xs
xsm
sm
md
lg

ดีแทคเผยแนวคิดนโยบายต้านคอร์รัปชัน ‘เลือกทำในสิ่งที่ถูกต้องเสมอ’

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“ปัญหาคอร์รัปชัน” นับเป็นหนึ่งในปัญหา และความท้าทายในสังคมที่กัดกร่อนความเจริญทางเศรษฐกิจและสังคม องค์การสหประชาชาติได้กำหนดให้ทุกวันที่ 9 ธันวาคมของทุกปี เป็นวันต่อต้านคอร์รัปชันสากล (International Anti-Corruption Day) เพื่อสร้างการตระหนักรู้และร่วมกันต่อต้านปัญหาคอร์รัปชัน

ข้อมูลจากรายงานขององค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ (Transparency International - TI) ยังชี้ให้เห็นว่าสถานการณ์การคอร์รัปชันยังคงในอยู่ในระดับ “สูง” โดย ในปี 2564 ดัชนีภาพลักษณ์คอร์รัปชันของไทยอยู่ในอันดับที่ 110 จาก 180 ประเทศทั่วโลก ลดลง 6 อันดับจากปี 2563 ซึ่งเกิดจากความสัมพันธ์ระหว่างการเมืองและกลุ่มทุนในภาคเอกชนจัดเป็นตัวแปรสำคัญในการต่อต้านคอร์รัปชันทั่วโลก

สตีเฟ่น แฮลวิก รักษาการณ์รองประธานเจ้าหน้าบริหาร กลุ่มกิจการองค์กร บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค กล่าวว่า ความถูกต้องและการเคารพซึ่งกันและกันถือเป็นคุณค่าสำคัญที่ดีแทคยึดถือ จึงดำเนินธุรกิจโดยยึดมั่นในมาตรฐานจริยธรรมและธรรมาภิบาลสูงสุด ซึ่งรวมถึงในการทำงานกับพันธมิตรและคู่ค้าด้วย การต่อต้านการคอร์รัปชันจึงถือเป็นหนึ่งในวัฒนธรรมของคนดีแทค

“ที่ดีแทค เราไม่ทนต่อการคอร์รัปชันในทุกรูปแบบ (Zero Tolerance) และเราเลือกทำในสิ่งที่ถูกต้องเสมอ” นอกเหนือจากแนวทางภายใต้หลักธรรมภิบาลของดีแทคแล้ว บริษัทยังมีแนวทางปฏิบัติอีก 2 หมวดใหญ่ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการต่อต้านการคอร์รัปชัน ได้แก่ 1.นโยบายไม่รับของขวัญ หรือ No Gift Policy และ 2.แนวปฏิบัติด้านการสนับสนุนและบริจาค (Sponsorship & Donation)

สำหรับนโยบาย No Gift Policy นั้น ดีแทคไม่อนุญาตให้พนักงาน “ให้” และ “รับ” สิ่งของใดๆ จากบุคคลภายนอกองค์กร เพื่อให้มั่นใจว่าการดำเนินงานของบริษัทจะตั้งอยู่บนมาตรฐานจริยธรรม ความเท่าเทียม ไม่เลือกปฏิบัติ และเป็นมืออาชีพ

อย่างไรก็ตาม ด้วยบริบททางวัฒนธรรมและคุณค่าทางสังคมที่แตกต่างกัน บริษัทจึงอนุโลมให้การมอบของขวัญตาม “มารยาทและประเพณีทางธุรกิจ” สามารถกระทำได้ โดยของขวัญนั้นต้องมีโลโก้ดีแทคและมูลค่าไม่สูงกว่าที่กำหนด

“ความสัมพันธ์กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียนั้นเป็นตัวแปรที่สำคัญยิ่งในการดำเนินธุรกิจ การรักษาความสัมพันธ์ให้แข็งแกร่งจะก่อให้เกิดสภาพแวดล้อมที่ดีทางธุรกิจ และเอื้อให้เกิดวิถีการทำงานที่เป็นไปในเชิงบวก แต่ทั้งนี้ การสร้างและรักษาความสัมพันธ์ก็ต้องเป็นไปอย่างมืออาชีพ และสอดคล้องกับมาตรฐานทางจริยธรรม”

