ไอบีเอ็ม (IBM) ประกาศความสำเร็จเพิ่มขีดความสามารถการประมวลผลคอมพิวเตอร์ ด้วยการเปิดตัว "ออสเปรย์" (Osprey) ซูเปอร์คอมพิวเตอร์รุ่นล่าสุดที่ทรงพลังที่สุด
ส่วนที่เพิ่มเติมเข้ามาใหม่ล่าสุดในชุดคอมพิวเตอร์ควอนตัมนี้คือ จำนวน "ควอนตัมบิต" ที่น่าประทับใจ โดยทำสถิติ 433 คิวบิต ซึ่งก้าวกระโดดเหนือรุ่น Eagle ก่อนหน้านี้ซึ่งมีเพียง 127 คิวบิต
ตัวเลขที่เพิ่มสูงขึ้นนี้มีนัยสำคัญมาก เพราะคอมพิวเตอร์แบบดั้งเดิมและคอมพิวเตอร์ควอนตัมนั้นแตกต่างกันที่การเข้ารหัส คอมพิวเตอร์ แบบเดิมนั้นสามารถจัดเก็บและประมวลผลข้อมูลในรูปแบบบิตไบนารี เช่น เลขศูนย์และเลขหนึ่ง แต่คิวบิตนั้นสามารถเป็นศูนย์ หนึ่ง หรือทั้งสองอย่าง ซึ่งช่วยให้อุปกรณ์สามารถคำนวณสมการทางคณิตศาสตร์ที่ซับซ้อนและพีชคณิตเชิงเส้นได้
สำหรับ IBM การบรรจุคิวบิตที่มากขึ้นใน Osprey นั้นใช้คิวบิตชั้นเดียวบนสายไฟควบคุมหลายชั้น ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยให้จัดเก็บข้อมูลได้มากขึ้นเท่านั้น แต่ยังช่วยลดอัตราความผิดพลาดอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม อุปกรณ์ที่สามารถคำนวณควอนตัมฟิสิกส์ได้นี้จะต้องรักษาความเย็นและลดเสียงรบกวนด้วยระบบหล่อเย็นแบบพิเศษ และต้องมีระบบกรองในตัวเพื่อช่วยให้ระบบหล่อเย็นทำงานได้เงียบลง เบื้องต้น IBM ชี้ว่าได้มีการพัฒนาซอฟต์แวร์ที่อัปเดตปรับปรุงการแก้ไขข้อผิดพลาด และผู้ใช้สามารถเลือกระหว่างเพิ่มความเร็ว หรือความแม่นยำได้ตามต้องการ
ในอนาคต Osprey จะไม่ได้ครองบัลลังก์เร็วที่สุดอีกต่อไป เพราะ IBM มีแผนเปิดตัวรุ่นใหม่คือ "คอนดอร์" (Condor) ในปีหน้า ด้วยฐานะระบบที่มี 1,121 คิวบิต ซึ่งจะมาเป็นที่ 1 แทน
นอกจากนี้ ทั้งหมดยังเป็นส่วนหนึ่งของเฟรมเวิร์กโมดูลาร์ที่กำลังจะมาถึงของ IBM ซึ่งจะประกอบด้วยระบบควอนตัมของคอมพิวเตอร์ที่จะสามารถติดตั้ง หรือโฮสต์ 4,000 คิวบิต ได้ภายในปี 2568 โดยจะถูกนำไปใช้กับระบบ IBM Quantum System Two ซึ่งเป็นระบบควอนตัมแห่งอนาคตของ IBM