นับตั้งแต่เปิดตัวโมเดล AI สร้างรูปภาพ “ไฟร์ฟลาย” (Firefly) ตัวแรกเมื่อเดือนมีนาคม อะโดบี (Adobe) ยอมรับว่ารู้สึกประหลาดใจกับการตอบรับที่ดีเยี่ยมจากผู้ใช้ โดยปัจจุบันมีการสร้างภาพโดยใช้โมเดล Firefly มากกว่า 3 พันล้านภาพ ซึ่งในจำนวนนี้การสร้างภาพมากกว่า 1 พันล้านภาพได้เกิดขึ้นในเดือนที่แล้ว (กันยายน) เพียงเดือนเดียว
การแห่มาใช้ Firefly ในช่วงระยะแรกนี้แสดงให้เห็นถึงพลังที่โดดเด่นสะท้อนได้ว่า Firefly มีประโยชน์มากต่อการเพิ่มประสิทธิภาพในการออกแบบ แถมยังช่วยเร่งขั้นตอนการทำงานครีเอทีฟให้เร็วทันใจ
ศิลปินคนสร้างงานอาจใจเสียหลังจากได้ฟัง แต่อะโดบีนั้นไม่กังวล และย้ำว่ารูปภาพหรือเวกเตอร์ที่ “GenAI” หรือ Generative AI เริ่มต้นวาดไว้นั้นเป็นเพียง “first cut” หรือการร่างงานรอบแรกเท่านั้น ทำให้ทักษะการสร้างสรรค์ของครีเอทีฟยังคงจำเป็นในการแก้ไขและจัดรูปทรงของงานก่อนนำไปใช้งานจริง
***ยกทัพ 100 ฟีเจอร์ AI ใหม่
ก่อนจะปิดปี 2023 อะโดบีตัดสินใจเปิดตัว 3 โมเดล AI ใหม่ในตระกูล Adobe Firefly ได้แก่ Adobe Firefly Image 2 Model, Adobe Firefly Vector Model และ Adobe Firefly Design Model ทั้งหมดได้รับการออกแบบเพื่อสร้างเนื้อหาปลอดภัยไร้พิษลิขสิทธิ์สำหรับใช้ในเชิงพาณิชย์ โดยหากนับรวมยอด กองทัพฟีเจอร์ AI ใหม่ที่อะโดบีอัปเดตล่าสุดจะนับได้มากกว่า 100 รายการ ทั้งหมดถูกเผยแพร่ในแอปพลิเคชันหลักของ Adobe Creative Cloud ซึ่งรวมถึง Illustrator, Photoshop, Lightroom, Premiere Pro, After Effects และ Adobe Stock
พื้นที่น่าสนใจที่ถูกไฮไลต์เป็นพิเศษคือ Adobe Express ซึ่งเป็นแอปสร้างสรรค์งานแบบครบวงจร หรือ all-in-one creativity app ที่ได้เพิ่มความสามารถ AI ใหม่ที่โลกตื่นเต้น เช่น ฟีเจอร์ Generative Fill เป็นเครื่องมือที่ช่วยเพิ่มและลบพื้นหลังภาพด้วยการพิมพ์ข้อความแต่ได้ผลลัพธ์ที่สมจริง ล่าสุด Generative Fill ใน Photoshop ซึ่งมีอัตราการนำไปใช้มากถึง 10 เท่า เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า
ยังมีฟีเจอร์ Text to Template (สร้างเทมเพลตด้วยข้อความ) และฟีเจอร์ Translate ด้านการแปล ทำให้ผู้ใช้ทุกระดับทักษะใช้งานได้เร็วและสนุกยิ่งขึ้น รวมถึงการเพิ่มฟีเจอร์การวาดภาพและระบายสีสำหรับนักเรียน
นอกจากนี้ อะโดบียังเปิดตัว “เจนสตูดิโอ” (Adobe GenStudio) ซึ่งจะมีบทบาทเร่งขยายคลังคอนเทนต์หรือเนื้อหาสำหรับองค์กร จุดนี้อะโดบีพบว่าองค์กรทั่วโลกมีความต้องการสร้างและเปิดใช้งานคอนเทนต์แบบเรียลไทม์มากขึ้น อะโดบีจึงได้นำเสนอ Adobe GenStudio ซึ่งเป็นโซลูชันใหม่ที่มัดรวบกระบวนการตั้งแต่คิดค้นไอเดีย การสร้างคอนเทนต์ การผลิต จนถึงการเปิดใช้งาน แล้วเติม Firefly Generative AI ที่สามารถปรับแต่งได้ลงไป กลายเป็นการพลิกโฉมซัปพลายเชนด้านคอนเทนต์ระดับองค์กร
