xs
xsm
sm
md
lg

Google เปิดกว้างโมเดล Gemini ดัน AI ให้ทุกบริษัทใช้งาน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กูเกิล (Google) จุดพลุโมเดลปัญญาประดิษฐ์ Gemini เปิดให้ทุกบริษัทใช้งานได้ผ่านเครื่องมือ Vertex AI หนึ่งในแรงกระเพื่อมสำคัญคือโมเดลนี้ช่วยให้ธุรกิจต่างๆ สร้างเครื่องมือค้นหาภายในของบริษัทได้เร็วทันใจ กลายเป็นการผสมสุดยอดระบบค้นหาของ Google เข้ากับข้อมูลบริษัท ระบุเห็นการเติบโตของนักพัฒนาและผู้ใช้อย่างมาก สถิติระหว่างไตรมาสที่ 2 ถึงไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ มีจำนวนโปรเจ็กต์ Generative AI ที่ใช้งานบน Vertex AI เพิ่มขึ้นมากกว่า 7 เท่าตัว

Google ระบุในแถลงการณ์ว่าตลอดปี 2023 บริษัทได้นำเสนอ 4 นวัตกรรม AI ที่น่าทึ่งให้กับลูกค้า ตลอดจนนักพัฒนาและชุมชนผู้ใช้ในวงกว้าง ล่าสุด Google ได้นำเสนอความสามารถใหม่เพื่อรองรับ Gemini ซึ่งเป็นโมเดลปัญญาประดิษฐ์ที่มีความสามารถมากที่สุดของ Google ที่สามารถสรุปและทำความเข้าใจเนื้อหาจำนวนมากได้อย่างราบรื่น ดำเนินการและรวมข้อมูลประเภทต่าง ๆ รวมถึงข้อความ โค้ดเขียนโปรแกรม เสียง รูปภาพ และวิดีโอ ในลักษณะเดียวกับที่มนุษย์เห็น ได้ยิน อ่าน ฟัง และพูดคุยเกี่ยวกับข้อมูลหลากหลายประเภทพร้อมกัน

"เริ่มตั้งแต่วันนี้ Gemini เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มเทคโนโลยี AI ที่บูรณาการในแนวตั้งและปรับให้เหมาะสมในแนวตั้ง ซึ่งประกอบด้วยชิ้นส่วนที่สำคัญหลายชิ้น ซึ่งทั้ง 4 องค์ประกอบนี้ได้รับการออกแบบทางวิศวกรรมให้ทำงานร่วมกัน ได้แก่ โครงสร้างพื้นฐาน AI ที่ขยายขนาดได้เป็นพิเศษ, โมเดลระดับโลก, Vertex AI และ Duet AI" Google ระบุ

4 นวัตกรรม AI เดิมที่ Google ให้บริการแล้วในปี 2023 คือ 1. AI Hypercomputer เพื่อฝึกอบรมและให้บริการโมเดล Generative AI; 2. Generative AI support in Vertex ซึ่งเป็นแพลตฟอร์ม Enterprise AI ของ Google; 3. Duet AI in Google Workspace; และ 4. Duet AI for Google Cloud ทั้งหมดเป็นหนึ่งในหลายความสามารถใหม่ของโครงสร้างพื้นฐานที่ปรับให้เหมาะสมกับ AI ของ Google ซึ่งมีจุดเด่นเรื่อง GPU, TPU, ซอฟต์แวร์ ML และคอมไพเลอร์ การจัดการปริมาณงาน และอื่น ๆ รวมถึงนวัตกรรมต่างๆใน Vertex AI และชุดความสามารถใหม่ทั้งหมดจาก Duet AI เอเจนท์ ในแพลตฟอร์ม Google Workspace และ Google Cloud

