eLife (อีไลฟ์ ซิสเต็มท์) เปิดแผนสร้างรายได้ประจำ ก่อนนำบริษัทเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ หลังผนึก Netka (เน็ตก้า ซิสเต็ม) เป็นตัวแทนจำหน่ายโซลูชัน RegTech และ OpsTech เจาะฐานลูกค้า SMEs โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าเดิมกว่า 60,000 ราย
ณัฐวุฒิ ชินวันธนานนท์ ผู้ก่อตั้งและซีอีโอ บริษัท อีไลฟ์ ซิสเต็มท์ จำกัด กล่าวว่า ในตลาดองค์กรธุรกิจขนาดเล็ก และกลางประเทศไทยยังมีแนวโน้มความต้องการใช้งานโซลูชันเพื่อเข้ามาช่วยจัดการข้อมูลในธุรกิจ โดยเฉพาะหลังจากที่เริ่มมีการบังคับใช้กฏหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และจะเริ่มมีความจำเป็นมากยิ่งขึ้น
“ในมุมของธุรกิจ SMEs การลงทุนโซลูชัน Regulatory Tech ที่เข้าไปจัดการข้อมูลภายในองค์กร หรือแม้แต่การนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยลดความซ้ำซ้อนในการทำงานต่างๆ จะมีข้อจำกัดในแง่ของการลงทุน ทำให้ eLife มองถึงรูปแบบการให้บริการที่จะเข้าไปช่วยดูแลฐานลูกค้าในกลุ่มนี้แบบระยะยาวแทน”
การทำตลาดโซลูชัน Netka ที่เกิดขึ้นจากความร่วมมือในครั้งนี้ จะเปิดทางให้ eLife สามารถนำเสนอโซลูชันในการจัดการข้อมูล และทรานส์ฟอร์มธุรกิจสู่ดิจิทัลให้แก่ภาคธุรกิจในทั้งในส่วนของเครื่องขนาดเล็กแบบขายขาด รวมถึงในลักษณะของการเช่าใช้งานระยะยาว เพื่อช่วยให้ SMEs สามารถเข้าถึงการใช้งานดิจิทัลได้ง่ายขึ้น
ที่ผ่านมา eLife เติบโตเป็นอย่างมากในช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดหลังความต้องการใช้งานสินค้าเทคโนโลยี และโซลูชันต่างๆ เพิ่มมากขึ้นจนทำให้ eLife มีรายได้ในปีที่ผ่านมากว่า 1,000 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม หลังจากดีมานด์ที่ลดลงในปีนี้ มีโอกาสที่รายได้จะปรับลดลง กลับไปอยู่ในภาพของตลาดก่อนเกิดการแพร่ระบาด
ทั้งนี้ ข้อมูลล่าสุดจาก eLife ระบุว่าปัจจุบันมีฐานลูกค้าในกลุ่ม SMEs ไทยอยู่ราว 60,000 ราย โดยที่กว่า 20,000 ราย เป็นลูกค้าที่กลับมาเลือกซื้อสินค้า-โซลูชันไอทีเพิ่มเติมอยู่เรื่อยๆ ทำให้มั่นใจว่าการทำตลาดในโมเดล Subscription นี้ จะช่วยเพิ่มฐานลูกค้าที่สร้างรายได้ระยะยาวให้แก่บริษัท เพื่อที่จะได้เตรียมตัวนำบริษัทเข้าระดุมทุนในตลาดต่อไปในอนาคต
โดยทาง eLife ได้มีการเข้าไปเจรจากับผู้ให้บริการสินเชื่อรายใหญ่ที่พร้อมเข้ามาร่วมลงทุนทั้งในแง่ของการปล่อยสินเชื่อให้ SMEs ในการซื้อสินค้าของ Netka ในลักษณะของตัวเครื่องพร้อมใช้งาน รวมถึงการเช่าใช้งานในระยะยาวพร้อมบริการหลังการขายในลักษณะของไอทีเอาต์ซอร์สให้บริการด้วย
ชาญชัย เจียมโชติพัฒนกุล ผู้ก่อตั้งและซีอีโอ บริษัท เน็ตก้า ซิสเต็ม จำกัด ให้ข้อมูลว่า การแต่งตั้งดิสทริบิวเตอร์เพิ่มในครั้งนี้จะช่วยให้เน็ตก้า เข้าถึงฐานลูกค้าในกลุ่ม SMEs ที่ทาง eLife มีความเชี่ยวชาญเพิ่มมากขึ้น จากที่ก่อนหน้านี้ลูกค้าของเน็ตก้าจะมีสัดส่วนจากองค์กรขนาดกลาง และใหญ่เป็นหลัก
“คาดว่ารูปแบบการนำเสนอโซลูชันในลักษณะของการเช่าใช้แก่ SMEs จะช่วยให้ผู้ประกอบการไทยสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีได้ง่ายขึ้น และช่วยให้ภาคธุรกิจไทยสามารถทรานส์ฟอร์มสู่ดิจิทัล และใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี โดยเฉพาะการเข้าถึงคลาวด์ที่จะช่วยลดต้นทุน และเพิ่มประสิทธิภาพให้แก่ธุรกิจได้”
ขณะเดียวกัน Netka ยังได้เตรียมนำเสนอรูปแบบของโซลูชัน RegTech รูปแบบใหม่ที่มีการผสมผสาน Generative AI เข้าไปเพื่อช่วยให้ลูกค้าที่ใช้งานสามารถถามตอบ หรือป้อนคำสั่งต่างๆ เพื่อให้ AI ที่ทำหน้าที่เหมือน Copilot มาช่วยให้ทำงานได้รวดเร็วขึ้น
สำหรับในช่วงที่ผ่านมา Netka ถือเป็นผู้พัฒนาโซลูชันสำหรับภาคธุรกิจที่ต้องการโซลูชันในการจัดการข้อมูลภายในองค์กร โดยเฉพาะเรื่องความเป็นส่วนตัวของข้อมูล (Data Privacy) ที่ปัจจุบันการมี พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) ยิ่งทำให้ภาคธุรกิจต้องหันมาเตรียมพร้อมในส่วนนี้ด้วย