาคต
ด้าน พ.อ.สรรพชัยย์ หุวะนันทน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอ็นที กล่าวว่า ทั้งนี้ ที่ประชุมบอร์ดยังอนุมัติโครงการเกษียณอายุก่อนกำหนด ซึ่งเป็นแผนล่วงหน้า 3 ปี (ปี 67-69) เพื่อลดจำนวนพนักงานปัจจุบันที่มีอยู่ราว 12,800 คน กับงบประมาณรวม 6,682 ล้านบาท สำหรับ 2,800 คน แบ่งเป็นปี 67 จำนวน 1,200 คน ส่วนปี 68 และ 69 ปีละ 800 คน ในช่วงเริ่มต้นของโครงการในเดือน ก.พ.67 มีผู้สนใจเข้าร่วมแล้วประมาณ 500 คน จากเฉลี่ยต่อปีอยู่ที่ 200-300 คน แต่จะมีการคัดเลือกอีกครั้งตามความจำเป็นในการปฏิบัติงาน ซึ่งมีการปรับการให้ผลประโยชน์ดีที่สุดในปีนี้ และจะมีการกำหนดเงื่อนไขใหม่ในปีถัดไป โดยตั้งเป้าให้ปี 70 ให้เหลือพนักงานประมาณ 7,000 คน จากโครงการเกษียณอายุก่อนกำหนด และเกษียณอายุตามปกติด้วย
"ปีนี้จะเป็นปีเดียวที่ให้ผลประโยชน์ดีที่สุด ปีถัดไปจะมีการกำหนดอายุ หรือเงื่อนไขอื่นๆ ซึ่งจะสิ้นสุดโครงการสิ้นเดือน ก.พ.67 นี้ จากนั้นจึงจะทราบยอดรวมที่ชัดเจนได้ ขณะเดียวกัน มีการปรับขึ้นเงินเดือนในระดับหนึ่ง แม้ไม่เป็นไปตามที่พนักงานคาดหวังจากแผนการดำเนินงานที่บังคับ แต่ถ้าไม่ทำแบบนี้กระทรวงการคลัง บอร์ด ผู้ถือหุ้น รวมถึงหน่วยงานกำกับดูแลจะเป็นกังวลกับกับแผนการดำเนินงานตั้งแต่ปี 68 เป็นต้นไป" พ.อ.สรรพชัยย์ กล่าว
นอกจากนี้ เอ็นทียังได้สิทธิดำเนินโครงการให้บริการสื่อสารโทรคมนาคมผ่านเครือข่ายความเร็วสูง (บรอดแบนด์) ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 ด้วยการลงนามสัญญากับบริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด ในการให้บริการอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ สำหรับอาคาร A, B และ C ซึ่งอาคาร A และ B มีหน่วยงานอยู่ 50 แห่ง เป็นการต่อสัญญาจากสัญญา 15 ปีเดิมที่สิ้นสุดลง ส่วนอาคาร C เป็นตึกใหม่ที่กำลังก่อสร้าง จะมีหน่วยงานเพิ่มอีก 10 แห่ง รวม 3 อาคาร เป็น 60 แห่ง ในงบประมาณ 670 ล้านบาท พื้นที่ทั้งหมด 1.6 ล้านตารางเมตร ซึ่งจะเริ่มดำเนินการเพื่อรองรับหน่วยงานใหม่ในเดือน เม.ย.67 และคาดว่าจะส่งผลให้มีรายได้เพิ่มเติม 10% จากการลงทุน
อีกทั้งยังเร่งดำเนินโครงการสำคัญกับการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เพื่อเดินสายไฟเบอร์ออปติกในนิคมอุตสาหกรรม 17 แห่ง จะเริ่มดำเนินงานในนิคมอุตสาหกรรมหลักที่มีศักยภาพก่อน โดยแบ่งเป็นเฟสแรกประมาณ 7-10 แห่ง ในจังหวัดชลบุรีและระยอง ที่เหลือจะดำเนินการในเฟสถัดไป ซึ่งภายในปีนี้จะเห็นแนวทางและเริ่มลงทุนได้ แต่จะเป็นแบบไหนที่เกิดประโยชน์กับเราต้องพิจารณาอีกครั้ง
ส่วนเรื่องคลื่นความถี่ย่าน 26 กิกะเฮิรตซ์ บริษัทกำลังมองหาพันธมิตรที่มีศักยภาพเพื่อพัฒนาและใช้งานคลื่นความถี่นี้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยคาดว่าโครงการจะเสร็จสิ้นใน 2-3 เดือนข้างหน้า นับเป็นการลงทุนที่บริษัทได้เตรียมการไว้ล่วงหน้า เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นในอนาคต