ดาร์วินบอกซ์จับมือไมโครซอฟท์ ปฏิวัติอนาคตแห่งการทำงาน

ดาร์วินบอกซ์ (Darwinbox) ภูมิใจก้าวกระโดดขึ้นเป็นผู้นำตลาดในเอเชีย โชว์การเติบโตเกือบ 2.5 เท่าในประเทศไทยในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมานับตั้งแต่การได้รับเงินทุนระดับยูนิคอร์น ล่าสุดควงไมโครซอฟท์ประกาศร่วมมือเพื่อสร้างอนาคตแห่งการทำงาน ลุยเสริมศักยภาพองค์กรทั่วโลกเพื่อยกระดับประสบการณ์ของพนักงานผ่านแพลตฟอร์ม HCM SaaS ที่รองรับทุกผลิตภัณฑ์ของไมโครซอฟท์

นายเจยันต์ พาเลติ ผู้ร่วมก่อตั้งดาร์วินบอกซ์ กล่าวถึงการประกาศร่วมมือกับไมโครซอฟท์เสริมศักยภาพแก่องค์กรทั่วโลกด้วยเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพเพื่อความสำเร็จในการยกระดับโลกแห่งการทำงาน ว่าเป็นความร่วมมือที่ประกอบด้วยการประสานระบบนิเวศผลิตภัณฑ์ของดาร์วินบอกซ์และไมโครซอฟท์เข้าด้วยกันอย่างกลมกลืนและร่วมกันสร้างสรรค์นวัตกรรมผ่านโซลูชันต่างๆ เพื่อปรับปรุงประสบการณ์ที่พนักงานได้รับให้ดียิ่งขึ้น อีกทั้งยังช่วยเร่งผลักดันผลิตภัณฑ์สู่ตลาดทุกแห่งที่ผู้นำด้านเทคโนโลยีระบบทรัพยากรบุคคลรายนี้ดำเนินกิจการอยู่

“เราไว้วางใจแบรนด์และชื่อเสียงของไมโครซอฟท์มาโดยตลอด ภายใต้การปรับวิสัยทัศน์ร่วมกันในการให้ความช่วยเหลือลูกค้าเพื่อปลดล็อกประสบการณ์และประสิทธิภาพของพนักงาน เรายินดีอย่างยิ่งที่ได้ร่วมสร้างสรรค์นวัตกรรมทรัพย์สินทางปัญญาหลากหลายแขนงและนำเสนอโซลูชันเหล่านี้แก่ลูกค้าทั่วโลก"

 
ดาร์วินบอกซ์ ถือเป็นหนึ่งในยูนิคอร์นด้านเทคโนโลยีทรัพยากรบุคคลที่เติบโตเร็วที่สุด นอกจากแผนความร่วมมือสร้างสรรค์นวัตกรรมแล้ว ไมโครซอฟท์ยังได้ลงทุนในดาร์วินบอกซ์เพื่อเร่งเดินหน้าพันธกิจด้านการเสริมสร้างศักยภาพแก่องค์กรต่างๆ เพื่อผสานวงจรชีวิตพนักงานทั้งหมดให้รวมเข้าด้วยกันเป็นหนึ่งเดียว


สำหรับเทคโนโลยีระบบทรัพยากรบุคคล (HCM) บนแพลตฟอร์มคลาวด์ของดาร์วินบอกซ์ นั้นมีจุดเด่นที่การช่วยตอบโจทย์ความต้องการของฝ่ายทรัพยากรบุคคลได้ตลอดทั้งวงจรชีวิตของพนักงานด้วยประสบการณ์ของพนักงานยุคใหม่และเทคโนโลยีที่ขับเคลื่อนด้วยระบบเอไอ ปัจจุบันบริษัทให้บริการแก่องค์กรต่างๆ มากกว่า 700 แห่ง และมีจำนวนพนักงานในระบบถึง 2 ล้านคนทั่วโลก สำหรับในประเทศไทยนั้น บริษัทมีรายได้เติบโตขึ้นเกือบ 2.5 เท่า และมีจำนวนพนักงานในระบบเพิ่มขึ้นถึง 4.5 เท่า นับตั้งแต่การระดมทุนซีรีส์ D ระดับยูนิคอร์นเมื่อเดือนมกราคม 2565 ที่ผ่านมา อีกทั้งยังได้ อดีตผู้บริหารของไมเนอร์กรุ๊ปและ คินเซนทริคมารับหน้าที่เป็นกรรมการผู้จัดการประจำประเทศไทยเพื่อขับเคลื่อนนวัตกรรมและส่งมอบคุณค่าที่ออกแบบมาให้ตรงตามความต้องการทางเทคโนโลยีขององค์กรต่างๆ ในประเทศโดยเฉพาะ

