xs
xsm
sm
md
lg

ETDA ลุยสร้างหลักธรรมาภิบาล "ใช้ AI ทางการแพทย์"

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ETDA เปิดตัวศูนย์ “AI Governance Clinic by ETDA (AIGC)” จับมือ “เนคเทค-กรมการแพทย์-กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ” ลุยสร้างหลักธรรมาภิบาลการใช้ AI ทางการแพทย์ 

ดร.ชัยชนะ มิตรพันธ์ ผู้อำนวยการ ETDA กล่าวว่า ปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI (Artificial Intelligence) เป็นเทคโนโลยีที่กำลังมีบทบาทในปัจจุบัน และทั่วโลกต่างให้ความสำคัญและเร่งพัฒนานโยบาย มาตรฐาน และหลักธรรมาภิบาลปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI Governance เพื่อเป็นกรอบหรือทิศทางในการประยุกต์ใช้งาน AI ได้อย่างสร้างสรรค์และมีประสิทธิภาพ เป็นไปตามหลักจริยธรรมและธรรมาภิบาลที่ควรจะเป็นอย่างต่อเนื่อง สำหรับประเทศไทย จากการจัดอันดับดัชนีความพร้อมด้านปัญญาประดิษฐ์ของรัฐบาล (Government Artificial Intelligence Readiness Index) ในปี 2564 โดยความร่วมมือระหว่าง Oxford Insights ของสหราชอาณาจักร และศูนย์วิจัยพัฒนาระหว่างประเทศ (International Development Research Centre) ของแคนาดา พบว่า ไทยอยู่ที่อันดับ 59 จากทั้งหมด 160 ประเทศ

"แม้ในภาพรวมคะแนนที่เราได้ 52.63 คะแนน จะสูงกว่าคะแนนเฉลี่ยทั้งหมดที่อยู่ที่ 47.42 คะแนน แต่หากพิจารณาในมิติย่อยๆ เรากลับพบว่า ในประเด็นเรื่อง Governance and Ethics ของไทยกลับมีคะแนนเฉลี่ยต่ำกว่าค่าเฉลี่ยโดยรวมอยู่ จึงทำให้ประเทศไทยต้องให้ความสำคัญในเรื่องของการนำเทคโนโลยี AI เข้ามาใช้งานในทุกอุตสาหกรรมภายใต้บริบทของการคำนึงถึงการป้องกันความเสี่ยงและผลกระทบที่อาจจะตามมามากขึ้น โดยล่าสุด ประเด็นเรื่อง AI Governance ถูกหยิบยกขึ้นมาเป็นหนึ่งยุทธศาสตร์สำคัญที่ถูกบรรจุอยู่ใน “แผนปฏิบัติการด้านปัญญาประดิษฐ์แห่งชาติฯ” เป็นที่เรียบร้อยแล้ว"

ดร.ชัยชนะ มิตรพันธ์
เพื่อให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเร่งเดินหน้าขับเคลื่อนประเทศให้เกิดการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี AI อย่างมีธรรมาภิบาลและมีความรับผิดชอบ สอดคล้องกับมาตรฐานของสากล ดังนั้น การพัฒนาบริการดิจิทัลตลอดจนการมีธรรมาภิบาลปัญญาประดิษฐ์ (Digital Service and AI Governance) โดยเฉพาะในเรื่องของ AI Governance จะช่วยลดความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่การสร้างความเชื่อมั่นต่อการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ที่มีความมั่นคงปลอดภัย น่าเชื่อถือ และยังเป็นอีกส่วนสำคัญในการเพิ่มความมั่นใจให้นักลงทุนต่างประเทศในระยะยาว 