ขณะเดียวกัน อะโดบีกำลังพัฒนา Foundation Model คุณภาพสูงสำหรับสื่อทุกประเภท ตั้งแต่การแสดงผลภาพบุคคลให้แม่นยำยิ่งขึ้น การปรับปรุงการจัดตำแหน่งข้อความ การผลิตกราฟิกแบบเวกเตอร์ การสร้างโลโก้ กราฟิกสำหรับเว็บไซต์ บรรจุภัณฑ์สินค้า ไอคอน และอื่นๆ รวมถึงงานดีไซน์เทมเพลตทั้งกลุ่มใบปลิว โปสเตอร์ บัตรเชิญ และอื่นๆ
ไซมอน เดล รองประธานบริหารและกรรมการผู้จัดการประจำเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเกาหลีของ Adobe แสดงความมั่นใจว่าอะโดบีให้ความสำคัญกับลิขสิทธิ์และการอนุญาตอย่างจริงจัง โดยมีการใช้เนื้อหาสำหรับการฝึก AI ที่มีสิทธิใช้งานทั้งหมด ตอกย้ำความโปร่งใสในแง่ของชุดข้อมูลที่ใช้ โดยเฉพาะใน Adobe Stock และเนื้อหาที่เป็นสาธารณสมบัติ
“Firefly ของเราได้รับการฝึกอบรมเฉพาะกับชุดข้อมูลที่เรามั่นใจว่าเรามีสิทธิใช้และฝึกอบรมเท่านั้น เรากำลังฝึกอบรมโมเดล Firefly เชิงพาณิชย์เบื้องต้นเกี่ยวกับเนื้อหาลิขสิทธิ์ เช่น Adobe Stock และเนื้อหาที่เป็นสาธารณสมบัติที่ลิขสิทธิ์หมดอายุ” ไซมอนกล่าว “เราได้เห็นว่ารูปภาพ หรือเวกเตอร์ที่ AI สร้างไว้เริ่มต้นนั้นเป็นเพียง ‘ร่างแรก’ และทักษะการสร้างสรรค์ยังคงจำเป็นในการแก้ไขและจัดรูปทรงของภาพที่ได้”
การยอมรับว่าผลลัพธ์เริ่มต้นจาก Generative AI ของอะโดบีนั้น เป็นร่างแรกที่ยังคงต้องใช้การป้อนข้อมูลและการแก้ไขอย่างสร้างสรรค์ ถือเป็นการเน้นย้ำถึงบทบาทเสริมที่ AI สามารถเล่นในกระบวนการสร้างสรรค์ควบคู่ไปกับความคิดสร้างสรรค์ของมนุษย์ ซึ่งแน่นอนว่าอะโดบีไม่ใช่รายเดียวในตลาด และอะโดบีได้เตรียมการรับมือเพื่อรักษาการแข่งขันไว้ให้ได้
“เรามีโมเดลเครดิตใน GenAI - Basic Firefly ที่มอบให้ฟรี 25 เครดิตต่อเดือน ผู้ใช้สามารถชำระค่าสมัครสมาชิกรายเดือนจำนวน 100 เครดิตภายใน Firefly การสมัครสมาชิก Creative Cloud, Adobe Express หรือ Adobe Stock อื่นๆ ทั้งหมดตอนนี้รองรับเครดิตรายเดือนแล้ว”
เบ็ดเสร็จแล้ว โลกสามารถสัมผัสได้ว่าอะโดบีกำลังพยายามสร้างความมั่นใจให้ครีเอทีฟมองอะโดบีเป็นพันธมิตรที่พร้อมซัปพอร์ตมากกว่าที่จะเป็นศัตรูนำ Generative AI มาขึ้นเวทีรำดาบสองคมในอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ เพราะแม้อะโดบีจะสามารถปรับปรุงและเร่งกระบวนการสร้างสรรค์ ทำให้การสร้างเนื้อหาง่ายและรวดเร็วยิ่งขึ้นจริง แต่ยังมีความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับคนครีเอทีฟที่เคยเชี่ยวชาญด้านการสร้างสรรค์มาก่อน โดยเฉพาะศิลปินที่อาจเห็นว่าเนื้องานจำนวนมากกำลังถูกแทนที่ด้วยเนื้อหาที่สร้างโดย AI
ดังนั้น ศิลปินคนครีเอทีฟทุกคนจึงต้องปรับตัว ในวันที่ AI ได้วาดรูปมากกว่า 3 พันล้านภาพเรียบร้อยแล้ว
