xs
xsm
sm
md
lg

หัวเว่ยปั้นคน Cloud Security เซ็น MoU คลาวด์เซค เอเซียรับการเติบโต

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



บริษัท คลาวด์เซค เอเซีย จำกัด จับมือหัวเว่ย ประเทศไทย ต่อยอดเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยบนคลาวด์ ลุยร่วมกันสร้างบุคลากรด้าน Cloud Security มั่นใจรองรับการเติบโตของภาคอุตสาหกรรมที่จะขยายตัวมากขึ้นในอนาคต

นายเบนสัน ฉิน ประธานกรรมการบริหาร ฝ่ายธุรกิจคลาวด์ บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า หัวเว่ยให้ความสำคัญมากในด้านของ Cloud Security เป็นอันดับต้นๆ บริษัทมีทีมนักวิจัยและนักพัฒนามากกว่าครึ่งหนึ่งของพนักงานที่มุ่งมั่นที่จะพัฒนาเทคโนโลยีให้ก้าวขึ้นไปในระดับที่สูงขึ้น จากประสบการณ์ด้าน Security มากกว่า 30 ปีผสมผสานแนวทางการปฏิบัติด้าน Cloud Security การปฏิบัติตามกฎหมาย ข้อบังคับ มาตรฐานและข้อกำหนดด้านความปลอดภัยบนคลาวด์ บริษัทยึดถือและให้คำมั่นสัญญามาโดยตลอดว่าจะพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ลูกค้ารู้สึกมั่นใจจากการใช้บริการที่หัวเว่ยคลาวด์

"ในด้านการฝึกอบรมทางหัวเว่ยคลาวด์ได้มีการจัดหลักสูตรที่ช่วยแนะนำตั้งแต่การเริ่มใช้งาน ไปจนถึงหลักสูตรเฉพาะทางเพื่อเป็นการวางรากฐาน และเสริมสร้างทักษะทางเทคนิคของผู้เข้าฝึกอบรมผ่านช่องทางออนไลน์ โดยพื้นที่ตรงนี้จะเป็นส่วนหนึ่งของการสร้าง และพัฒนาบุคคลากรต่อไป”

บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด ได้ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลง (MoU) กับบริษัท คลาวด์เซค เอเซีย จำกัด ในการต่อยอดเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยบนคลาวด์ เพื่อตอบโจทย์ความปลอดภัยในการย้ายข้อมูลขึ้นไปไว้บนคลาวด์ของภาคอุตสากรรม พร้อมร่วมกันสนับสนุนด้านการศึกษาในการผลิตบุคลากรด้าน Cloud Security ผลักดันให้ประเทศไทยกลายเป็นศูนย์กลางด้านการพัฒนาบุคลากรด้าน Cloud Cyber Security ต่อไป


ในพิธีลงนามดังกล่าว ได้รับเกียรติจากนายกฤษณยศ บูรณะสัมฤทธิ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท คลาวด์เซค เอเซีย จำกัด และ นางปิยะธิดา อิทธิระวิวงศ์ ประธานกรรมการ แผนกธุรกิจคลาวด์ บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้ลงนาม โดยมี ดร.วารินทร์ แคร่า ประธานเจ้าหน้าที่ สายงานยุทธศาสตร์องค์กร บริษัท คลาวด์เซค เอเซีย จำกัด และ น.ส.สุนิตา อรุณแสงโรจน์ จากรองประธานกรรมการ แผนกธุรกิจคลาวด์ บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธี

ภายใต้บันทึกข้อตกลงดังกล่าว หัวเว่ยจะให้คำปรึกษาในด้านโซลูชันคลาวด์ต่างๆ รวมถึงเทคโนโลยี ผลิตภัณฑ์ และบริการคลาวด์ล่าสุดให้คลาวด์เซค เอเซีย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ การบริการ บุคลากรให้แก่ลูกค้า ในขณะเดียวกันบริษัท คลาวด์เซค เอเซีย พัฒนา Cyber Security Solution ให้หัวเว่ยคลาวด์ เพื่อรองรับการเติบโตของภาคอุตสาหกรรมที่จะขยายตัวมากขึ้นในอนาคต


นายกฤษณยศ บูรณะสัมฤทธิ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท คลาวด์เซค เอเซีย จำกัด (Cloudsec Asia) บริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านการป้องกันภัยทางไซเบอร์และการวางระบบคลาวด์แบบครบวงจร กล่าวว่า คลาวด์เซค เอเซีย ได้นำมิติความปลอดภัยทางไซเบอร์ทั้ง 3 มิติมาประยุกต์รวมกัน สร้างเป็นบริการที่แตกต่างครอบคลุมแบบ End-to-end มากกว่าที่จะทำหน้าที่เพียงอย่างใดอย่างหนึ่ง โดยทุกบริการสามารถปรับได้ตามความต้องการของลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นการตรวจจับเพียงอย่างเดียว หรือการตรวจจับพร้อมป้องกัน ก็สามารถทำได้แบบ Made to order ด้วยความเชี่ยวชาญและเทคโนโลยีชั้นสูง บริษัทจึงสามารถออกแบบบริการได้อย่างหลากหลายเพื่อให้เหมาะสมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนทุกขนาด ตั้งแต่กิจการขนาดเล็กแบบเอสเอ็มอีไปจนถึงบริษัทมหาชน

