xs
xsm
sm
md
lg

LINE แนะนำ 5 แนวทางสู่การเป็นครีเอเตอร์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“ครีเอเตอร์” อาชีพสุดคูลในยุคดิจิทัล เป็นอาชีพที่หลายคนใฝ่ฝัน และกำลังกลายเป็นอาชีพที่ได้รับความความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ในผู้คนหลากหลายวัย ไม่ใช่แค่เฉพาะคนรุ่นใหม่เท่านั้น เพราะเป็นอาชีพอิสระที่สร้างรายได้สม่ำเสมอ หลายคนที่เคยทำเป็นอาชีพเสริม เริ่มจริงจังและสามารถสร้างรายได้มากกว่าอาชีพหลักเดิมๆ แต่การที่จะอยู่ในอาชีพนี้ให้ได้ตลอดรอดฝั่ง ยังต้องมีความมุ่งมั่นอดทน ทุ่มเทสุดกำลังที่จะเสนอไอเดียใหม่ๆ ออกมา ลองผิดลองถูก ศึกษา และเข้าใจตลาดอย่างแท้จริง แต่หนทางเหล่านั้นไม่ยากเกินไป

1.อัปเดตเทรนด์อย่างสม่ำเสมอ

เมื่อคนไทยชอบตามกระแส อะไรใหม่ต้องพุ่งเข้าใส่เสมอ ดังนั้นไม่ว่าเรื่องที่กำลังเป็นกระแสจะเป็นเรื่องซีเรียสหนักหนาขนาดไหน ครีเอเตอร์ก็ต้องปรับให้มันกลายเป็นเรื่องราวตลกขบขัน เสียดสีสังคม โดนใจ เร้าใจ และกระตุ้นให้ผู้ใช้งานอยากซื้อ เพื่อนำมาเป็นตัวแทนในบทสนทนาให้ได้ แต่แค่คิดไวยังไม่พอ ครีเอเตอร์ต้องทำสติกเกอร์ที่ใช้คำพูดหรือท่าทาง เพื่อให้ผู้ใช้สามารถหยิบคาแร็กเตอร์นั้นมาใช้ได้ทันเวลาด้วย รวมถึงสติกเกอร์ตามวันและเทศกาลสำคัญต่างๆ ก็ยังฮิตไม่เลิก สอดคล้องกับยอดดาวน์โหลดติด top chart ของตลาดในประเทศไทยมักเป็นสติกเกอร์ตามเทรนด์และเทศกาลมากกว่า 60% เลยทีเดียว เรียกได้ว่าครีเอเตอร์ต้องคิดเร็ว ตามเทรนด์เร็ว และทำออกมาเร็ว

2.สร้างภาพจำด้วยคาแร็กเตอร์เฉพาะ พร้อมเรื่องราวน่าค้นหา

คิดไว ทำไว แต่ต้องไม่ห่างหายจากตัวตน ครีเอเตอร์หลายคนเร่งรีบที่จะทำตามเทรนด์ จนลืมว่าผู้ใช้งานเลือกซื้อสติกเกอร์ที่มีความคิดสร้างสรรค์สูง แต่ก็ต้องมีเอกลักษณ์ความเป็นตัวตนของคาแร็กเตอร์ที่ชัดเจนเพื่อให้ผู้ใช้งานจำภาพได้ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า บุคลิก ท่าทาง คำพูด ที่สะท้อนนิสัยความรู้สึก ผู้ใช้งานเห็นหรืออ่านก็รู้ทันทีเลยว่านี่คือผลงานของครีเอเตอร์คนไหน ในขณะเดียวกัน ก็ต้องสร้างเรื่องราวให้คาแร็กเตอร์นั้นๆ ให้มีความเฉพาะเจาะจงเป็นของตัวเอง เพื่อที่ผู้ใช้งานจะได้เลือกคาแร็กเตอร์ที่สะท้อนความเห็นตัวตนของตัวเองได้ แถมยังจะสามารถต่อยอดไปสู่ธุรกิจ IP เป็นคาแร็กเตอร์ลิขสิทธิ์บนสินค้าต่างๆ ได้อีกด้วย

