เอชพี (HP) รับความสนใจสินค้าไอทีผู้บริโภคมีความเป็นเซกเมนต์มากยิ่งขึ้นทำให้เกิดความท้าทายแก่ผู้ผลิต เนื่องจากการนำเสนอสินค้าเพียงชนิดเดียวไม่เพียงพอแล้ว ประเดิมเปิดแฟลกชิปสโตร์แห่งแรกในไทย ภายใต้แนวคิด ‘One HP’ รวมสินค้าทั้งพีซี พรินเตอร์ และโซลูชันการทำงานแบบไฮบริดเวิร์ก และคอนเทนต์ครีเอเตอร์เข้าด้วยกันเป็นครั้งแรก ก่อนขยายเพิ่มในปีนี้
วรานิษฐ์ อธิจรัสโรจน์ กรรมการผู้จัดการ เอชพี ประเทศไทย กล่าวว่า ในปีนี้จะเป็นปีที่ HP ทำตลาดในประเทศไทยครบ 35 ปี ซึ่งถือว่าเป็นสินค้าไอทีที่อยู่คู่กับคนไทยมาอย่างยาวนาน ประกอบกับพฤติกรรมของผู้บริโภคหลังสถานการณ์แพร่ระบาด ยังพบว่ากลุ่มคนรุ่นใหม่โดยเฉพาะ Gen Z ยังให้ความสำคัญกับประสบการณ์สัมผัสสินค้าจริงก่อนตัดสินใจซื้อ
“ช่วงที่ผ่านมาตลาดออนไลน์ของสินค้าไอทีถือว่ามีการเติบโต แต่ในขณะเดียวกันความสำคัญของหน้าร้านก็ไม่ได้ลดลง เพราะผู้บริโภคมองหาประสบการณ์ในการใช้งานที่หลากหลายมากขึ้น ไม่ใช่เฉพาะการใช้งานเฉพาะเครื่องคอมพิวเตอร์ แต่เป็นในลักษณะของโซลูชันที่ครบวงจร ทำให้เอชพีให้ความสำคัญกับการเปิดแฟลกชิปสโตร์ในครั้งนี้”
สำหรับการเปิดแฟลกชิปสโตร์แห่งแรกของ เอชพี ที่ชั้น 2 เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ บางกะปิ กรุงเทพฯ เกิดจากความร่วมมือของ HP กับ Speed Computer คู่ค้าไอทีที่อยู่คู่เอชพีมานานกว่า 30 ปี ด้วยการนำประสบการณ์ทางด้านพื้นที่ และความเชี่ยวชาญของทั้ง 2 บริษัท มานำเสนอแฟลกชิปสโตร์ที่จะเปิดให้ผู้บริโภคได้เข้ามาสัมผัสประสบการณ์ในการใช้งานสินค้า และโซลูชัน
ที่ผ่านมา เอชพีเคยมีการเปิดหน้าร้านค้าร่วมกับคู่ค้าในช่วงก่อนโควิด เพียงแต่จะเป็นในลักษณะของการจำหน่ายสินค้าคอมพิวเตอร์เท่านั้น ไม่ได้รวมถึงกลุ่มผลิตภัณฑ์พรินเตอร์ และโซลูชันต่างๆ ทำให้การเปิดแฟลกชิปสโตร์ในครั้งนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นของเอชพีในยุคไฮบริดเวิร์ก เพื่อรองรับการเติบโตต่อไปในอนาคต
อย่างไรก็ตาม ผู้บริหารเอชพีประเมินถึงภาพรวมตลาดไอทีในปีนี้ว่าจะมีความท้าทายค่อนข้างมากจากสภาพเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น เพียงแต่ยังมีปัจจัยที่เข้ามาช่วยผลักดันให้เกิดการใช้จ่ายเพิ่มเติมคือเรื่องการมาของ AI ที่จะเข้ามาเป็นส่วนเสริมช่วยให้การทำงานของผู้บริโภครวดเร็ว และมีประสิทธิภาพมากขึ้น
“เชื่อว่าเทรนด์ของ AI จะมากระตุ้นให้ธุรกิจไอทีเติบโต เนื่องจากผู้บริโภคเริ่มเห็นถึงความสามารถที่เพิ่มเข้ามา เอชพีจะเน้นการให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า AI มีประโยชน์กับการใช้งานของผู้บริโภคอย่างไร ทำให้เชื่อว่าตลาดพีซีในปีนี้ยังมีช่องให้เติบโตได้”
ทั้งนี้ ภายในเอชพี แฟลกชิปสโตร์ นอกจากโซนจำหน่ายสินค้าในกลุ่มคอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊ก AiO เครื่องพิมพ์ ยังมีการจำลองห้องประชุมสำหรับไฮบริดเวิร์ก (Meeting Room) ที่มีการนำโซลูชันประชุมออนไลน์ของทาง Poly และห้อง Live Streaming สำหรับเกมเมอร์เพิ่มเติม เพื่อให้ผู้บริโภคได้สัมผัสถึงประสบการณ์ในการใช้งานได้อย่างเต็มที่
“เซกเมนต์ของตลาดเกมถือเป็นอีกหนึ่งกลุ่มที่เอชพีให้ความสำคัญ เพราะตลาดอีสปอร์ตในไทยใหญ่เป็นอันดับที่ 2 ของเอเชีย รองจากเกาหลีใต้ ทำให้ต้องมีการนำอีโคซิสเต็มเกี่ยวกับเกม และคอนเทนต์ครีเอเตอร์เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของแฟลกชิปสโตร์ด้วย”
ปัจจุบัน เอชพีมีศูนย์บริการที่เป็น HP Service Center 13 แห่ง ครอบคลุมการดูแลลูกค้าทั่วประเทศ การเปิดแฟลกชิปสโตร์แห่งนี้ ยังช่วยเพิ่มจุดให้บริการแก่ลูกค้า รวมถึงการขยายหน้าร้านเพิ่มเติมตามหัวมุมเมือง และหัวเมืองใหญ่ในต่างจังหวัดที่จะเกิดขึ้นในปีนี้ด้วย
ส่วนสินค้าไลน์อัปใหม่ๆ ที่เปิดตัวในช่วงงาน CES 2024 ที่ผ่านมา ผู้บริหารเอชพีให้ข้อมูลว่า จะเริ่มทยอยนำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยตั้งแต่ช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ ทั้งในกลุ่มที่เป็นโน้ตบุ๊กหน้าจอพับได้ รวมถึงกลุ่มผลิตภัณฑ์เกมเมอร์ต่างๆ ด้วย
