กระทรวงดีอีเข้าหารือแนวทางป้องกัน และแก้ไขปัญหาอาชญากรรมทางไซเบอร์ จากกรณีข้อมูลส่วนบุคคลรั่วไหล แบ่งมาตรการดำเนินงาน 3 ระยะ ให้ สกมช.วิเคราะห์ความเสี่ยง กำหนดมาตรการจัดการ ก่อนแก้กฎหมาย PDPA และ Cybercrime
น ส.วงศ์อะเคื้อ บุญศล โฆษกกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมฝ่ายการเมือง (ดีอี) กล่าวว่า นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีดีอี ได้รับมอบหมายจากนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้เร่งดำเนินการเรื่องการป้องกันและแก้ไขปัญหาอาชญากรรมทางไซเบอร์ จากกรณีข้อมูลส่วนบุคคลรั่วไหล
โดยทางกระทรวงดีอีได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมหารือแนวทางการการบูรณาการป้องกันและแก้ไขปัญหาอาชญากรรมทางไซเบอร์จากกรณีข้อมูลส่วนบุคคลรั่วไหล โดยข้อสรุปของที่ประชุม คือ แบ่งมาตรการการดำเนินการเป็น 3 ระยะ ได้แก่ ระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว
เริ่มจากในระยะสั้น จะใช้เครื่องมือของศูนย์เผ้าระวังและติดตามสถานการณ์ตรวจสอบการรั่วไหลของข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อตรวจสอบพฤติกรรม ส่วนในกรณีที่เกิดการโจรกรรมข้อมูล จะให้ สกมช. วิเคราะห์ความเสี่ยง และระบุมาตรการของแต่ความเสี่ยง พร้อมจัดให้มีคนเฝ้าระวัง ส่วนกรณีซื้อขายข้อมูลส่วนบุคคล ให้มีมาตรการจัดการเด็ดขาด ได้แก่ การปิดกั้น และจับกุม
สำหรับในระยะกลาง จะมีการสร้างและพัฒนาระบบคลาวด์ที่น่าเชื่อถือสำหรับจัดเก็บข้อมูล และระยะยาว จะดำเนินการต่อเนื่องด้วยการเข้าไปปรับแก้กฎหมาย PDPA และ Cybercrime ให้มีความครอบคลุมมากยิ่งขึ้น
“นายกรัฐมนตรี มีความห่วงใยประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาอาชญากรรมไซเบอร์ จึงได้กำชับรัฐมนตรีดีอีให้เร่งดำเนินการในเรื่องนี้โดยด่วน และให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการความร่วมมือ หาแนวทางเพิ่มประสิทธิภาพให้เด็ดขาดด้วย” โฆษกดีอี กล่าว