Google เผยผลคำค้นหายอดนิยมประจำปี 2565 หรือ Year in Search ในไทย โดยโครงการของรัฐบาลยังคงครองแชมป์อันดับ 1 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 ในขณะที่เทรนด์การค้นหาเพื่อความบันเทิงมาแรง ภาพยนตร์ ละคร/ซีรีส์ และเกมคว้า 5 ใน 10 อันดับคำค้นหายอดนิยมประจำปีนี้
ศารณีย์ บุญฤทธิ์ธงไชย หัวหน้าฝ่ายการตลาด Google ประเทศไทย กล่าวว่า Google Search เป็นช่องทางหนึ่งที่คนไทยจำนวนหลายล้านคนเลือกใช้ในค้นหาข้อมูล ดังนั้น เทรนด์การค้นหาในแต่ละปีจึงแสดงให้เห็นถึงสิ่งที่คนไทยให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆ นอกจากจะมีความน่าสนใจแตกต่างกันไปแล้ว ยังอาจทำให้เกิดไอเดียในการลองทำอะไรใหม่ๆ เช่น ลองทำสูตรอาหารใหม่ๆ หรือดูรายการใหม่ๆ
นอกจากนี้ ยังช่วยให้ผู้คนได้กลับมาทบทวนถึงสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตของพวกเขาตลอดทั้งปีที่ผ่านมา ในขณะเดียวกัน ผู้ประกอบการหรือแม้กระทั่งครีเอเตอร์ยังสามารถนำข้อมูลเหล่านี้ไปต่อยอดทางธุรกิจหรือเป็นไอเดียในการสร้างสรรค์คอนเทนต์ เช่น หมวดวิธีที่ทำให้เราเข้าใจว่าคนสนใจค้นหาวิธีทำอะไร หรือหมวดร้านอาหาร ว่าคนสนใจอาหารประเภทใด
เงินช่วยเหลือจากภาครัฐยังคงเป็นสิ่งที่ผู้คนให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆ
แม้ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 เริ่มคลี่คลายลง แต่ยังคงส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่และต่อภาคธุรกิจของประชาชนทั้งประเทศอย่างต่อเนื่อง ทำให้คนไทยยังคงให้ความสนใจโครงการต่างๆ และวงเงินช่วยเหลือจากภาครัฐ โดย 2 ใน 10 ของหมวดคำค้นหายอดนิยมปีนี้มาจากโครงการรัฐบาล ได้แก่ “บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ” ที่ติดโผเป็นอันดับ 1 และ “คนละครึ่ง เฟส 5” ในอันดับที่ 3
คนไทยค้นหาวิธีผ่อนคลายกันมากขึ้น โดย 5 ใน 10 ของคำค้นหายอดนิยมประจำปีนี้เป็นหมวดหมู่ที่เกี่ยวกับความบันเทิง ได้แก่ “ใต้หล้า” “คังคุไบ” “ด้วยรักและหักหลัง” “คือเธอ” และ “Wordle” เกมทายคำซึ่งเป็นคำค้นหายอดนิยมที่ติดอันดับทั่วโลกในปีนี้
นอกจากนี้ ผู้คนยังสนใจค้นหาคำที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาอย่าง “ศธ 02” ที่เป็นระบบบริหารสถานศึกษาแบบออนไลน์สำหรับครูและนักศึกษาระดับอาชีวะศึกษา ซึ่งติดโผอันดับ 10 และ “Botnoi Voice” เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความ (Text to Speech) ด้วย AI ที่ครูและนักเรียนนำไปใช้ในการเรียนการสอน ซึ่งติดโผอันดับ 6
ผู้คนใช้ Google เพื่อติดตามข่าวและเกาะติดสถานการณ์ทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งในปีนี้มีหลายเหตุการณ์ที่คนไทยให้ความสนใจ โดย “ข่าวแตงโมล่าสุด” ติดโผอันดับ 1 ในหมวดข่าวยอดนิยม เช่นเดียวกับ “ข่าวกราดยิง” จากเหตุกราดยิงศูนย์เด็กเล็กใน จ.หนองบัวลำภู นอกจากนี้ คนไทยยังให้ความสนใจและติดตามเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นทั่วโลก เช่น สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน และ “ข่าวอิแทวอน” โศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นใจกลางกรุงโซล
ในภาคการท่องเที่ยวเริ่มกลับมาฟื้นตัว สอดคล้องกับข้อมูลจาก Google Trends ที่เผยว่าคำค้นหา "เที่ยว" ในปีนี้เพิ่มขึ้น 53% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยการค้นหายอดนิยมเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศ ซึ่งรวมถึงเมืองรองต่างๆ ในปีนี้
ปรากฏว่า “กรุงเทพมหานคร” ติดโผอันดับ 1 ตามมาด้วย “สุพรรณบุรี” “หัวหิน” “เชียงใหม่” และ “ระยอง” ในอันดับ 2-5 ตามลำดับ ส่วนหมวดสถานที่ท่องเที่ยวต่างประเทศยอดนิยมเป็นประเทศในแถบเอเชียที่ใช้เวลาเดินทางไม่นานมากนัก โดย “สิงคโปร์” ติดโผอันดับ 1 ตามมาด้วย “เวียดนาม” “ลาว” “ญี่ปุ่น” และ “เกาหลี” ในอันดับ 2-5 ตามลำดับ
หลังจากที่งานอีเวนต์ต่างๆ กลับมาจัดได้ตามปกติแล้ว ผู้คนสามารถเข้าร่วมชมคอนเสิร์ตของศิลปินทั้งไทยและเทศตามสถานที่จัดงานต่างๆ แทนการชมผ่านออนไลน์ได้แล้ว ทำให้คำค้นหา “คอนเสิร์ต” ในปีนี้โตขึ้นถึง 135% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน โดยคำค้นหายอดนิยมในหมวดคอนเสิร์ตในปีนี้ได้แก่ “คอนเสิร์ตจัสติน” ที่ติดโผอันดับ 1 ตามมาด้วย “คอนเสิร์ต Kamikaze 2022” “คอนเสิร์ตเบิร์ด” “คอนเสิร์ต BTS” และ “คอนเสิร์ต BLACKPINK” ในอันดับ 2-5 ตามลำดับ
นอกจากการค้นหาในหมวดต่างๆ ข้างต้นแล้ว คนไทยยังเข้ามาหาค้นหา “วิธี” ต่างๆ บน Google โดยหลังจากที่รัฐบาลประกาศให้โควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่น ผู้คนหันมาให้ความสนใจการค้นหาวิธีต่างๆ เพื่อที่จะสามารถดูแลตัวเองและครอบครัว โดย “วิธีตรวจ ATK” ติดโผอันดับ 1 ในหมวดคำค้นหายอดนิยมเกี่ยวกับวิธี ส่วน “วิธีลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ” และ “วิธีรักษาโควิด” ติดโผอันดับ 2-3 “วิธีเล่นรูบิค” และ “วิธีทำข้าวเหนียวมูนมะม่วง” ก็ติดอันดับในปีนี้ด้วยเช่นกัน
นอกจาก Year In Search จะเป็นการประมวลภาพรวมความสนใจของคนไทยในปี 2565 แล้ว ยังได้รวบรวมคำค้นหายอดนิยมที่สะท้อนถึงความสนใจของคนทั่วโลกไว้ด้วย โดยสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเทรนด์การค้นหาจากทั่วโลก Year in Search ของประเทศไทยและประเทศอื่นๆ ได้ที่ yearinsearch.google/trends