"คลาวด์เซค เอเซีย กำลังวางแผนที่จะขยายธุรกิจด้านไซเบอร์ซิเคียวริตีให้ครอบคลุมไปยังกลุ่มประเทศ CLMV (Cambodia-Laos-Myanmar-Vietnam) ด้วย เนื่องจากบริการด้านไซเบอร์ซิเคียวริตีนับวันจะยิ่งทวีความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะโลกดิจิทัลใกล้ตัวและเชื่อมโยงผู้คนมากกว่าที่เคยเป็นมา โดยการร่วมมือกับหัวเว่ยในครั้งนี้ ทางเรามั่นใจว่าจะสามารถร่วมกันผลิตบุคลากร รวมถึงพัฒนานวัตกรรมด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ เพื่อโชว์ศักยภาพของประเทศไทยให้เป็นผู้นำด้าน Cyber Security"

ด้าน ดร.วารินทร์ แคร่า ประธานเจ้าหน้าที่ สายงานยุทธศาสตร์องค์กร บริษัท คลาวด์เซค เอเซีย จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันนี้ไม่ว่าจะภาครัฐหรือเอกชนต่างเริ่มย้ายข้อมูลไปสู่ คลาวด์มากขึ้นเรื่อยๆ เพราะโครงสร้างพื้นฐานไอทีที่เป็นฮาร์ดแวร์ กลายเป็นต้นทุนที่สิ้นเปลืองที่สุดอย่างหนึ่ง ดังนั้นการย้ายข้อมูลขึ้นไปอยู่บนคลาวด์ จึงเป็นสิ่งที่ลดต้นทุนเหล่านี้ลงได้ แต่สิ่งที่ต้องตามมาคือ “การรักษาความปลอดภัยบนคลาวด์” (Cloud Security) ซึ่งเป็นสิ่งที่คลาวด์เซค เอเซีย มีความเชี่ยวชาญสูงสุด

"เราสามารถดูแลได้ทั้งในเรื่อง Posture ไปจนถึง Cloud Compliance and Risk แบบครบวงจร ทั้งบน Public Cloud และ Private Cloud โดยการร่วมมือกับทางหัวเว่ย เทคโนโลยี่ ในครั้งนี้ นับเป็นการเริ่มต้นที่จะ ทำให้การเดินหน้าเพื่อเป็นผู้นำในด้าน Cloud Security เติบโตได้รวดเร็วยิ่งขึ้น โดยประชาชน ลูกค้า และผู้ที่ใช้บริการจะได้รับประสบการณ์ที่ดีและปลอดภัยที่สุดในการ ใช้บริการคลาวด์ และรองรับผู้ประกอบการทุกท่านเข้าสู่ยุค Digital transformation อย่างเต็มตัว และมั่นคง"


นอกจากจะเป็นการพัฒนาระบบ Cloud Security Solution บนหัวเว่ยคลาวด์ในประเทศไทยแล้ว ยังมุ่งมั่นร่วมกันป้องกัน และรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ให้ลูกค้า ทุกกลุ่มอุตสาหกรรมในภูมิภาคเอเชีย เพื่อลดความเสียหายจากอาชญากรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พร้อมทั้งขยายตลาด เพื่อให้สามารถรองรับความต้องการของทุกภาคอุตสาหกรรมที่เข้ามาใช้บริการคลาวด์ ซึ่งนับวันจะยิ่งขยายตัวมากขึ้นเรื่อยๆ

รวมทั้งการร่วมกันพัฒนาการศึกษาด้านคลาวด์ซิเคียวริตี โดยมุ่งเน้นในการให้ความรู้ และพัฒนาบุคลากรของไทยให้มีความพร้อมในการทำงาน และสามารถรองรับทุกความต้องการของภาคธุรกิจด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์บนคลาวด์ที่กำลังขยายตัวเพิ่มขึ้น เพื่อผลักดันให้ประเทศไทยกลายเป็นศูนย์กลางด้านการพัฒนาบุคลากรด้าน Cloud Cyber Security ต่อไป

นอกจากนี้ หัวเว่ยยังจัดงาน HUAWEI CONNECT 2022 กรุงเทพฯ ที่กำลังจะเกิดขึ้นในวันที่ 19-21 กันยายน พ.ศ.2565 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ งานนี้เปิดโอกาสให้คนที่สนใจเทคโนโลยีร่วมหารือเกี่ยวกับความท้าทายและโอกาสที่เกิดขึ้นจากอุตสาหกรรมดิจิทัล สำรวจว่าเทคโนโลยีอย่างคลาวด์ AI และ 5G ที่ช่วยสร้างความปลอดภัยให้องค์กรและอุตสาหกรรม นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มผลิตภัณฑ์และโซลูชัน ICT ใหม่ล่าสุดที่นำมาจัดแสดงซึ่งมีนวัตกรรมที่ก้าวล้ำที่จะช่วยพัฒนายกระดับของอุตสาหกรรมให้ก้าวไกลมากยิ่งขึ้น
กำลังโหลดความคิดเห็น