xs
xsm
sm
md
lg

ZORT ลุยจัดการออเดอร์ LINE SHOPPING-TikTok Shop มั่นใจดันยอดขายเพิ่ม 50%

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ซอร์ท (ZORT) สตาร์ทอัปแพลตฟอร์มบริหารจัดการออเดอร์และสต๊อกครบวงจรสัญชาติไทย ลุยขยายบริการคลุมโซเชียลคอมเมิร์ซทั้งไลน์ช้อปปิ้ง (LINE SHOPPING) และติ๊กต็อกช็อป (TikTok Shop) เชื่อมีโอกาสดันให้ยอดขายของผู้ค้าเพิ่มขึ้นจากเดิม 50% ฟันธงเทรนด์ Social Commerce มาแรงในไทย จนอาจขึ้นมาสร้างยอดขายได้เท่าเทียมกับมาร์เก็ตเพลส (Marketplace) ภายใน 1-2 ปี

นายสวภพ ท้วมแสง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซอร์ทเอาท์ จำกัด (ZORTOUT) ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มบริหารจัดการออเดอร์และสต๊อกครบวงจร (ZORT) เปิดเผยว่า แม้สภาวะเศรษฐกิจไทยในปีนี้จะมีแนวโน้มซบเซา แต่ธุรกิจอีคอมเมิร์ซอาจจะโตต่อเนื่อง โดยสถิติของ ZORT พบการเติบโตไม่ต่ำกว่า 60% จากปีที่แล้ว ในจำนวนนี้เป็นโซเชียลคอมเมิร์ซราว 45% ของตัวเลขรวมจาก ZORT ปัจจัยที่หนุนให้อีคอมเมิร์ซเติบโตคือ 1.พฤติกรรมหลังโควิด-19 ทั้งพฤติกรรมของผู้ซื้อและผู้ขายที่เกิดขึ้นหลายช่องทางมากขึ้น (Omni chanel) และ 2.ความนิยมในแชตคอมเมิร์ซที่การได้พูดคุยสามารถสร้างความมั่นใจ และเปิดช่องทางสำหรับต่อรองราคาซึ่งเหมาะกับพฤติกรรมคนไทย รวมถึงไลฟ์คอมเมิร์ซ ที่การได้ชมผู้ขายไลฟ์ขายสินค้ามักทำให้เกิดความรู้สึกอยากซื้อหลังจากฟัง ทั้ง 2 เทรนด์ที่กระตุ้นยอดขายออนไลน์ทำให้ ZORT ตัดสินใจให้บริการระบบหลังบ้านที่จัดการคำสั่งซื้อผ่าน Live-Chat โดยให้บริการบนช่องทางโซเขียลคอมเมิร์ซ ทั้งช่องทางการไลฟ์ขายของ หรือช่องทางแชต ทำให้ระบบ ZORT สามารถจัดการกับคำสั่งซื้อ พร้อมเชื่อมต่อกับระบบสต๊อกสินค้า และระบบขนส่ง รวมถึงระบบจัดการชำระเงิน เช่นเดียวกับที่ ZORT ได้ให้บริการผ่านช่องทางทั้ง Marketplace เว็บไซต์แบรนด์ดอทคอม และช่องทางออฟไลน์

“ความร่วมมือกับ LINE SHOPPING และ TikTok Shop เพื่อให้บริการบนช่องทางโซเชียลคอมเมิร์ซ จะช่วยเพิ่มยอดขายให้ผู้ค้าออนไลน์ (GMV) ได้ถึง 50% โดย ZORT ตั้งเป้าการเติบโตครึ่งหลังปี 2565 ราว 100% และอีก 100% ในปี 2566 เป้าหมายของเราคือต้องการเพิ่มช่องทางการขายให้ได้มากที่สุด ปีนี้จึงจะไปโซเชียลคอมเมิร์ซ เพิ่มจุดแข็งสำหรับแข่งขันกับต่างชาติ บนเป้าหมายใหญ่คือการสร้างอีโค เสริมธุรกิจ เพิ่มช่องทางการขายได้แบบไม่มีที่สิ้นสุด และจะเติบโตอีกเท่าตัว”