นักออกแบบแบรนด์สินค้ายุคหน้าอาจไม่ใช่คน เพราะ Google เปิดตัว Imagen 2 โมเดลปัญญาประดิษฐ์ที่แปลงข้อความเป็นรูปภาพสำหรับให้บริการแก่ลูกค้ากูเกิลคลาวด์ที่สามารถแทรกข้อความและออกแบบโลโก้ได้ในเวลาไม่กี่วินาที
ในเวลาไม่ถึง 1 ปี Google ย้ำว่าได้เห็นการเติบโตของนักพัฒนาและผู้ใช้อย่างมาก สำหรับสถิติที่พบว่าระหว่างไตรมาสที่ 2 ถึงไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ มีจำนวนโปรเจ็กต์ Generative AI ที่ใช้งานบน Vertex AI เพิ่มขึ้นมากกว่า 7 เท่านั้น ประกอบด้วยแบรนด์ชั้นนำ เช่น Forbes, Formula E และ Spotify ที่กำลังใช้ Vertex AI เพื่อสร้างเอเจนท์ของตนเอง ขณะที่ Anthropic, AI21 Labs และ Cohere กำลังอยู่ในช่วงฝึกอบรมโมเดลของตัวเอง ทั้งหมดนี้ Google มองว่าขอบเขตอันกว้างขวางและความคิดสร้างสรรค์ของแอปพลิเคชันที่บริษัทเหล่านี้กำลังพัฒนาขึ้นนั้นน่าทึ่งมาก โดยยกตัวอย่างแบรนด์ใหญ่อย่าง Fox Sports ซึ่งกำลังสร้างเนื้อหาที่น่าดึงดูดยิ่งขึ้น ขณะที่ Priceline กำลังสร้างเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวก หรือ Concierge ด้านการเดินทางดิจิทัล Six Flags กำลังสร้างเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกดิจิทัล และ Estée Lauder กำลังสร้างผู้จัดการแบรนด์ดิจิทัล

ล่าสุด Google ประกาศว่า Gemini เป็น AI รุ่นที่มีความยืดหยุ่นมากที่สุดของ Google เพราะสามารถทำงานบนทุกสิ่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตั้งแต่ศูนย์ข้อมูลไปจนถึงอุปกรณ์มือถือ โดย Gemini Ultra เป็นรุ่นที่ใหญ่ที่สุดและมีความสามารถมากที่สุดสำหรับงานที่ซับซ้อนสูง ในขณะที่ Gemini Pro เป็นรุ่นที่ดีที่สุดสำหรับการปรับขนาดในงานที่หลากหลาย และ Gemini Nano เป็นรุ่นที่มีประสิทธิภาพสูงสุดสำหรับงานบนอุปกรณ์ ความสามารถที่ล้ำสมัยจะช่วยยกระดับวิธีที่นักพัฒนาและลูกค้าองค์กรสร้างและขยายขนาดด้วย AI ได้อย่างมาก

***คลุมทั้งข้อความ โค้ด รูปภาพ และวิดีโอ

ในส่วนภาพ Google ได้เปิดตัวเวอร์ชันอัปเกรดของโมเดลรูปภาพชื่อ Imagen 2 ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการแปลงข้อความเป็นรูปภาพที่ทันสมัยที่สุดของ Google โดยเวอร์ชันใหม่สามารถสร้างภาพเสมือนจริง การแสดงข้อความ และการสร้างโลโก้ที่ดูดี เพื่อให้บริษัทสามารถสร้างภาพด้วยการแทรกข้อความและสร้างโลโก้ได้ง่ายในเวลาไม่กี่วินาที