ที่ผ่านมา นโยบาย No Gift Policy นั้นได้รับผลตอบรับเชิงบวกจากทั้งพนักงาน พันธมิตร คู่ค้า และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกลุ่มอื่นๆ ของเรา โดยพวกเขาบอกว่ารู้สึก “สบายใจ” ในการทำงานกับดีแทค สามารถเจรจาอย่างเปิดเผย และทำงานได้เป็นมืออาชีพอย่างแท้จริง

เงินบริจาคต้องถูกใช้ประโยชน์ต่อสาธารณะอย่างแท้จริง

ในทำนองเดียวกัน การสนับสนุนและบริจาคนั้นจำต้องมีการกำหนดแนวทางและกระบวนการอย่างชัดเจน เพื่อสร้างความมั่นใจว่าการสนับสนุนและบริจาคที่เกิดขึ้นจะเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะอย่างแท้จริง และไม่ถูกใช้เป็นช่องทางเพื่อการทุจริต ดีแทคมีกระบวนการสอบทาน (Due Diligence) เพื่อประเมินความเสี่ยงของผู้ขอรับบริจาค

โดยดีแทคได้กำหนดนิยาม ขั้นตอน และหลักเกณฑ์การประเมินอย่างชัดเจน เพื่อเป็นแนวทางที่เป็นกลางในการปฏิบัติงานที่ปราศจากอคติและรักษาไว้ซึ่งความโปร่งใส ภายใต้คณะทำงานตรวจสอบทั้งก่อนและหลังการบริจาค เพื่อให้มั่นใจว่าเงินหรือสิ่งของที่บริจาคไปนั้นเป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่แจ้งไว้ เช่น ผู้ขอรับการบริจาคจะต้องจดทะเบียนในนามนิติบุคคล มีการแสดงเจตจำนงของการรับบริจาคอย่างชัดเจน และวัตถุประสงค์ของการบริจาคควรสอดรับกับแนวทางการดำเนินงานขององค์กรและยึดถือคุณค่าที่สอดคล้องกับดีแทค

“กระบวนการสอบทานการสนับสนุนและบริจาคเป็นมาตรฐานของการกำกับกิจการที่ดีขององค์กร สอดรับกับแนวทางสากลที่ต้องการให้เกิดความโปร่งใสและไม่ให้การสนับสนุนและบริจาคเป็นช่องทางในการติดสินบน ทุจริต และคอร์รัปชัน”

ทั้งนี้ การแก้ไขปัญหาคอร์รัปชันสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 วิธีใหญ่ๆ วิธีการแรกคือ การแก้ไขปัญหาจากบนลงล่างหรือ Top-down ผ่านการบังคับใช้นโยบายและกลไกทางกฎหมายในการป้องกันและปราบปรามเป็นหลัก

ส่วนอีกวิธีคือ การแก้ไขปัญหาจากล่างขึ้นบน หรือ Bottom-up เพราะการป้องกันคอร์รัปชันไม่สามารถทำได้อย่างมีประสิทธิภาพหากขาดการมีส่วนร่วมทั้งองคาพยพของสังคม ซึ่งนั่นรวมถึงองค์กรเอกชนอย่างดีแทคที่ยึดถือมาตรฐานทางจริยธรรมสูงสุดในการกำหนดแนวนโยบายในองค์กร โดยประกอบหลักการสำคัญ 4 ข้อ ได้แก่ 1.ความถูกต้อง 2.ความรับผิดชอบ 3.ความซื่อสัตย์และโปร่งใส และ 4.ความกล้าในการเปิดเผยสิ่งที่ไม่ถูกต้อง

“การแก้ไขปัญหาจากล่างขึ้นบนถือเป็นกลไกที่สำคัญอย่างมากในสังคมแห่งประชาธิปไตย ทุกคนในสังคมตระหนักดีว่าคอร์รัปชันเป็นปัญหาสังคม แต่ปัญหานี้จะหมดไปได้ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกหน่วยของสังคม เพราะท้ายที่สุดแล้ว คอร์รัปชันไม่ใช่อาชญากรรมที่ปราศจากผู้เสียหาย และคุณภาพชีวิตที่เสียไปคือราคาที่ทุกคนในสังคมต้องจ่ายให้สำหรับการคอร์รัปชัน”


กำลังโหลดความคิดเห็น