สวภพ ท้วมแสง
ฟีเจอร์ใหม่ในระบบหลังบ้านของ ZORT ถูกการันตีว่าจะสามารถจัดการคำสั่งซื้อผ่าน Live-Chat โดยผู้ขายไม่ต้องแบกต้นทุนสูง และเจ้าของร้านคนเดียวสามารถจัดการรับมือออเดอร์หลายช่องทางได้ ความสามารถนี้เกิดขึ้นได้เพราะการจับมือกับ LINE SHOPPING และ TikTok Shop ซึ่งเป็น 2 เจ้าใหญ่ที่เติบโตโดดเด่นท่ามกลางเทรนด์โซเชียลคอมเมิร์ซทั้งในไทยและทั่วโลกที่ร้อนแรงเป็นพิเศษ โดยแอปพลิเคชันแชตอย่าง LINE เผยสถิติว่าร้านค้าโซเชียลบน LINE SHOPPING เติบโตต่อเนื่องจนปัจจุบันมีจำนวนถึง 450,000 ร้าน และ 80% เป็น SMEs ขณะที่ TikTok พยายามชูว่า TikTok Shop เป็นเอนเตอร์เทนเมนต์วิดีโอแพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้มากกว่าพันล้านคนทั่วโลก ดังนั้น สถิติผู้ใช้เกินหลักพันล้านรายจึงถือเป็นทั้งโอกาสให้ผู้ชมสนุกไปกับคอนเทนต์และได้ทำความรู้จักแบรนด์ เนื่องจาก TikTok Shop นั้นสามารถต่อยอดธุรกิจบนแพลตฟอร์มให้ครบลูปเพื่อให้ TikTok สามารถซื้อขายสินค้าได้จริง และไม่ต้องออกจากแพลตฟอร์ม

การเพิ่มบริการโซเชียลคอมเมิร์ซรอบนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญหลังจากปี พ.ศ.2558 ที่ ZORT ได้ขึ้นเป็นผู้ให้บริการ Seller Management Platform ด้วยฐานะผู้ประกอบการไทยกลุ่มแรกๆ ที่ก่อตั้งขึ้นมาเพื่อให้ตอบโจทย์การขายผ่าน Marketplace ภายใต้แนวคิด Customer Centric ที่เน้นความต้องการของลูกค้าเป็นศูนย์กลาง น้องใหม่อย่าง ZORT ได้ทำหน้าที่รวบรวมการขายของจากหน้าร้านทุกแพลตฟอร์มทั้งออนไลน์และออฟไลน์มาไว้ที่เดียว ทั้งระบบจัดการออเดอร์ จัดการสต๊อก จัดการขนส่ง ระบบรับชำระเงิน (Payment Gateway) และฟีเจอร์ส่งเสริมการขาย (CRM) ที่พัฒนาจากความคิดเห็นของผู้ใช้งานจริงและการวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า (Data Analysis) เพื่อต่อยอดพัฒนาการขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ


ตลอดระยะเวลา 7 ปีที่ผ่านมา ZORT เผยสถิติประจำปี 2565 ว่ามีลูกค้าที่ไว้วางใจใช้บริการเพิ่มขึ้นเป็น 4,500 ราย มีการเติบโตถึง 30% จากปลายปี 2564 ทั้งจากลูกค้าระดับองค์กรและผู้ค้ารายย่อย สร้างมูลค่าการเติบโตให้ลูกค้าถึง 300% ลดต้นทุนทางธุรกิจได้ถึง 30% เสริมศักยภาพให้ SME ไทยเติบโตแข่งขันกับตลาดต่างชาติและตลาดขนาดใหญ่ได้อย่างสมบูรณ์

ผู้บริหาร ZORT เชื่อว่าการจับมือกับ LINE SHOPPING และ TikTok Shop เพื่อพัฒนาระบบนั้นช่วยเพิ่มศักยภาพให้ผู้ประกอบการรายย่อยผู้ขายสินค้าผ่านหลายแพลตฟอร์มซึ่งต้องอาศัยการบริหารจัดการที่ซับซ้อนมากขึ้น ขณะเดียวกัน เชื่อว่าการจับมือกันครั้งนี้จะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อผู้ประกอบการที่กำลังต้องการขยายธุรกิจไปอีกขั้น โดยปัจจุบัน ZORT ได้รับการเพิ่มทุน Series A จากกลุ่มทุนของธนาคารกรุงศรีอยุธยา ทำให้ ZORT สามารถพัฒนาฟีเจอร์เชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มชั้นนำทั้งใน Marketplace และ Social Commerce คาดว่าสัดส่วนผู้ค้าโซเชียลคอมเมิร์ซในไทยนั้นมีไม่ต่ำกว่า 2 ล้านราย

ในส่วนภาพรวมการแข่งขัน พบว่าตลาดแพลตฟอร์มระบบจัดการออเดอร์งานขายออนไลน์นั้นมีผู้เล่นในตลาดราว 4-5 ราย ซึ่งแต่ละรายมีการพัฒนาฟีเจอร์จัดการข้อมูล ระบบออโตเมชัน ระบบปิดบัญชีอัตโนมัติ ตามความต้องการที่หลากหลาย โดยสินค้าที่ทำยอดขายบนแพลตฟอร์มมากที่สุดอันดับ 1 คือสินค้าแฟชั่น รองลงมาเป็นสินค้าด้านสุขภาพความงาม และอันดับ 3 คือสินค้าอิเล็กทรอนิกส์


กำลังโหลดความคิดเห็น