3.สร้างชุมชนคนรักผลงานของเรา

อย่ามัวแต่คิดสร้างโปรดักต์ แต่ไม่สร้างตลาดหรือหน้าร้านไว้รับลูกค้า เพราะครีเอเตอร์ไม่มีทางรู้เลยว่าลูกค้าจะคลิกมาเจอเมื่อไร ครีเอเตอร์จึงควรสร้างชุมชนออนไลน์ของตนเอง เพื่อสามารถเข้าถึงและเปิดโอกาสให้กลุ่มเป้าหมายมีส่วนร่วมได้ตลอดเวลา ซึ่งข้อดีของการสร้างชุมชนออนไลน์ นอกจากจะใช้เพื่อสื่อสารผลงาน หรือประชาสัมพันธ์กิจกรรมต่างๆ แล้ว อาจจะได้ “ไอเดียใหม่” ในการสร้างสรรค์ผลงานออกมาด้วย เพราะการโต้ตอบระหว่างกัน ครีเอเตอร์สามารถเก็บข้อมูลความต้องการของแฟนๆ แล้วนำมาพัฒนางานต่อให้ตรงใจผู้ใช้งานมากที่สุด และที่สำคัญฐานแฟนคลับยังช่วยให้ครีเอเตอร์นำไปต่อยอดสร้างรายได้ในอนาคตอีกด้วย

4.เปิดรับโอกาสใหม่ๆ และพร้อมรับความท้าทายตลอดเวลา

คำคมธุรกิจที่ว่า “อย่าเก็บไข่ไว้ในตะกร้าใบเดียว” เราควรกระจายความเสี่ยงออกเป็นหลายๆ ส่วนสามารถเอามาใช้กับครีเอเตอร์ได้ด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะการสร้างผลงานและสติกเกอร์รูปแบบใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นหมวดหมู่อื่นบ้าง หรือจะทำเป็นอิโมจิด้วยก็ดี เช่น ปกติเคยทำแต่สติกเกอร์ข้อความเพียงอย่างเดียว ก็อาจจะปรับให้เป็นสติกเกอร์ คาแร็กเตอร์ หรือพัฒนาเป็นแอนิเมชันไปเลย เพื่อสร้างสีสันใหม่ ให้มีผลงานหลากหลายที่สามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคที่เป็นแฟนคลับได้เสมอ นอกจากนี้ การสร้างและออกแบบธีม (Theme) ยังถือเป็นโอกาสใหม่ของครีเอเตอร์ เพราะจากสถิติผู้ดาวน์โหลดสติกเกอร์ในปี 2022 มักดาวน์โหลดธีมด้วยมากถึง 1 ใน 4 เลยทีเดียว นี่จึงเป็นโอกาสใหม่ที่ครีเอเตอร์ไม่ควรพลาด

5.สร้างและพัฒนาผลงานอยู่ตลอดเวลา

เมื่อจะผันตัวเองเป็นครีเอเตอร์อาชีพ จะต้องทำงานอย่างมีเป้าหมาย สิ่งที่ครีเอเตอร์ควรยึดถือไว้ คือ การรักษามาตรฐานการทำงาน ด้วยการวางขายสติกเกอร์ที่มีคุณภาพสม่ำเสมอให้เป็นที่จดจำของตลาด จากสถิติพบว่าครีเอเตอร์ที่ขายดีต่อเนื่อง 20 อันดับแรกบน LINE STICKERS มักจะเป็นครีเอเตอร์ที่มีการออกสติกเกอร์มากกว่า 5 เซตใน 1 ปี เพื่อสร้างการจดจำและให้รู้สึกว่าไม่ได้หายไปไหน มีสินค้าออกมาให้ผู้ใช้ได้เลือกใช้และติดตามอยู่ตลอด นอกจากนั้น ยังต้องพัฒนาคุณภาพผลงาน หน้าตาของคาแร็กเตอร์ให้ทันสมัย สร้างลายเส้นเป็นตามเทรนด์นิยม เพียงเท่านี้คุณก็จะเป็นครีเอเตอร์ที่อยู่ในใจของผู้ใช้งานในระยะยาวได้โดยง่าย


กำลังโหลดความคิดเห็น