การก้าวเข้าสู่โลกเมตาเวิร์สของกลุ่มทรู ด้วยการจับมือเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์กับทาง Zepeto ถือเป็นอีกหนึ่งแนวทางสำคัญที่ชี้ให้เห็นถึงการทำงานร่วมกันรูปแบบใหม่ในระดับโลก และช่วยเปิดโอกาสครั้งสำคัญในคนไทยได้มีโอกาสสร้างผลงานเพื่อให้คนทั่วโลกได้เข้าถึง
รูปแบบการเป็นพันธมิตรเพื่อร่วมกันผลักดันธุรกิจให้เกิดขึ้น ถือเป็นแนวทางที่น่าจับตามองมากๆ ในเวลานี้ โดยเฉพาะในยุคที่ทุกสิ่งเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และการที่จะมัดใจผู้บริโภคยุคใหม่นั้น ขึ้นอยู่กับอีโคซิสเต็มที่ครบถ้วน และครอบคลุมมากที่สุด
ขณะเดียวกัน ในโลกของ ‘เมตาเวิร์ส’ นั้นต้องยอมรับว่า กลุ่มผู้ใช้งานแรกที่จะก้าวเข้าสู่โลกเสมือนนี้คือกลุ่มคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะในกลุ่มของ Gen Z ที่เกิด และเติบโตมากับยุคดิจิทัล และมองโลกเสมือนเป็นเหมือนอีกพื้นที่ และช่องทางในการสื่อสารกับกลุ่มเพื่อน พร้อมกับสร้างสังคมแห่งการแบ่งปัน
ดังนั้น การเข้าร่วมกับ Zepeto ที่มีฐานลูกค้าใช้งานทั่วโลกกว่า 340 ล้านราย จาก 200 ประเทศ เป็นคนไทยหลักล้านราย และที่สำคัญสัดส่วนผู้ใช้หลักกว่า 80% อยู่ในช่วงอายุ 6-24 ปี หรือกลุ่ม Gen Z จะช่วยให้การเชื่อมต่อเข้าสู่โลกเสมือนของกลุ่มทรู ทำได้รวดเร็ว และสมบูรณ์แบบไปพร้อมกัน
พีรธน เกษมศรี ณ อยุธยา หัวหน้าคณะผู้บริหาร ด้านกลยุทธ์คอนเทนต์ และรัฐกิจสัมพันธ์ Strategic Content & Public Affair บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เล่าให้ฟังว่า ปัจจุบันโลกของเมตาเวิร์สมีการตีความที่หลากหลายมาก และในขณะเดียวกันก็เป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่มากด้วย
‘เมื่ออนาคตของอินเทอร์เน็ต โดยเฉพาะโลกในยุคของ Web 3.0 คือเรื่องของการเชื่อมต่อที่เปลี่ยนแปลงไป ดังนั้นผู้ให้บริการโอเปอเรเตอร์จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะก้าวเข้าสู่โลกของเมตาเวิร์ส เพราะเป็นวิถีแบบใหม่ในการเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร พร้อมกับสร้างสังคมแห่งการแบ่งปัน’
ในมุมของกลุ่มทรู สิ่งแรกที่ทำได้จากการลงทุนต่อเนื่องโดยเฉพาะเรื่องของโครงข่าย True 5G และอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ความเร็วสูงอย่าง True Online ที่ครอบคลุมทั่วประเทศไทย ซึ่งจะเข้ามาช่วยสนับสนุนให้คนไทยมีศักยภาพมากยิ่งขึ้นในลักษณะของการเป็น Digital Lifestyle Enabler เพื่อให้คนไทยสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีที่จะช่วยสร้างโอกาสในระดับโลก รวมถึงการเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันให้ซอฟต์เพาเวอร์ไทยให้คนทั่วโลกได้รู้จัก และเข้าถึงผ่านโลกเสมือนบน Zepeto