ในภาพรวม โครงการนี้จึงเป็นอีกภารกิจหนึ่งที่ท้าทาย ซึ่ง ETDA ได้มุ่งเน้นผ่านการดำเนินงานทั้งในมุมของการส่งเสริมและการดูแลเกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยี AI มาอย่างต่อเนื่อง ทั้งในมุมของการศึกษา ทั้งในมุมของกฎหมาย มาตรฐาน แนวทางปฏิบัติ เพื่อเป็นกรอบหรือทิศทางในการใช้งานที่เกี่ยวข้องสอดคล้องกับ AI Governance การศึกษา รวบรวมข้อมูลจากหลากหลายประเทศ เพื่อพัฒนาให้เกิด AI Standard Landscape ของไทย ต่อยอดเพื่อพัฒนาให้เกิดเป็นข้อเสนอแนะ/มาตรฐานที่เกี่ยวข้องกับการประยุกต์ใช้ AI อย่างมีธรรมาภิบาล รวมถึงการศึกษาหลักเกณฑ์การตรวจประเมินการทำงานของโปรแกรมที่มีการใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ การถ่ายทอดความรู้ พัฒนาทักษะ เพื่อให้คนไทยพร้อมและเกิดการนำ เทคโนโลยี AI ไปประยุกต์ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ทั้งนี้ จะดำเนินการผ่านสถาบัน ADTE by ETDA (Academy of Digital Transformation by ETDA) การเปิดพื้นที่แลกเปลี่ยนความรู้ผ่าน AI Webinar ที่ชวนผู้เชี่ยวชาญหลากหลายอาชีพ ทั้งในและต่างประเทศมาร่วมแชร์มุมมอง เปิดโลก AI Governance ร่วมกัน และการจัดทำ e-Book ชุด AI the Series ที่ปล่อยอย่างต่อเนื่องทุกเดือนในช่วงที่ผ่านมา ที่จะเข้ามาช่วยให้ทุกเรื่องเกี่ยวกับ AI เป็นเรื่องใกล้ตัวและเข้าใจง่ายมากยิ่งขึ้น เป็นต้น จนนำมาสู่การต่อยอดเปิดตัว “ศูนย์ธรรมาภิบาลปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI Governance Clinic by ETDA (AIGC)” ในงาน “Building Trust and Partnership in AI Governance” ในวันนี้

ศูนย์ AIGC จะเป็นแหล่งรวมความรู้และผู้เชี่ยวชาญด้านธรรมาภิบาลปัญญาประดิษฐ์จากประเทศชั้นนำทั่วโลก เพื่อผลักดันให้เกิดการดำเนินงานเพื่อขับเคลื่อนให้เกิดการประยุกต์ใช้งาน AI อย่างมีธรรมาภิบาลร่วมกัน โดยจะทยอยดำเนินงานกับ Sector ที่สำคัญโดยเริ่มจาก Health

“AIGC ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวหนึ่งของ ETDA ภายใต้ความร่วมมือของหน่วยงานพาร์ตเนอร์สำคัญทั้งในและต่างประเทศ ที่ไม่เพียงส่งเสริมให้เกิดการใช้ AI อย่างมีความรับผิดชอบ แต่ยังช่วยให้เกิดกรอบหรือแนวทางในการใช้งานที่ถูกต้อง โปร่งใส เพื่อให้การประยุกต์ใช้ AI ในทุกภาคส่วนเกิดความเสี่ยงและผลกระทบต่อผู้ใช้งานน้อยที่สุด อันจะส่งผลต่อการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและเพิ่มสัดส่วนมูลค่าเพิ่มของเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศในระยะต่อไป” ดร.ชัยชนะ กล่าว

ดร.ศักดิ์ เสกขุนทด
ดร.ศักดิ์ เสกขุนทด ที่ปรึกษาอาวุโส ETDA กล่าวว่า ศูนย์ AIGC มุ่งขับเคลื่อนงานใน 4 มิติด้วยกัน ได้แก่ มิติที่ 1 การพัฒนากรอบธรรมาภิบาลปัญญาประดิษฐ์สำหรับการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ให้มีความเหมาะสมกับบริบทของไทยและสอดคล้องกับแนวนโยบายในระดับสากล มิติที่ 2 การให้คำปรึกษาด้านนโยบาย ธรรมาภิบาลปัญญาประดิษฐ์ การประยุกต์ใช้งาน AI สำหรับการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์แก่ทุกภาคส่วน