Imagen 2 ถูกมองเป็นการปรับตัวของ Google ที่ปรับจากโมเดลรุ่นแรกซึ่งมีเคยมีปัญหาพบภาพถ่ายของบุคคลจริงหรืองานศิลปะที่มีลิขสิทธิ์ แต่เวอร์ชันใหม่นี้มีนวัตกรรมและเทคนิคซึ่งปูทางไปสู่การใช้ AI อย่างมีความรับผิดชอบมากขึ้นในการสร้างสรรค์ภาพ
สำหรับข้อความ Google มีความพยายามในการสร้างโมเดลเฉพาะโดเมนชื่อ "Med-PaLM" ถือเป็น MedLM หรือชุดโมเดลที่ได้รับการปรับแต่งทางการแพทย์ของ Google โดย MedLM พร้อมให้บริการเพื่อให้ผู้ใช้ที่อยู่ในรายชื่อใน Vertex AI สามารถนำเสนอลูกค้าด้วยพลังของโมเดลพื้นฐานของ Google ที่ปรับให้เข้ากับความเชี่ยวชาญทางการแพทย์

ทั้งหมดนี้ Google ประกาศว่า Gemini Pro พร้อมใช้งานแล้วในรูปแบบพรีวิวบน Vertex AI ที่ช่วยให้นักพัฒนาสามารถสร้างเอเจนท์แบบใหม่และมีความแตกต่างกัน ซึ่งสามารถประมวลผลข้อมูลผ่านข้อความ โค้ด รูปภาพ และวิดีโอได้แล้ว โดยเครื่องมือ Vertex AI ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถปรับใช้และจัดการเอเจนท์ในการผลิต ประเมินคุณภาพและความน่าเชื่อถือของการตอบกลับของเอเจนท์โดยอัตโนมัติ ตลอดจนตรวจสอบและจัดการเอเจนท์ได้อย่างราบรื่น

จุดนี้ Vertex AI จะให้การสนับสนุนที่ครอบคลุมสำหรับ Gemini ด้วยความสามารถในการค้นหา ปรับแต่ง เพิ่มเติม จัดการ และปรับใช้เอเจนท์ที่สร้างขึ้นโดยเทียบกับ Gemini API ซึ่งประกอบด้วยการรองรับในหลายมิติ ทั้งช่วยเสริมการปรับแต่งเอเจนท์ที่สร้างด้วย Gemini ในหลายด้านโดยใช้ข้อมูลของบริษัทเอง รวมถึงมีการทำงานด้านวิศวกรรมที่รวดเร็ว การปรับแต่งอย่างละเอียด ขณะเดียวกัน ยังมีเครื่องมือเสริมที่ช่วยให้เอเจนท์ใช้การฝังเพื่อดึงข้อมูล ทำความเข้าใจ และดำเนินการกับข้อมูลในโลกแห่งความเป็นจริง ทั้งหมดสามารถกำหนดค่าได้ และมีส่วนขยายเพื่อดำเนินการในนามของผู้ใช้ในแอปพลิเคชันบุคคลที่สามด้วย

นอกจากการสนับสนุน Gemini ใน Vertex AI แล้ว Google ยังวางแผนจะนำ Gemini Pro เข้าสู่ Vertex AI Search and Conversation เพื่อช่วยให้ทุกบริษัทสร้างแอปพลิเคชันที่น่าสนใจได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น

ในส่วนโค้ดเขียนโปรแกรม Google ยังมีแผนขยายขีดความสามารถของ Duet AI โดยจะรวม Gemini ไว้ในพอร์ตโฟลิโอ Duet AI ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ซึ่งที่ผ่านมา Duet AI for Developers ช่วยให้ผู้ใช้เขียนโค้ดได้เร็วขึ้นด้วยการเติมโค้ด AI การสร้างโค้ด และการแชทในสภาพแวดล้อมการพัฒนาแบบบูรณาการ (integrated development environments: IDEs) ที่หลากหลาย คาดว่าจะช่วยเพิ่มความคล่องตัวให้กับงานและกระบวนการของนักพัฒนา เพื่อให้มีทางลัดสำหรับงานทั่วไป เช่น การสร้างการทดสอบหน่วยและการอธิบายโค้ด ความเร็วในการตรวจสอบและแก้ไขปัญหา