"ความร่วมมือระหว่างไมโครซอฟท์และดาร์วินบอกซ์จะช่วยผลักดันการเติบโตของผู้นำด้านเทคโนโลยีทรัพยากรบุคคลระดับโลกให้ก้าวไปอีกระดับ ขณะเดียวกันก็ยังช่วยให้องค์กรต่างๆ สามารถปลดล็อกศักยภาพของพนักงานได้อย่างสูงสุด"

ในส่วนประเทศไทย ดาร์วินบอกซ์ได้ทำงานร่วมกับองค์กรชั้นนำมากมาย อาทิ Harrow International School, Bitkub, Ampacet, Cars 24, K- HA, SCB 10X เป็นต้น อีกทั้งยังมีโอกาสได้ให้บริการระบบแก่บริษัทชั้นนำในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไม่ว่าจะเป็น JG Summit Holdings (ปัจจุบันคือ Gokongwei Group), Al Rajhi Bank Malaysia, Aviva Singlife, Tokopedia, Shakey’s Pizza, Kopi Kenangan และแบรนด์ระดับสากลอีกมากมาย อาทิ Nivea, Starbucks, Dominos, Sephora, Swarovski และ T-Systems

นายอาเหม็ด มาซารี ประธานบริษัท ไมโครซอฟท์ เอเชีย กล่าวถึงโลกแห่งการทำงานยุคใหม่ ว่าพนักงานที่มีส่วนร่วมและมีความทุ่มเทให้บริษัทถือเป็นข้อได้เปรียบในการแข่งขันสำหรับทุกองค์กร บริษัทมีความยินดีที่ได้ร่วมมือกับผู้นำอย่างดาร์วินบอกซ์เพื่อรังสรรค์ประสบการณ์ของพนักงานและช่วยให้ทีมทรัพยากรบุคคลเข้าถึงพลังแห่งเทคโนโลยีได้ดียิ่งขึ้น

"การร่วมสร้างสรรค์นวัตกรรมกับลูกค้าถือเป็นหัวใจสำคัญของไมโครซอฟท์ในการเสริมสร้างศักยภาพขององค์กรต่างๆ ทั่วเอเชียให้สามารถทำได้มากขึ้นด้วยทรัพยากรที่น้อยลง"

ภายใต้ความร่วมมือครั้งนี้ ดาร์วินบอกซ์จะนำ Microsoft Azure มาใช้เสริมประสิทธิภาพของแพลตฟอร์มการบริหารจัดการทุนมนุษย์ (Human Capital Management) หรือ HCM SaaS ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่ออกแบบมาเพื่อมุ่งเน้นประสบการณ์ใช้งานบนแพลตฟอร์มมือถือ ทำให้ธุรกรรมและประสบการณ์ด้านงานทรัพยากรบุคคลสามารถผสมผสานอย่างกลมกลืนกับแพลตฟอร์ม Dynamic 365 และ Office 365 อาทิ Microsoft Teams, Viva และ Active Directory อีกทั้งดาร์วินบอกซ์ยังใช้ Power BI ของไมโครซอฟท์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพกลไกการวิเคราะห์เชิงคาดการณ์ผ่านเอไอ เพื่อสร้างแดชบอร์ดการวิเคราะห์แบบแผนภาพที่สมบูรณ์แบบ ทำให้พนักงานทั่วทั้งองค์กรของลูกค้าสามารถนำข้อมูลไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพและใช้ประกอบการตัดสินใจทางธุรกิจได้อย่างรวดเร็ว .