True - dtac เผยการให้บริการแบบไร้กระดาษ (Paperless) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเดินหน้าใช้ระบบอัตโนมัติ 100% ภายในปี 2570 จะช่วยประหยัดเวลาดำเนินการในศูนย์บริการได้รวม 400,000 ชั่วโมงต่อปี พร้อมลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเสริมความยั่งยืนให้ธุรกิจด้วย
นายชารัด เมห์โรทรา รองประธานคณะผู้บริหาร บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การมุ่งมั่นที่จะพัฒนาประสบการณ์ของลูกค้าในทุกศูนย์บริการและทุกช่องทาง อย่างการนำปัญญาประดิษฐ์ (AI) ระบบอัตโนมัติ และหุ่นยนต์เสมือน จะช่วยเพิ่มความรวดเร็วในการให้บริการและปกป้องข้อมูลของส่วนบุคคลของลูกค้า
“การยกเลิกการใช้เอกสารแบบฟอร์มกระดาษ 100% ในศูนย์บริการทำให้ลูกค้าของเราใช้บริการได้ง่ายและสะดวกยิ่งขึ้น การใช้ระบบดิจิทัลอย่างสมบูรณ์แบบยังช่วยปกป้องข้อมูลลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของเราอีกด้วย”
จากเดิมก่อนปรับเป็นระบบดิจิทัล หรือไร้กระดาษ (Paperless) 100% ทรู คอร์ปอเรชั่น ได้มีการใช้เอกสารในรูปแบบต่างๆ สำหรับการทำรายการ 24 ประเภท ส่งผลให้การทำธุรกรรมของกค้าต้องกรอกเอกสารที่ใช้เวลานาน และการใช้กระดาษยังส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งอาจจะเกิดข้อผิดพลาดในการป้อนข้อมูลด้วย
พร้อมกันนี้ ทรู ได้นำระบบหุ่นยนต์เสมือนมาช่วยลดระยะเวลารอในร้านค้าได้ถึง 80% รวมถึงการนำ AI มาช่วยดำเนินการเพิ่มเติมอีก 20% ซึ่งจะช่วยให้ประหยัดเวลาของลูกค้าโดยรวมได้มากขึ้น จาก 400,000 เป็น 500,000 ชั่วโมงต่อปีในไตรมาสที่ 1 ปี 2567
การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของการยกระดับเพื่อทำให้ช่องทางบริการทรูและดีแทคเป็นอัตโนมัติมากยิ่งขึ้น โดยศูนย์บริการทรูและดีแทค พร้อมกับตัวแทนร้านค้าได้นำโซลูชัน AI มาใช้งาน ทำให้สามารถวินิจฉัยปัญหาและเสนอแนะได้ทันที ลดเวลาในการจัดการลง 35% รวมถึงการนำ AI มาใช้กับแชตบอต บริการลูกค้าประมาณ 150,000 รายการต่อเดือน
“ในฐานะบริษัทโทรคมนาคม-เทคโนโลยีชั้นนำอันดับ 1 ของไทย เรามุ่งมั่นที่จะสร้างมาตรฐานนำเสนอบริการที่ดีกว่า ปลอดภัยกว่า และยั่งยืนยิ่งขึ้นเพื่อลูกค้าของเรา เรายังมุ่งมั่นในการนำโซลูชันเพื่อพัฒนาทุกภาคส่วน และยกระดับการเปลี่ยนแปลงสู่ดิจิทัลของประเทศร่วมกัน”