Gemini Pro พร้อมใช้งานแล้วในรูปแบบพรีวิวบน Vertex AI
ล่าสุด Google ประกาศร่วมมือกับพันธมิตรด้านโค้ดและฐานความรู้มากกว่า 25 ราย ที่จะร่วมกันสนับสนุนชุดข้อมูลเฉพาะสำหรับแพลตฟอร์มของแต่ละองค์กร ดังนั้น ผู้ใช้ Duet AI for Developers จะได้รับความช่วยเหลือด้าน AI ตามแบบจำลองการเข้ารหัสและข้อมูลของพันธมิตร เอกสารประกอบผลิตภัณฑ์ แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุด และทรัพยากรขององค์กรที่เป็นประโยชน์อื่น ๆ เป็นต้น

เช่นเดียวกับ Duet AI in Security Operations ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มปฏิบัติการรักษาความปลอดภัยแบบครบวงจรของ Google Cloud จะได้รับการพัฒนาให้ผู้ใช้สามารถค้นหาข้อมูลจำนวนมหาศาลได้ในเวลาไม่กี่วินาทีด้วยการสืบค้นที่กำหนดเองได้จากภาษาธรรมชาติ ลดการตรวจสอบด้วยตนเองที่ใช้เวลานาน แสดงบริบทที่สำคัญอย่างรวดเร็วโดยใช้ประโยชน์จากการสรุปเนื้อหาอัตโนมัติของเคสข้อมูลและการแจ้งเตือนต่างๆ ตลอดจนการปรับปรุงเวลาในการตอบสนองโดยใช้คำแนะนำสำหรับขั้นตอนถัดไปเพื่อสนับสนุนการแก้ไขเหตุการณ์ได้อย่างรวดเร็ว

"Google เป็นเจ้าของกลุ่มเทคโนโลยี Duet AI ทั้งหมด ตั้งแต่โครงสร้างพื้นฐานและโมเดลพื้นฐานไปจนถึงการบูรณาการระดับสูงสุดและประสบการณ์ผู้ใช้ เราภูมิใจที่วิศวกรและนักวิจัยของเราร่วมมือกันเพื่อส่งมอบความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี AI ล่าสุดของเราสู่มือลูกค้าด้วยประสบการณ์ที่เรามีมาอย่างสม่ำเสมอในผลิตภัณฑ์ที่เป็นหนึ่งเดียวกันของเรา ทั้งนี้ ในต้นปีหน้า เราวางแผนที่จะขยาย Duet AI ทั่วทั้งพอร์ตโฟลิโอของเรา รวมถึง Duet AI ใน BigQuery, Looker, ผลิตภัณฑ์ฐานข้อมูลของเรา, Apigee และอื่น ๆ อีกมากมาย"

ทั้งหมดนี้ Google ย้ำว่าได้ให้ความคุ้มค่าด้านราคาที่ทำให้องค์กรสามารถเข้าถึง Gemini ได้มากขึ้น ซึ่ง Google กำลังขยายการชดใช้ค่าเสียหายเพื่อช่วยลดความกังวลเรื่องลิขสิทธิ์ของลูกค้าในอนาคตด้วย

Google ทิ้งท้ายว่าเมื่อรวม Gemini เข้ากับพอร์ตโฟลิโอโครงสร้างพื้นฐาน AI ของ Google จะทำให้ Vertex AI และ Duet AI สามารถส่งมอบระบบคลาวด์ที่ครอบคลุมและทรงพลังสำหรับนักพัฒนาและลูกค้า และจากนวัตกรรมเหล่านี้ Google Cloud กำลังยกระดับเอเจนท์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI รุ่นต่อไปสู่ทุกอุตสาหกรรม เพื่อเพิ่มขีดความสามารถให้กับองค์กรต่าง ๆ ในการสร้าง ใช้งาน และนำ Gen AI มาใช้อย่างประสบความสำเร็จ เพื่อเสริมความแข็งแกร่งในการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลให้ดียิ่งขึ้นต่อไป.


กำลังโหลดความคิดเห็น