***เข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ ร่วมผลักดันให้ใช้งาน
จากข้อมูลผลสำรวจที่น่าสนใจคือ ปัจจุบันทั่วโลกมีผู้ที่เริ่มเข้าถึงโลกเสมือนผ่านเทคโนโลยี AR (Augmented Reality) แล้วมากกว่า 1.04 พันล้านคน โดยกลุ่มผู้ใช้งานหลักจะอายุต่ำกว่า 20 ปี พร้อมกับมีการคาดการณ์ว่ามูลค่าเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในเมตาเวิร์สจะอยู่ที่ราว 5.4 หมื่นล้านเหรียญต่อปี
เมื่อเป็นเช่นนั้น จึงทำให้เกิดความร่วมมือระหว่างกลุ่มทรู และ Zepeto ที่กระบวนการพูดคุยจนถึงการลงนามเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์แบบเอ็กซ์คลูซีฟในประเทศไทยนั้น เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจากวิสัยทัศน์ที่ทั้ง 2 ฝ่ายมองเห็นร่วมกัน โดยเฉพาะเรื่องของการนำเสนอเนื้อหาที่น่าสนใจ ภายใต้ความเข้าใจที่ว่า ‘Content is King’ ในการแสวงหาแนวทางนำเสนอเนื้อหา เพื่อให้เกิดการสื่อสารที่ดีขึ้น สำหรับคนรุ่นใหม่ เพราะ Zepeto เป็นพื้นที่ที่เปิดโอกาสให้ครีเอเตอร์หน้าใหม่ที่มีความคิดสร้างสรรค์ รวมถึงคนไทยให้กลายเป็นผู้ผลิตคอนเทนต์ลำดับต้นๆ ในโลกเมตาเวิร์สได้
พีรธน ระบุว่า การที่กลุ่มทรูมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำในโลกเมตาเวิร์ส ต้องเริ่มจากการเข้าไปหาประสบการณ์ในโลกเสมือนที่มีฐานผู้ใช้งานใหญ่มากที่สุดเป็นลำดับต้นๆ ของโลก เพื่อให้ทำความเข้าใจได้ลึก และกว้างขวาง และเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม มีผู้ใช้งานมากขึ้นก็จะเกิดช่องทางให้สามารถสร้างรายได้จากธุรกิจนี้
สิ่งที่กลุ่มทรูคาดหวังหลังจากเกิดความร่วมมือนี้ คือเมื่อมีปริมาณผู้ใช้งานเมตาเวิร์สเพิ่มมากขึ้น จะผลักดันให้เกิดเทคโนโลยีใหม่ในลักษณะของการเป็น Power of Use ที่จะเข้ามาแทนที่การสื่อสารรูปแบบเดิมในแนวทางที่ดีขึ้น พร้อมยกตัวอย่างว่าที่ผ่านมาโลกของโซเชียลมีเดียได้เข้ามาแทนที่การสื่อสารผ่านอีเมล หรือแชตได้อย่างน่าสนใจ
‘เมตาเวิร์ส จะเข้ามาช่วยเติมเต็มการสื่อสารที่ขาดหายผ่านวิธีการที่อยู่บนดิจิทัล ที่จะเห็นได้ชัดเจนขึ้นเมื่อผู้คนมีความคุ้นชินกับ AR/VR หรือเทคโนโลยีที่เป็น Immersive มากยิ่งขึ้น เพราะคนรุ่นใหม่จะแสวงหาสิ่งใหม่ที่จะเข้ามาแทนที่การสื่อสารที่ดีที่สุดอยู่เสมอ’
นอกจากนี้ การผลักดันให้เมตาเวิร์สเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วคือการนำทั้งการเชื่อมต่อ คอนเทนต์ ช่องทางการสื่อสาร และระบบการซื้อขายที่กลุ่มทรูมีความเชี่ยวชาญ มาช่วยส่งเสริมให้โลกเมตาเวิร์สของ Zepeto สามารถเกิดขึ้นได้จริงในระยะเวลาอันสั้น
