แม้รายงานผลประกอบการไตรมาสล่าสุดของ Apple จะแสดงให้เห็นถึงรายได้จากบริการแบบบอกรับสมาชิก (Subscription) ที่มีสัดส่วนเกือบ 22% ด้วยรายได้กว่า 1.9 หมื่นล้านเหรียญในช่วงไตรมาสที่ผ่านมา จากรายได้รวมกว่า 9 หมื่นล้านเหรียญ
โดยมีจำนวนผู้ใช้บริการแบบสมัครสมาชิกเพิ่มขึ้นจาก 860 ล้านคน เป็น 900 ล้านคนในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา แสดงให้เห็นถึงอัตราการเติบโตของผู้ใช้งานบริการต่างๆ จากแอปเปิล ไม่ว่าจะเป็น Apple Music Apple TV+ และบริการบันเดิลอย่าง Apple One
ขณะเดียวกัน ล่าสุด Apple ได้ทยอยส่งจดหมายหาลูกค้าที่สมัครใช้งานบริการต่างๆ ในประเทศไทย เพื่อประกาศขึ้นราคา ซึ่งตามหลังมาจากก่อนหน้านี้ ที่ในสหรัฐฯ มีการปรับขึ้น 1-3 เหรียญต่อเดือนแล้วแต่บริการ
ส่วนในประเทศไทยมีการปรับราคาเพิ่มขึ้นไล่ตั้งแต่ Apple Music สำหรับใช้งานเฉพาะบุคคลจาก 129 บาท เป็น 139 บาทต่อเดือน ตามด้วยแบบครอบครัวจาก 199 บาท เป็น 219 บาท ส่วนราคาสำหรับนักศึกษายังอยู่ที่ 79 บาทเท่าเดิม
ในส่วนของ Apple TV+ ปรับราคาขึ้นจาก 99 บาท เป็น 199 บาท และ Apple One ที่แพกบันเดิลที่รวม 4 บริการทั้ง Apple Music Apple TV+ Apple Arcade และ iCloud+ ขึ้นราคาสำหรับบุคคลจาก 225 บาท เป็น 295 บาท และแบบครอบครัวจาก 295 บาท เป็น 379 บาท
เบื้องต้น ทางแอปเปิลให้เหตุผลที่มีการปรับขึ้นราคาบริการแบบบอกรับสมาชิกขึ้นมาจากการที่ค่าลิขสิทธิ์สูงขึ้น โดยใน Apple Music การปรับขึ้นราคาจะช่วยให้ศิลปิน และนักแต่งเพลงมีรายได้เพิ่มขึ้น ส่วนใน TV+ ระบุว่ามาจากการที่ในแพลตฟอร์มมีเนื้อหาเพิ่มขึ้นจากช่วงเปิดให้บริการจำนวนมาก
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์หลายรายมองไปในทิศทางเดียวกันถึงกลยุทธ์ของ Apple ในการปรับขึ้นราคาบริการ เนื่องจากต้องการเพิ่มผลกำไรให้สูงขึ้นจากเซอร์วิส แทนที่การไปปรับขึ้นราคาในส่วนของอุปกรณ์ต่างๆ ที่แม้จะมีต้นทุนสูงขึ้น แต่แอปเปิลเลือกที่จะทำตลาดในระดับราคาเดิมอย่าง iPhone (ในสหรัฐฯ)
