รายงานการใช้อุปกรณ์เคลื่อนที่จากอีริคสัน (Ericsson Mobility Report) ฉบับล่าสุด คาดอีก 5 ปีข้างหน้า ยอดการใช้ดาต้าเน็ตต่อสมาร์ทโฟนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และโอเชียเนีย จะสูงถึง 54 กิกะไบต์ต่อเดือน ขณะที่สิ้นปีนี้ 80% ของประชากรไทยสามารถเข้าถึงบริการ 5G
นายเฟรดริก เจดลิง รองประธานผู้บริหารและหัวหน้าฝ่ายเครือข่ายของอีริคสัน ยอมรับว่ารายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุดแสดงการเติบโตของรายได้อย่างต่อเนื่องในตลาดที่เป็นผู้นำ 5G โดยกล่าวว่า ยอดผู้ใช้ 5G ทั่วโลกมีเกินหนึ่งพันล้านบัญชีไปแล้ว ทำให้ผู้ให้บริการด้านการสื่อสารในตลาด 5G ชั้นนำมีรายได้เติบโตในเชิงบวก
"เราเห็นความเชื่อมโยงที่แข็งแกร่งระหว่างการสมัครบริการ 5G ที่เพิ่มขึ้น และรายได้จากการให้บริการ โดยในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาจากการเปิดตัวบริการ 5G ใน 20 ตลาดชั้นนำ ส่งผลให้มีรายได้เพิ่มขึ้น 7% แนวโน้มนี้แสดงให้เห็นถึงมูลค่าที่เพิ่มขึ้นของ 5G ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อทั้งผู้ใช้และผู้ให้บริการ”
สำหรับรายงาน Ericsson Mobility ฉบับล่าสุด การศึกษาพบว่า 5G ทั่วโลกยังเติบโตต่อเนื่อง โดยผู้ใช้บริการมือถือ 5G เพิ่มขึ้นในทุกภูมิภาค และคาดว่าภายในสิ้นปี 2566 จะพุ่งไปถึง 1.5 พันล้านรายทั่วโลก พร้อมกับตลาดผู้นำ 5G มีรายได้เติบโตอย่างต่อเนื่อง และปริมาณการใช้ดาต้าบนมือถือยังเติบโตแข็งแกร่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และโอเชียเนีย โดยคาดว่าจะสูงถึง 54 กิกะไบต์ต่อเดือน ในปี 2571
สัญญาณว่าผู้ให้บริการด้านการสื่อสารทั่วโลกยังเดินหน้าลงทุนกับ 5G อย่างต่อเนื่องนั้นชัดเจน แม้ว่ารายงาน Mobility Report ของ Ericsson (NASDAQ : ERIC) ฉบับเดือนมิถุนายน 2566 จะพบความท้าทายทางภูมิรัฐศาสตร์และการชะลอตัวของเศรษฐกิจมหภาคในบางตลาด ในอีกด้าน ปริมาณการใช้ดาต้าเน็ตต่อสมาร์ทโฟนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และโอเชียเนียยังเติบโตอย่างแข็งแกร่งในภูมิภาคนี้ และคาดว่าจะสูงถึง 54 กิกะไบต์ต่อเดือนในปี 2571 หรือเติบโต 24% ต่อปี
เบื้องต้น ยอดการใช้ดาต้าเน็ตมือถือทั้งหมดคาดว่าจะเพิ่มขึ้นจาก 13 เอกซะไบต์ต่อเดือนในปี 2565 เป็น 55 เอกซะไบต์ต่อเดือนในปี 2571 โดยเติบโต 27% ต่อปี
ขณะเดียวกัน ภายในสิ้นปี 2571 คาดว่ายอดผู้ใช้งาน 5G จะเพิ่มเป็น 430 ล้านราย คิดเป็น 34% ของยอดผู้ใช้งานบริการมือถือทั้งหมดของภูมิภาคในช่วงเวลาเดียวกัน
ในแง่ของความครอบคลุม 5G ภายในสิ้นปี 2565 พบว่า 5G พร้อมให้บริการแก่ประชากรประมาณ 50% ในมาเลเซีย และ 66% ในฟิลิปปินส์ ขณะที่กว่า 80% ของประชากรในออสเตรเลียและไทยสามารถเข้าถึงบริการ 5G
ตัวเลข 80% ของประชากรไทยที่สามารถเข้าถึงบริการ 5G ในสิ้นปีนี้ถือว่ายังต่ำกว่าสิงคโปร์ สถิติที่เก็บได้เมื่อกลางปี 2565 พบว่า 5G ในสิงคโปร์ครอบคลุมมากกว่า 95% แล้ว อย่างไรก็ตาม นายอิกอร์ มอเรล ประธานบริษัท อีริคสัน ประเทศไทย กล่าวว่า อีริคสันมุ่งเดินหน้าทำงานร่วมกับผู้ให้บริการอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างความสำเร็จในการมอบเครือข่ายที่มีประสิทธิภาพครอบคลุมการใช้งาน มีความยืดหยุ่น รองรับการเติบโตธุรกิจ ใช้งานง่ายและมีความปลอดภัยเป็นหลักสำคัญ