จุดเด่นของ Zepeto นอกจากมีจำนวนผู้ใช้งานลำดับต้นๆ ของโลกแล้ว การร่วมมือกับแบรนด์ชั้นนำที่สนใจเทคโนโลยีก็ถือเป็นอีกความท้าทายที่น่าสนใจ เพราะปัจจุบันทั้งแบรนด์แฟชันระดับโลกอย่าง Disney Nike Gucci Samsung หรือแม้แต่ค่ายเพลงเกาหลีอย่าง HYBE ที่มีศิลปินอย่าง BTS และ YG ที่มี Black Pink ก็เข้ามาทำงานร่วมกับ Zepeto อย่างใกล้ชิด
‘การที่แบรนด์ของ True ได้ขึ้นไปปรากฏพร้อมกับแบรนด์ชั้นนำระดับโลก เปรียบเหมือนการสร้างตัวตนให้แบรนด์ของคนไทยมีพื้นที่ในเวทีโลกมากขึ้น และเมื่อครีเอเตอร์ไทยเข้ามาสร้างผลงานในพื้นที่เหล่านี้ ก็จะช่วยผลักดันให้ประเทศไทยมีตัวตนมากขึ้นในเศรษฐกิจดิจิทัลที่เกิดขึ้นในอนาคต’
***เชื่อมเมตาเวิร์ส สู่ O2O
ในระยะเวลาอันสั้นนี้ สิ่งแรกที่จะเห็นจากความร่วมมือในครั้งนี้ คือ การนำทรูแบรนด์ชอป เข้าไปอยู่ในโลกเสมือนของ Zepeto เพื่อที่จะเปิดทางให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงสินค้า และบริการได้เหมือนไปใช้งานที่หน้าศูนย์บริการ และมีโอกาสที่จะต่อยอดความร่วมมือไปยังเครือซีพี ที่มีธุรกิจค้าปลีกระดับประเทศไม่ว่าจะเป็น 7-11 โลตัส แม็คโคร วีมอลล์ ที่สามารถเชื่อมโยงเข้ามาในโลกของเมตาเวิร์สได้
ขณะเดียวกัน ยังมีแผนที่จะนำคอนเทนต์ในกลุ่มทรู จากการที่มีพันธมิตรอย่าง SM True รวมถึงเนื้อหาจากทาง True Vision เข้ามาผสมผสานเพื่อให้บริการใน Zepeto ด้วย ทำให้เกิดการเชื่อมโยงอีโคซิสเต็มทั้งในแง่ของการซื้อขายสินค้าในลักษณะของอีคอมเมิร์ซ การเป็นคอมมูนิตีเพื่อพบปะพูดคุยแลกเปลี่ยนเรื่องราวต่างๆ จนถึงในแง่ของความบันเทิง
ไม่ใช่แค่ในฝั่งของกลุ่มทรูเท่านั้นที่สามารถนำเนื้อหาเข้ามาอยู่ใน Zepeto เพราะจากความร่วมมือนี้ ยังเปิดโอกาสให้ครีเอเตอร์ไทยที่อยู่ภายใต้ True Digital ที่เป็นเครือข่ายครีเอเตอร์ใหญ่ที่สุดในไทย สามารถเข้ามาสร้างสรรค์ผลงานในโลกเสมือน เพื่อก่อให้เกิดรายได้มหาศาลได้
ข้อมูลที่น่าสนใจคือปัจจุบันมีครีเอเตอร์ที่เข้ามาอยู่ใน Zepeto มากกว่า 1 แสนราย โดยมีครีเอเตอร์ไทยที่เข้ามาลงทะเบียนแล้วมากกว่า 100 ราย ซึ่งมีครีเอเตอร์ไทยที่สามารถสร้างรายได้มากกว่า 2.5 ล้านเหรียญ (87.5 ล้านบาท) เกิดขึ้นแล้ว
ดังนั้น พื้นที่เมตาเวิร์สของ True x Zepeto ในครั้งนี้จึงไม่ใช่แค่การเปิดประตูสู่โลกเมตาเวิร์สของกลุ่มทรู แต่เป็นการเชื่อมคนไทยให้เข้าถึงแพลตฟอร์มระดับโลก เพื่อให้ครีเอเตอร์ไทยร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้อย่างยั่งยืน