ZTE จับมือ AIS เปิดตัวเซิร์ฟเวอร์ G5 ซีรีส์ ในไทย และเป็นครั้งแรกในต่างประเทศ รองรับการใช้งานของภาคอุตสาหกรรม ชูความโดดเด่นเรื่องปลอดภัยสูง พลังประมวลผลที่เร็วขึ้น รองรับการทำงานบนดิจิทัลผ่านการเชื่อมต่อโครงสร้างพื้นฐานที่มีประสิทธิภาพ
หวัง เฉวียน รองประธานกรรมการ แซดทีอี คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า เศรษฐกิจในยุคดิจิทัล เทคโนโลยี 5G นวัตกรรมปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI รวมไปถึงเทคโนโลยีอัจฉริยะเสมือนจริงกำลังผสมผสานเข้ากับเทคโนโลยีดิจิทัลอื่นๆ โดยกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของคนอย่างรวดเร็ว นำไปสู่การกำเนิดนวัตกรรมและบริการใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง
“เพื่อที่จะตอบสนองความต้องการได้อย่างรอบด้านโดยผลิตภัณฑ์เซิร์ฟเวอร์กลายเป็นตัวแทนของสังคมดิจิทัลและเป็นศูนย์กลางของระบบปฏิบัติการเทคโนโลยีสารสนเทศที่เป็นเสมือนโครงสร้างพื้นฐานที่มีความสำคัญอย่างมากของโลกยุคดิจิทัล”
ขณะเดียวกัน การขับเคลื่อนรายได้ขององค์กรที่ให้บริการด้านดิจิทัล ต้องพึ่งพาโครงสร้างพื้นฐานที่มีความต้องการเพิ่มมากขึ้น เพื่อรองรับการใช้งาน “แอปพลิเคชัน” มากกว่าองค์กรธุรกิจแบบดั้งเดิม จึงกลายเป็นปัจจัยหลักในการเปลี่ยนผ่านสู่สังคมธุรกิจยุคดิจิทัลในศตวรรษนี้
ที่ผ่านมา แซดทีอี พัฒนาเซิร์ฟเวอร์ และ ระบบจัดเก็บข้อมูลที่หลากหลายไม่ว่าจะเป็น เซิร์ฟเวอร์ทั่วไป GPU เซิร์ฟเวอร์ เซิร์ฟเวอร์ระบายความร้อนด้วยของเหลว ผลิตภัณฑ์จัดเก็บข้อมูลแบบออลแฟลช ผลิตภัณฑ์จัดเก็บข้อมูลแบบแฟลชผสม และผลิตภัณฑ์ดิสก์อาร์เรย์แบบกระจาย
จนมาถึงปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์เซิร์ฟเวอร์ และ ระบบจัดเก็บข้อมูลของ ZTE ได้รับการติดตั้ง เพื่อใช้งานในจำนวนกว่า 40 ประเทศทั่วโลก โดยครอบคลุมอุตสาหกรรมทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านการสื่อสาร อินเทอร์เน็ต ด้านการเงิน ด้านพลังงาน กิจการของภาครัฐ ด้านการขนส่ง และอุตสาหกรรมอื่นๆ อีกมากมาย
สำหรับในปี 2023 แซดทีอีได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์เซิร์ฟเวอร์รุ่นใหม่ 5 รุ่น ด้วยกัน ได้แก่ 5200 G5 high-density server, 5300 G5 full-scenario universal server, 5500 G5 mass storage server, 6500 G5 heterogeneous computing power server และ 8500 G5 high-performance server โดยแต่ละรุ่นในตระกูล G5 ซีรีส์ มีคุณสมบัติเด่นคือ ระบายความร้อนด้วยของเหลว ประสิทธิภาพในการประมวลผลสูง มีความยืดหยุ่นต่อการขยายตัว มีศักยภาพในการประมวลผลที่แตกต่างและจัดเก็บข้อมูลได้จำนวนมหาศาล อีกทั้งมีความเสถียรและเชื่อถือได้