กสทช. เคาะสรรหาเลขาธิการ กสทช. ใหม่ อีกครั้ง หลังมติบอร์ด 4 เสียง ไม่เห็นชอบกระบวนการในการสรรหา ขณะที่อีก 3 เสียง เห็นชอบให้แต่งตั้ง นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล เป็นเลขาธิการ กสทช. ทำให้ต้องเข้าสู่กระบวนการสรรหาเลขาธิการ กสทช. อีกครั้ง
พล.อ.ท.ดร.ธนพันธุ์ หร่ายเจริญ กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวว่า กสทช. ทั้ง 4 ท่าน เห็นว่ากระบวนการสรรหาควรเป็นอำนาจของบอร์ดทุกคน เมื่อกระบวนการไม่ถูกต้องการแต่งตั้งก็ไม่ควรที่จะเกิดขึ้น
"ไม่ว่าประธาน กสทช. จะเสนอชื่อใครเป็นเลขาธิการ กสทช. กรรมการทั้ง 4 คน ก็จะไม่เห็นชอบ เนื่องจากมองว่ากระบวนการสรรหาในครั้งนี้ไม่ถูกต้อง"
น.ส.พิรงรอง รามสูต กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ด้านกิจการโทรทัศน์ กล่าวว่า หลังจากนี้ในการประชุมครั้งหน้า จะเริ่มกระบวนการในการสรรหาเลขาธิการ กสทช. ใหม่ พร้อมสรุปบทเรียนจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และเร่งรัดให้เกิดการสรรหาเลขาธิการ กสทช. ใหม่อีกครั้ง
“กระบวนการในการสรรหาเลขาธิการ กสทช. ควรจะเป็นกระบวนการเดียวกับการสรรหา กสทช. ที่กรรมการ กสทช. ทุกคนควรมีส่วนร่วม และไม่เห็นข้อห้ามที่นายไตรรัตน์ จะกลับมาลงสมัครสรรหาใหม่อีกครั้ง”
พ.ต.อ.ประเวศน์ มูลประมุข ที่ปรึกษาประจำตัวประธาน กสทช. ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า หลังจากมติบอร์ดขึ้นอยู่กับนายไตรรัตน์ ว่าจะอุทธรณ์มติหรือไม่ และบอร์ด กสทช. จะรับหรือไม่รับ ถ้ารับก็ขึ้นอยู่กับนายไตรรัตน์ ว่าจะฟ้องร้องต่อศาลหรือไม่ ส่วนประเด็นการสรรหาไม่ชอบ ต้องรอความเห็นจากศาล เนื่องจากมีประเด็นฟ้องร้อง จึงไม่สามารถตัดสินได้ว่าจะสรรหาใหม่ตามกระบวนการใด จนกว่ากระบวนการทางศาลจะสิ้นสุดทุกคดี
สำหรับการโหวตเกิดขึ้นบนมติตามมาตรา 61 ให้เห็นชอบตามที่ประธาน กสทช. เสนอแต่งตั้งนายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล เป็นเลขาธิการกสทช. หรือไม่ โดยที่ประชุม 4 เสียงประกอบด้วย ธนพันธุ์ หร่ายเจริญ พิรงรอง รามสูต ศุภัช ศุภชลาศัย และสมภพ ภูริวิกรัยพงศ์ ลงมติไม่เห็นชอบเนื่องจากกระบวนการสรรหาไม่ถูกต้อง ส่วนอีก 3 เสียง เห็นชอบให้แต่งตั้ง
ทั้งนี้ การประชุมวาระพิเศษเริ่มขึ้นในเวลา 9.30 น. พร้อมเปิดเสียงตามสายให้เกิดความโปร่งใสในการประชุม โดยมีการหารือเกี่ยวกับรายละเอียดของหนังสือคัดค้านต่างๆ ก่อนที่ประชุมมีการลงมติขอให้การประชุมเป็นวาระลับ เนื่องจากรายละเอียดในหนังสือมีข้อมูลส่วนตัวของผู้อื่นที่อาจทำให้เกิดความเสียหายได้ ก่อนปิดประชุมในเวลา 11.30 น.
ก่อนหน้านี้ เกี่ยวกับการคัดเลือกเลขาธิการ กสทช. โดยที่รักษาการแทนเลขาธิการ กสทช. ไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล ยื่นฟ้อง 4 กสทช. ประกอบด้วย ธนพันธุ์ หร่ายเจริญ พิรงรอง รามสูตร ศุภัช ศุภชลาศัย และสมภพ ภูริวิกรัยพงศ์ กับ 1 รองเลขาฯ กสทช. ภูมิศิษฐ์ มหาเวสน์ศิริ ต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เมื่อวันที่ 11 ก.ย.2566 ข้อหาเป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83, 86, 157 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 172
ส่งผลให้ กสทช. ทั้ง 4 ราย เป็นคู่กรณี ทำให้รักษาการเลขาฯ มีการส่งหนังสือคัดค้านในกรณีที่ประธาน กสทช. จะเสนอชื่อนายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล ขออนุญาตคัดค้านการพิจารณา และลงมติของ กสทช. 4 ราย เนื่องจากเป็นเจ้าหน้าที่เป็นคู่กรณีจะทำการพิจารณาทางปกครองไม่ได้ เนื่องจากเป็นบุคคลต้องห้ามตามนัยมาตรา 13 (1) แห่ง พ.ร.บ.วิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง 2539
โดยในระหว่างการประชุมวาระพิเศษ กสทช. ทั้ง 4 ราย ยืนยันว่าไม่ได้เป็นคู่กรณี ก่อนนำวาระการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (เลขาธิการ กสทช.) เข้าเป็นการประชุมลับระหว่างคณะกรรมการ กสทช.