ไทยคม - มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ นำดาวเทียม ประเมินคาร์บอนเครดิตพื้นที่ป่าไทย

ไทยคม ร่วมมูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปถัมภ์ นำแพลตฟอร์มคาร์บอนเครดิตที่พัฒนาด้วยเทคโนโลยีอวกาศมาประเมินปริมาณมวลชีวภาพในพื้นที่ป่าชุมชน ดำเนินโครงการลดก๊าซเรือนกระจกร่วมกับชุมชนอยู่ พร้อมต่อยอดไปใช้สร้างประโยชน์ในภาคป่าไม้ของประเทศไทย

นายปฐมภพ สุวรรณศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน)  กล่าวว่า ไทยคมมีพันธกิจสำคัญในการดำเนินธุรกิจ ด้วยการนำเทคโนโลยีอวกาศมาต่อยอดเป็นโซลูชัน เพื่อสร้างความยั่งยืนให้กับสังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม ตอกย้ำให้เห็นถึงการเป็นองค์กรที่ช่วยให้ประเทศชาติเกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน

โดยเฉพาะในด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม การร่วมมือกับมูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ จึงนับเป็นก้าวสําคัญในการนำโซลูชันด้านการประเมินคาร์บอนเครดิต จากความเชี่ยวชาญดาวเทียมสำรวจระยะไกล และข้อมูลภูมิสารสนเทศ (Geospatial) มาวิเคราะห์

เมื่อนำข้อมูลมาใช้งานร่วมกับเทคโนโลยี AI และ ML เพื่อตรวจสอบสุขภาพป่าไม้ และประเมินปริมาณมวลชีวภาพในพื้นที่ป่าชุมชนของมูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ ซึ่งนับเป็นโครงการที่สอดคล้องกับเป้าหมายของเราที่มุ่งขับเคลื่อนให้องค์กรและประเทศไทยก้าวสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนได้ในอนาคต 
ม.ล.ดิศปนัดดา ดิศกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ กล่าวว่า มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ ดำเนิน “โครงการจัดการคาร์บอนเครดิตในป่าเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน” มาตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นมา ครอบคลุมพื้นที่ป่าชุมชนรวม 194,850 ไร่ จากความร่วมมือกับกรมป่าไม้ ภาคเอกชนผู้สนับสนุนงบประมาณ 14 องค์กร และชุมชน 77 แห่ง

“ความสำเร็จก้าวแรกนี้จะนำไปสู่การขยายผลก้าวต่อไปให้ดูแลทรัพยากรธรรมชาติของประเทศได้มากกว่าเดิม โดยเฉพาะในปี 2567 ที่มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ มีแผนจะขยายผลอีก 150,000 ไร่ และมากขึ้นเรื่อยๆ ในปีถัดๆ ไป”

ความร่วมมือกับไทยคมในการพัฒนาเทคโนโลยีที่สามารถประเมินมวลชีวภาพในป่าได้อย่างรวดเร็ว และนำไปสู่การประเมินคาร์บอนเครดิตที่รวดเร็วและแม่นยำขึ้นจะเป็นกุญแจสำคัญในการพัฒนาอีโคซิสเท็มของการดำเนินโครงการลดก๊าซเรือนกระจกภาคป่าไม้ของประเทศไทย พร้อมกับดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมของภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชนเกิดขึ้นได้จริงอย่างรวดเร็วขึ้น มีความชัดเจนขึ้น และสามารถตรวจสอบได้

ขณะนี้ทางไทยคมได้นำความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี มาผสานกับฐานข้อมูลการประเมินมวลชีวภาพในพื้นที่ป่าของมูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ แล้ว ในอนาคตอันใกล้ เมื่อเทคโนโลยีได้รับการยอมรับจากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ จะได้นำเทคโนโลยีนี้ไปสร้างการมีส่วนร่วมในระดับชุมชน เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตชุมชนและดูแลป่า รวมถึงขับเคลื่อนประเทศไทยสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายใน พ.ศ. 2593 และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero GHG Emission) ภายใน พ.ศ. 2608 ด้วย