เอเซอร์เปิดผลิตภัณฑ์รักษ์โลกชุดใหม่ สานต่อเป้าหมาย Net Zero ภายในปี 2050 ด้วยจักรยานไฟฟ้า ebii เครื่องฟอกอากาศ Acerpure Pro และโน้ตบุ๊ก Aspire Vero พร้อมสินค้าในกลุ่มภาคธุรกิจ และโครมบุ๊กเพื่อการศึกษา
เจสัน เฉิน ซีอีโอเอเซอร์ กล่าวว่า สิ่งสำคัญที่เอเซอร์มุ่งพัฒนาในวันนี้ คือ การสร้างความสมดุลระหว่างเทคโนโลยี และธรรมชาติ ซึ่งนวัตกรรมที่เกิดขึ้นนี้จะเข้าไปช่วยเสริมประสบการณ์ใช้งานของผู้บริโภค รวมถึงการใช้งานในชีวิตประจำวัน เพื่อก้าวไปสู่อนาคตที่ยั่งยืน
“ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา AI ได้เข้ามาเป็นส่วนสำคัญของกลยุทธ์เอเซอร์ ทำให้ที่ผ่านมากลุ่มผลิตภัณฑ์คอมพิวเตอร์ที่สามารถแสดงผลภาพ 3D ได้สร้างประสบการณ์ที่สมจริงให้แก่เกมเมอร์ รวมถึงนักออกแบบที่นำไปใช้งาน ตลอดจนถึงการนำ AI ไปช่วยในการตรวจวินิจฉัยปัญหาสุขภาพดวงตา”
ปัจจุบัน เอเซอร์กำลังอยู่ระหว่างการศึกษาว่า AI จะเข้ามาช่วยพัฒนาขั้นตอนต่างๆ ให้รวดเร็วขึ้น อย่างการทำงานร่วมกับสถาบันทางการแพทย์เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพจิตด้วยการวิเคราะห์ใบหน้าช่วยให้แพทย์รับมือกับสถานการณ์ของคนไข้ที่เกิดขึ้น
นอกจากนี้ หลักสำคัญของเอเซอร์ในช่วงที่ผ่านมาคือ การพัฒนาสินค้าให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อก้าวสู่การทำธุรกิจอย่างยั่งยืน เพื่อให้บรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2050 โดยที่ภายในปี 2035 จะเริ่มนำระบบพลังงานไฟฟ้าหมุนเวียนมาใช้งานแบบ 100%
โดยก่อนหน้านี้ เอเซอร์มีการเปิดตัวจักรยาน e-Kinetic ที่เป็นทั้งโต๊ะทำงาน และเก้าอี้ปั่นจักรยานที่สามารถสร้างพลังงานได้ จนมาล่าสุดคือการพัฒนาจักรยานไฟฟ้า ebii (ไม่ทำตลาดในไทย) และกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าไลฟ์สไตล์อย่างเครื่องฟอกอากาศ Acerpure Pro Vero ที่ผลิตจากวัสดุ PCR ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น
ขณะที่กลุ่มสินค้าโน้ตบุ๊กรักษ์โลก Acer Vero ได้มีการอัปเดตสินค้าใหม่อย่าง Acer Aspire Vero 15 (AV15-53P) โน้ตบุ๊กที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ลดการปล่อยคาร์บอนได้ถึง 30% ในกระบวนการผลิต เสริมประสิทธิภาพด้วยชิปประมวลผล 13th Gen Intel Core หน้าจอ 15.6 นิ้ว พร้อมกล้องเว็บแคมความละเอียด QHD เพื่อรองรับการใช้งานในปัจจุบัน
นอกจากนี้ ยังมีโปรเจกเตอร์ Acer Vero PL3510ATV มาพร้อมกับเทคโนโลยีฉายแสงรุ่นใหม่ช่วยลดการใช้พลังงาน 48% เมื่อเทียบกับโปรเจกเตอร์ที่ใช้หลอดไฟทั่วไป อายุการใช้งาน 30,000 ชั่วโมง
รวมถึงผลิตภัณฑ์ในกลุ่มเกมเมอร์อย่าง Predator Helios 3D 15 โน้ตบุ๊กที่สามารถแสดงผลคอนเทนต์ในลักษณะของ 3 มิติ ที่อัปเกรดให้ทรงพลังมากยิ่งขึ้น ด้วย 13 Gen Intel Core i9 และกราฟิก RTX 4080 ในราคา 3,499 เหรียญสหรัฐ (ราว 120,000 บาท)
***เสริมไลน์โน้ตบุ๊กธุรกิจ-การศึกษา
พร้อมกันนี้ Acer ยังเปิดตัวโน้ตบุ๊กสำหรับธุรกิจ Acer TravelMate และ Chromebook TravelMate P6 14, TravelMate P4 14, TravelMate P4 Spin 14, TravelMate P2 และ Acer Chromebook Spin 714 และ Chromebook Enterprise Spin 714 มาเพื่อทำตลาดในช่วงครึ่งหลังของปี 2023 ด้วย
ไฮไลต์สำคัญจะอยู่ที่ Acer TravelMate P6 14 โน้ตบุ๊กธุรกิจที่เหมาะกับการพกพา มากับหน้าจอความละเอียด 2.8K ทำงานบน Intel vPro เลือกได้สูงสุดที่ 13 Gen Intel Core i7 RAM 32 GB แบตเตอรี่ชาร์จเร็ว 65W ในราคา 1249.99 เหรียญ (ราว 43,000 บาท)
ขณะที่ Chromebook Spin 714 และ Acer Chromebook Enterprise Spin 714 โครมบุ๊กที่สามารถปรับรูปแบบการใช้งานได้หลากหลาย ปีนี้อัปเกรดมาใช้ซีพียู 13 Gen Intel Core พร้อมแบตเตอรี่ใช้งานได้ต่อเนื่อง 10 ชั่วโมง บนหน้าจอแสดงผล 14” ในราคาเริ่มต้น 699 เหรียญ (ราว 24,000 บาท)
นายเจมส์ ลิน ผู้จัดการทั่วไปผู้จัดการทั่วไปด้านโน้ตบุ๊กธุรกิจและผลิตภัณฑ์ไอที เอเซอร์ อิงค์ กล่าวว่า Chromebook รุ่นใหม่นี้เหมาะสำหรับผู้บริหารและคนทำงานที่ต้องเดินทาง รวมถึงผู้ใช้ทั่วไปและนักเรียนที่ต้องใช้แอปพลิเคชันขั้นสูง ในขณะเดียวกันคุณสมบัติต่างๆ ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมรองรับความมุ่งมั่นและการทำงานของเอเซอร์ Acer ในการสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อม