"ในฐานะผู้ให้บริการด้านการเชื่อมต่อที่ได้รับความไว้วางใจและดำเนินกิจการมาอย่างยาวนานในประเทศไทย เราได้ทำงานใกล้ชิดกับผู้ให้บริการด้านการสื่อสารหลักๆ ในประเทศ ภาครัฐบาล ตลอดจนภาคอุตสาหกรรมและสถาบันการศึกษาในการพัฒนาระบบนิเวศ 5G ในประเทศเพื่อบรรลุตามวิสัยทัศน์ Thailand 4.0"
ในส่วนจำนวนผู้ใช้สมาร์ทโฟนในภูมิภาคนี้คาดว่าจะเติบโตเฉลี่ย 3% ต่อปี และภายในปี 2571 จะเพิ่มไปถึง 1.12 พันล้านราย จาก 930 ล้านราย ณ สิ้นปี 2565 ขณะที่ผู้ใช้บริการ 4G คาดว่าจะยังมีการเติบโตที่ 770 ล้านราย ภายในปี 2571 เพิ่มจาก 640 ล้านราย ณ สิ้นปี 2565 หรือเติบโตเฉลี่ย 3% ต่อปีเช่นกัน
การสำรวจพบอีกว่า อินเดียเป็นตลาด 5G สำคัญที่กำลังปรับใช้งานเครือข่ายขนาดใหญ่มากมายภายใต้กรอบนโยบาย Digital India หลังเปิดให้บริการ 5G ไปเมื่อเดือนตุลาคม ปี 2565 เมื่อสิ้นปี 2565 อินเดียมียอดผู้ใช้บริการ 5G ประมาณ 10 ล้านราย และคาดว่าภายในสิ้นปี 2571 ยอดการใช้บริการ 5G จะเพิ่มเป็น 57% ของยอดผู้ใช้บริการมือถือทั้งหมดในประเทศ ส่งผลให้ภูมิภาคนี้เป็นภูมิภาค 5G ที่เติบโตรวดเร็วที่สุดในโลก
รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับนี้ยังเผยให้เห็นว่าผู้ใช้บริการ 5G ในทวีปอเมริกาเหนือนั้นมีการเติบโตแข็งแกร่งกว่าการคาดการณ์ครั้งก่อน โดยเมื่อสิ้นปี 2565 ที่ผ่านมา ภูมิภาคนี้มีสัดส่วนผู้ใช้บริการ 5G สูงสุดในโลกที่ 41%
ผู้ใช้บริการ 5G เพิ่มขึ้นในทุกภูมิภาคทั่วโลกและคาดว่าจะเพิ่มไปถึง 1.5 พันล้านราย ภายในสิ้นปี 2566 ส่วนปริมาณการใช้ดาต้าผ่านเครือข่ายมือถือทั่วโลกก็เติบโตอย่างต่อเนื่องเช่นกัน คาดว่าภายในสิ้นปี 2566 ยอดการใช้ดาต้าบนมือถือต่อสมาร์ทโฟนทั่วโลกจะเกินกว่า 20 กิกะไบต์ต่อเดือน
ผู้ให้บริการด้านการสื่อสาร (CSP) ประมาณ 240 รายทั่วโลกเปิดตัวบริการ 5G เชิงพาณิชย์ และประมาณ 35 รายปรับใช้หรือเปิดตัว 5G แบบสแตนด์อะโลน (SA) โดยบริการ 5G สำหรับผู้บริโภคที่เห็นได้มากที่สุดได้แก่ Enhanced Mobile Broadband (eMBB), Fixed Wireless Access (FWA), เกม และบริการอื่นๆ ที่ใช้กับอุปกรณ์ AR/VR เช่น การฝึกอบรมและการศึกษา
รายงานยังเผยให้เห็นว่า 5G ยังคงขับเคลื่อนนวัตกรรมในแพกเกจบริการมือถือ ผู้ให้บริการนำเสนอบริการบันเดิลเป็นชุดความบันเทิงยอดนิยมต่างๆ มากขึ้น เช่น โทรทัศน์ การสตรีมเพลง หรือแพลตฟอร์มเกมบนคลาวด์ ซึ่งในปัจจุบันมีผู้ให้บริการ 5G ประมาณ 58% นำเสนอบริการเหล่านี้ในหลากหลายรูปแบบ
การสำรวจพบด้วยว่าผู้ให้บริการมากกว่า 100 ราย หรือประมาณ 40% ของผู้ให้บริการ Fixed Wireless Access (FWA) ให้บริการ FWA บน 5G อยู่ในเวลานี้ โดยบริการ FWA กำลังเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ทั้งในแง่จำนวนผู้ให้บริการมือถือที่ให้บริการ FWA สัดส่วนของผู้ให้บริการ FWA บนเครือข่าย 5G สัดส่วนของผู้ให้บริการ CSP ที่มีโครงสร้างค่าบริการตามความเร็ว และปริมาณการใช้ดาต้าที่ให้บริการ เนื่องจากมียอดการเชื่อมต่อและการใช้ดาต้าเน็ตต่อการเชื่อมต่อเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ ภายในปี 2571 คาดว่าการเชื่อมต่อ FWA ทั้งหมดจะเป็น 5G เกือบ 80%
