xs
xsm
sm
md
lg

เปิดเทรนด์ LINE Ads แพลตฟอร์มโฆษณาที่เข้าใจได้ง่ายขึ้น

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



LINE Ads เผยเทรนด์การใช้งานของนักการตลาดในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ซึ่งทุกส่วนกำลังปรับตัวเข้าสู่ดิจิทัล โดยธุรกิจที่มียอดเม็ดเงินลงทุนผ่าน LINE Ads สูงสุดใน 3 ปีที่ผ่านมาและยังคงครองตำแหน่งในปีนี้ คือ ธุรกิจเครื่องสำอาง (Cosmetics) ธุรกิจค้าปลีกแฟชั่น (Shopping & Fashion) และธุรกิจอาหารเพื่อสุขภาพ (Healthfood) และยังคงมีแนวโน้มที่จะเติบโตต่อเนื่องในปีนี้


อย่างไรก็ตาม ธุรกิจที่มาแรงคาดว่าจะมีอัตราการเติบโตสูงขึ้นในปีนี้เป็นพิเศษ คือ ธุรกิจยานยนต์ คาดการณ์เติบโตที่ 93% ธุรกิจสถาบันการเงินที่ 70% และธุรกิจเทคโนโลยีที่ 52% ด้วยเหตุจากการขยายการให้บริการ หรือการออกสินค้าใหม่ที่ต้องการเข้าถึงลูกค้าโดยตรงผ่านทางออนไลน์ เพื่อตอบโจทย์กระแสหรือความต้องการตลาดได้อย่างรวดเร็ว ทันใจ เช่น การให้บริการสินเชื่อผ่านแอปต่างๆ การออกรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ที่กำลังเป็นกระแสความสนใจ เป็นต้น เหล่านี้เป็นปัจจัยกระตุ้นการใช้เม็ดเงินโฆษณาบน LINE Ads ทั้งสิ้น


ขณะเดียวกัน เมื่อมองในด้านของวัตถุประสงค์การใช้งานโฆษณาบน LINE ซึ่งมีหลากหลายให้เลือกตามความต้องการของแบรนด์แล้ว วัตถุประสงค์ “Reach” ซึ่งถูกปรับเปลี่ยนจาก Reach & Frequency เดิม เพื่อเสริมประสิทธิภาพของการโฆษณาในแง่ของจำนวนการเข้าถึงผู้ใช้งานแต่ละคนในต้นทุนที่ต่ำลง ได้กลายเป็นวัตถุประสงค์การลงโฆษณาที่ LINE มองเห็นอัตราการเติบโตในแง่ของเม็ดเงินการลงทุนจากแบรนด์มากที่สุดในปีนี้ถึง 467%

โดยรูปแบบ VDO View มีแนวโน้มการเติบโตที่ 35% สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้บริโภคไทยที่นิยมรับชมวิดีโอสั้นในปัจจุบัน ทั้งนี้ แบรนด์ยังสามารถใช้ประโยชน์จากการเก็บ Reach จากแคมเปญโฆษณาในระดับสร้างการรับรู้ (Awareness) ต่อยอดนำไปสู่การทำแคมเปญเพื่อให้ลูกค้านึกถึงแบรนด์ (Consideration) และตัดสินใจซื้อ (Conversion) ในลำดับต่อไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ส่วนการทำแคมเปญโฆษณาในระดับ Consideration และ Conversion วัตถุประสงค์ “Gain Friend” เพื่อเพิ่มเพื่อนให้ LINE OA ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าจะเติบโต 9% ในขณะที่วัตถุประสงค์ดึงดูดกลุ่มเป้าหมายไปที่เว็บไซต์อย่าง “Website Visit” กลายเป็นที่นิยมเพิ่มขึ้นมาก คาดว่าจะเติบโตประมาณ 34%

เนื่องจากในช่วงเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัล หลายแบรนด์มีความพร้อมในการจัดทำเว็บไซต์หรือหน้าร้านของตนบนโลกออนไลน์ได้อย่างครบครัน จึงต้องการสร้าง traffic ไปที่เว็บไซต์หรือหน้าร้านของตนเพื่อปิดการขายได้ทันที

ในขณะที่แคมเปญเพื่อกระตุ้นการใช้งานแอป เห็นการเติบโตไม่แพ้กัน ทั้งในส่วนวัตถุประสงค์ “App Install” ที่คาดว่าจะเติบโต 50% และ “App Engagement” ที่คาดว่าจะเติบโตถึง 900% อันเนื่องมาจากการ retarget เชิญชวนหรือกระตุ้นลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย เช่น กลุ่มผู้ติดตั้งแอปไว้แล้วแต่ไม่แอ็กทีฟ หรือกลุ่มที่เคยใช้บริการซื้อสินค้าผ่านแอปมาแล้ว ให้หันกลับมาสนใจ เข้าใช้บริการในแอปอีกครั้งอย่างต่อเนื่อง โดยธุรกิจเกมและธุรกิจสถาบันการเงินถือเป็นธุรกิจหลักที่ใช้งานโฆษณาด้วยวัตถุประสงค์เหล่านี้

ด้านประสิทธิภาพของโฆษณาที่สะท้อนความสนใจของผู้บริโภค ธุรกิจสื่อและบันเทิง เช่น สำนักข่าว ทีวีสตรีมมิ่ง ถือเป็นธุรกิจมาแรงที่ได้รับความสนใจ โดยคาดว่าปีนี้จะมีอัตราการคลิกต่อจำนวนการมองเห็น หรือ CTR สูงสุดเป็นอันดับ 1 คือ 0.81% ตามมาด้วยธุรกิจสถาบันการเงิน และธุรกิจเครื่องสำอาง 0.72% และ 0.57% ตามลำดับ

สำหรับการลงโฆษณาบน LINE Ads มีสถิติยืนยันจากการใช้งานว่า แบรนด์ที่มีการทำแคมเปญโดยใช้ดาต้าจากหลากหลายช่องทางมาวิเคราะห์ ทำ Cross-Targeting ร่วมกัน จะช่วยให้ผลลัพธ์ตัวเลข CTR เพิ่มขึ้นถึง 1.3 เท่า เมื่อเปรียบเทียบกับการทำแคมเปญโดยใช้ดาต้าจากช่องทาง หรือเครื่องมือเดียว


ทั้งนี้ ปัจจุบัน LINE Ads มีพื้นที่ในการลงโฆษณาหรือ Ads placement ในแพลตฟอร์มมากถึง 6 พื้นที่ด้วยกัน สามารถเข้าถึงผู้ใช้งานมากถึง 53 ล้านคน พร้อมนำเสนอโซลูชันเพิ่มเติมให้แบรนด์สามารถนำ LINE Ads ไปต่อยอดใช้งาน ประกอบด้วย


1.Business Manager คือ ดาต้าโซลูชันใหม่จาก LINE ที่รวบรวมและแชร์ข้อมูลจาก 3 เครื่องมือที่อยู่บน LINE Ecosystem คือจาก LINE Official Account (LINE OA), LINE Ads และ LINE Smart Channel 2.Smart Channel Custom คือ ตำแหน่งโฆษณาในหน้ารายการแชต หรือที่เรียกว่า Smart Channel ทำเลทองสำหรับการลงโฆษณาบน LINE 3.Reach Objective เป็นวัตถุประสงค์ใหม่ในการลงโฆษณาบน LINE Ads ที่เปิดตัวในปีนี้ และ Instream Ads โฆษณารูปแบบใหม่บน LINE VOOM


กำลังโหลดความคิดเห็น