มิติที่ 3 การพัฒนาและเผยแพร่ข้อมูล องค์ความรู้ ผลงานวิจัยต่างๆ ที่เกี่ยวกับการประยุกต์ใช้ AI อย่างมีธรรมาภิบาล และมิติที่ 4 สร้างเครือข่ายผู้เชี่ยวชาญทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลทางวิชาการ นวัตกรรมเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับธรรมาภิบาลปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI Governance

โดยระยะแรก AIGC จะมุ่งเน้นไปที่กลุ่มทางการแพทย์และสาธารณสุขก่อน เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มีการนำเทคโนโลยี AI มาประยุกต์ใช้งานและช่วยในกระบวนวินิจฉัย คัดกรองและการรักษาผู้ป่วยของแพทย์อย่างแพร่หลายมากขึ้น และเพื่อป้องกันผลกระทบ ตลอดจนความเสี่ยงจากการใช้งานเทคโนโลยีที่อาจจะเกิดขึ้น ซึ่ง ETDA พร้อมด้วยพาร์ตเนอร์ ได้แก่ ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) กรมการแพทย์ และกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) จึงได้ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) ความร่วมมือในการเดินหน้าพัฒนากรอบธรรมาภิบาลด้านปัญญาประดิษฐ์ทางการแพทย์ที่สอดคล้องกับบริบทของประเทศร่วมกัน เพื่อให้ได้ Thailand AI Governance Framework และ AI Governance Policy Guide สำหรับวงการแพทย์และสาธารณสุข ทั้งยังร่วมแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยี AI ระหว่างกันด้วย

นอกจากนี้ ศูนย์ AIGC ยังมุ่งให้บริการในการให้คำปรึกษาและพัฒนาทักษะเกี่ยวกับการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี AI สำหรับการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์แก่หน่วยงานทั้งภาครัฐ เอกชน ตลอดจนผู้ประกอบการที่สนใจ และเดินหน้าสำรวจความพร้อมประเทศด้าน AI Governance เพื่อเป็นข้อมูลอ้างอิงที่จะใช้ในการดำเนินงานและวางแผนในการพัฒนากฎหมาย มาตรฐาน ตลอดจนแนวทางการดูแล AI ของไทยในอนาคตด้วย

“จุดแข็งของ AI Governance Clinic by ETDA หรือ AIGC คือการที่เรามีเครือข่ายคณะทำงานที่ล้วนแต่มีความเชี่ยวชาญซึ่งมาจากหน่วยงานในหลากหลายมิติ ทั้งสถาบันการศึกษาและวิจัย ผู้เชี่ยวชาญด้านการกำหนดมาตรฐาน AI ในระดับสากล ผู้เชี่ยวชาญด้านนวัตกรรมจากหน่วยงานต่างๆ ทั่วโลก ที่สำคัญเรายังเตรียมทาบทามผู้ทรงคุณวุฒิด้าน AI ที่เกี่ยวข้องกับบริการที่เราโฟกัส อย่างทางการแพทย์ การเงิน ธุรกิจ และการศึกษาจากหลากหลายประเทศมาร่วมเป็นที่ปรึกษา “International Policy Advisory Panel (IPAP)” เพื่อให้การดำเนินงานของศูนย์ฯ ครอบคลุมในมิติสำคัญที่ต้องดูแลทั้งเทคโนโลยี จริยธรรม ธรรมาภิบาล โดยคำนึงถึงการปกป้องสิทธิผู้ใช้งานเป็นสำคัญ” ดร.ศักดิ์ กล่าวทิ้งท้าย


กำลังโหลดความคิดเห็น