อะโดบี (Adobe) เจ้าพ่อซอฟต์แวร์โลกตัดสินใจเลิกจ้างงานกว่า 100 ตำแหน่งในสหรัฐอเมริกา ถือเป็นการปรับโครงสร้างครั้งล่าสุดที่เกิดขึ้นกับหลายบริษัทที่ตั้งอยู่ในย่านธุรกิจไอทีของสหรัฐฯ อย่างซิลิกอนวัลเลย์ (Silicon Valley) คาดว่าเบ็ดเสร็จแล้วบริษัทใน Silicon Valley ได้เลิกจ้างงานอย่างน้อย 44,000 ตำแหน่งในช่วงปลายปี 2022
สำนักข่าวบลูมเบิร์ก (Bloomberg) อ้างแหล่งข่าววงในว่า บริษัทซอฟต์แวร์เพื่อการสร้างสรรค์งานยักษ์ใหญ่ของโลกได้เลิกจ้างพนักงานกว่า 100 คนในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยฝ่ายขายได้รับผลกระทบมากที่สุด สะท้อนว่าการปรับรูปแบบธุรกิจสู่ระบบคลาวด์ของ Adobe นั้นเริ่มมีผลโดยตรงกับโครงสร้างของบริษัท
สื่อต่างประเทศตีความการปรับโครงสร้างครั้งนี้ว่าแม้แต่ Adobe ก็ยังไม่ปลอดภัยจากมหกรรมรัดเข็มขัดที่เกิดขึ้นอย่างรุนแรงในอุตสาหกรรมไอทีสหรัฐฯ ก่อนหน้านี้ บริษัทใหญ่ทั้ง Meta และ Amazon รวมถึงบริษัทเทคโนโลยีอื่นที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ Bay Area ได้เลิกจ้างงานอย่างน้อย 44,000 ตำแหน่งตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2565 คาดว่าความตึงเครียดทางการเงินจะตึงตัวขึ้นอีกในปี 2566
นอกจากพนักงานที่ถูกเลิกจ้าง รายงานระบุว่าพนักงานส่วนอื่นยังได้รับผลกระทบบางส่วนด้วย โดยอาจได้รับข้อเสนอให้เปลี่ยนไปนั่งตำแหน่งอื่นภายในบริษัท ในขณะเดียวกัน พนักงานบางคนถูกเปลี่ยนบทบาทเพื่อจัดการงานในลักษณะโครงการเฉพาะทางมากขึ้น รวมถึงตำแหน่งงานที่ไม่ใช่ฝ่ายขายก็มีการโยกย้ายเช่นกัน
ในภาพรวม Adobe มีพนักงานในความดูแลทั้งหมดมากกว่า 28,700 คนในช่วงสิ้นไตรมาส 3 ของปีงบการเงิน 2022 การจ้างงานที่หายไป 100 ตำแหน่งจึงเป็นเพียงรอยด่างเล็กน้อยเมื่อเปรียบเทียบกับสถิติรวม และเป็นเพียงส่วนน้อยเมื่อเปรียบเทียบกับการปรับลดพนักงานในบริษัทอื่นที่ดดำเนินการเป็นวงกว้าง ทั้ง เน็ตฟลิกซ์ (Netflix) ที่หั่นพนักงาน 300 ตำแหน่ง ยังมีเมตา (Meta) บริษัทแม่ของเฟซบุ๊กที่มีแผนเลิกจ้างพนักงาน 11,000 ตำแหน่ง คิดเป็น 13% ของพนักงานทั่วโลก หรือ อะเมซอน (Amazon) ที่ประกาศเลิกจ้างพนักงานราว 10,000 คนในส่วนธุรกิจเทคโนโลยี และทวิตเตอร์ (Twitter) ที่เตรียมลดจำนวนพนักงานลง 50% หลังจากอีลอน มัสก์ เข้าซื้อกิจการและดำเนินการเลิกจ้างไปแล้วประมาณ 3,700 คน
แม้ภาวะการเลิกจ้างงานเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าอุตสาหกรรมไอทีมีความผันผวน แต่ Adobe ย้ำว่าบริษัทไม่ได้อยู่ในช่วงเวลาที่ "ปั่นป่วนเป็นพิเศษ" โดยยืนยันว่าจะไม่มีการเลิกจ้างทั่วทั้งบริษัท และตรงกันข้าม บริษัทยังคงสรรหาบุคลากรเพื่อสานต่องานที่สำคัญต่อไป
อย่างไรก็ตาม สถิติชี้ว่าปีนี้ไม่ใช่ปีที่ดีของ Adobe เนื่องจาก Bloomberg ตั้งข้อสังเกตว่าหุ้นของ Adobe ลดลง 42% ในปี 2565 อันเป็นผลจากความตึงตัวในอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ และ Adobe จะรายงานผลประกอบการไตรมาส 4 ในวันที่ 15 ธันวาคมนี้