TKC เอ็มโอยู มจธ. พนัสแอสเซมบลีย์ เจ็นเซิฟ และเน็กซ์ พอยท์ ร่วมวิจัย และพัฒนารถบัสไฟฟ้าไร้คนขับต้นแบบให้บริการประชาชนในเขตท่องเที่ยว และโบราณสถาน จังหวัดอยุธยา ผ่านเครือข่าย 5G ภายใต้กรอบงบประมาณ 27 ล้านบาทจาก กสทช.
ปิยะ จิราภาพงศา รองกรรมการผู้จัดการสายงานปฏิบัติการ บริษัท เทิร์นคีย์ คอมมูนิเคชั่น เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ TKC กล่าวว่า จากความร่วมมือกันในครั้งนี้ แต่ละหน่วยงานจะนำความเชี่ยวชาญในแต่ละอุตสาหกรรมเข้ามาทำงานร่วมกันเพื่อวิจัย และพัฒนายานยนต์ไฟฟ้าขับเคลื่อนอัตโนมัติ ก่อนนำไปใช้งานจริง
“งานวิจัย และพัฒนาครั้งนี้นอกจากช่วยยกระดับให้ผู้ประกอบการไทยมีองค์ความรู้ และเทคโนโลยีด้านยานยนต์ไร้คนขับที่จะผลักดันให้เป็นรูปธรรมในประเทศไทย ยังช่วยพัฒนาบุคลากร และนักศึกษาให้มีความรู้รองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมนี้ด้วย”
เบื้องต้น ทาง TKC จะนำองค์ความรู้ทางด้านการเชื่อมต่ออย่าง C-V2X หรือ Cellular Vehicle-to-Everything บนเครือข่าย 5G มาประยุกต์ใช้งานด้านต่างๆ ทั้งความปลอดภัย และความสะดวกสบายให้แก่ผู้ใช้งาน และผู้ร่วมสัญจรบนท้องถนนผ่านเครือข่าย 5G ในประเทศไทย
ในขณะที่ทางมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี จะนำความเชี่ยวชาญในแง่ของการมีบุคลากร ส่วนบริษัท พนัส แอสเซมบลีย์ จำกัด จะมีประสบการณ์จากอุตสาหกรรมยานยนต์ขนาดใหญ่ นอกจากนี้ ยังมีเจ็นเซิฟ ที่เชี่ยวชาญด้านระบบหุ่นยนต์ และยานยนต์เคลื่อนที่อัตโนมัติ รวมถึงเน็กซ์ พอยท์ ที่เป็นผู้ผลิตรถโดยสาร EV มาทำงานร่วมกัน
ศ.ดร.ยศพงษ์ ลออนวล ผู้ช่วยอธิการบดี ฝ่ายพัฒนาความยั่งยืน และหัวหน้าศูนย์วิจัย MOVE (Mobility & Vehicle Technolgy Research Center) มหาวิทยาลัยพระจอมเกล้าธนบุรี ให้ข้อมูลเพิ่มเติมถึงโครงการสร้างรถบัสไฟฟ้าไร้คนขับต้นแบบร่วมกับการสื่อสารด้วยโมบายแอปพลิเคชันระหว่างรถบัสไฟฟ้าไร้คนขับกับประชาชนและนักท่องเที่ยวด้วยเทคโนโลยี 5G ในเขตโบราณสถาน
“โครงการนี้จะใช้เป็นต้นแบบในการสร้างรถบัสไฟฟ้าไร้คนขับในระดับที่ 3 มีขนาดไม่น้อยกว่า 20 ที่นั่ง โดยใช้การสื่อสารจากแอปพลิเคชัน เชื่อมต่อกับประชาชน และนักท่องเที่ยวในเขตโบราณสถานอยุธยา ที่คาดว่าจะเริ่มทดสอบใช้งานได้ในช่วงปลายปีนี้”
สำหรับระยะทางของรถบัสไฟฟ้าไร้คนขับที่กำหนดไว้เบื้องต้นคือ 2.8 กิโลเมตร ในเส้นทางรอบบึงพระราม อุทยานประวัติศาสตร์ ซึ่งถ้าพัฒนาแล้วเสร็จมีโอกาสที่จะเป็นรถบัสขับเคลื่อนอัตโนมัติคันแรกในประเทศไทยที่ให้บริการผ่านเครือข่าย 5G จากงบประมาณของ กสทช. กรอบวงเงิน 27 ล้านบาท
ภาณุภัทร์ ภู่เจริญ ผู้อำนวยการสายงานด้านโทรคมนาคม TKC ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ในอนาคตหลังจากที่ทั้ง 5 หน่วยร่วมกันพัฒนาแล้วเสร็จ มีโอกาสที่จะนำองค์ความรู้ที่ได้ไปพัฒนาต่อยอดในอุตสาหกรรมยานยนต์ไร้คนขับ รวมถึงการสร้างความปลอดภัยสาธารณะจากเครือข่าย 5G
“ในอนาคตเมื่อเทคโนโลยี C-V2X แพร่หลายมากขึ้น ยานยนต์ไฟฟ้ามีการนำไปเชื่อมต่อใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ในเส้นทางสัญจร จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้แก่ประชาชนที่ใช้เส้นทางร่วมกัน เพราะระบบอัตโนมัติจะมาช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุได้ และจะเป็นการนำเครือข่าย 5G มาใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อผู้บริโภคด้วย”
