กสทช. ลงมติเห็นชอบเรื่อง ยกเลิกประกาศ กสทช. เรื่อง หลักเกณฑ์รายการโทรทัศน์สำคัญที่ให้เผยแพร่ได้เฉพาะในบริการโทรทัศน์ที่เป็นการทั่วไป พ.ศ.2555 โดยจะเปิดให้รับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้เสียและประชาชนทั่วไปเป็นเวลา 30 วัน ก่อนนำเข้าพิจารณาอีกครั้ง
เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2566 ที่ประชุม กสทช.นัดพิเศษ ครั้งที่ 7/2566 ได้พิจารณาเรื่อง เห็นควรยกเลิกประกาศคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์รายการโทรทัศน์สำคัญที่ให้เผยแพร่ได้เฉพาะในบริการโทรทัศน์ที่เป็นการทั่วไป พ.ศ.2555 หรือที่เรียกว่าประกาศมัสต์แฮฟ (Must have)
ในที่ประชุมให้ความเห็นชอบ (ร่าง) ประกาศ กสทช. เรื่อง ยกเลิกประกาศ กสทช. เรื่อง หลักเกณฑ์รายการโทรทัศน์สำคัญที่ให้เผยแพร่ได้เฉพาะในบริการโทรทัศน์ที่เป็นการทั่วไป พ.ศ.2555 โดยมอบหมายให้สำนักงาน กสทช. จัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้เสียและประชาชนทั่วไป เพื่อนำความเห็นที่ได้มาประกอบการพิจารณาก่อนออกประกาศ โดยมีระยะเวลาในการรับฟังความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้เสียและประชาชนทั่วไปเป็นเวลา 30 วัน ตามมาตรา 28 แห่งพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2553 ต่อไป และที่แก้ไขเพิ่มเติม
ก่อนหน้านี้ นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รักษาการแทนเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ได้กล่าวภายหลังจากการประชุมบอร์ด กสทช. เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2566 ว่าการซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดกีฬาซีเกมส์ที่จัดขึ้นที่ประเทศกัมพูชานั้น เป็นหนึ่งใน 7 ประเภทกีฬาที่อยู่ในประกาศกฎมัสต์แฮฟด้วย แต่คาดว่าจะไม่ต้องใช้งบจากทางกองทุน USO เนื่องจากว่าทางการกีฬาแห่งประเทศไทยมีกองทุนสำหรับการซื้อลิขสิทธิ์เพื่อนำมาถ่ายทอดสดในส่วนนี้อยู่แล้ว จึงไม่น่าจะต้องมาขอรับการสนับสนุนจากทาง กสทช.