xs
xsm
sm
md
lg

MediaTek ไม่หวั่นปมขัดแย้ง”จีน-สหรัฐฯ-ไต้หวัน” เล็งขยายธุรกิจชิปสู่ 3 เซกเตอร์ไทย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



มีเดียเทค (MediaTek) ผู้ผลิตชิปสัญชาติไต้หวันยันไม่เห็นผลกระทบจากความขัดแย้งระหว่างจีน สหรัฐอเมริกา และไต้หวัน ยอมรับเศรษฐกิจฟุบทำยอดขายมือถือมีแนวโน้มลดลง แต่ 5G จะเปิดกว้างให้ตลาดชิปมีเส้นทางสดใสที่หลากหลายในยุคทองของโครงข่าย 5G SA มั่นใจโครงการที่กำลังเจรจาองค์กรไทยไปได้สวย เล็งขยายสู่ 3 เซกเมนต์ไทยเพื่อปักหลักเติบโต

นายแดเนียล ลิม ผู้อำนวยการฝ่ายขายองค์กร กลุ่มตลาดเกิดใหม่ บริษัท MediaTek กล่าวว่าบริษัทยังไม่เห็นผลกระทบจากความขัดแย้งระหว่างจีน สหรัฐอเมริกา และไต้หวัน โดยที่ผ่านมา บริษัทประสบความสำเร็จเรื่องการเติบโตอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดอุปกรณ์พกพา เห็นได้ชัดจากผลประกอบการในไตรมาสแรกของปี 2565 บริษัทมีการเติบโตที่แข็งแกร่งกว่า 32% โดยรายรับ 53% มาจากกลุ่มโทรศัพท์มือถือ ขณะที่ 39% มาจากกลุ่มแพลตฟอร์ม Smart-Edge Platform และ 8% มาจากธุรกิจ Power IC

“ความสำเร็จเหล่านี้ช่วยให้ MediaTek รักษาตำแหน่งที่ 1 ในแง่ของส่วนแบ่งตลาดสมาร์ทโฟนโดยรวมตั้งแต่ไตรมาสที่ 3 ปี 2564 โดยส่วนแบ่งตลาด Android ทั่วโลกของ MediaTek นั้นเพิ่มขึ้นเป็น 38% คิดเป็นอัตราเติบโตกว่า 50% ในปี 2564”

คำยืนยันนี้ถือว่าน่าสนใจมากหลังจากเกิดกระแสจับตามองทั่วโลกว่าความขัดแย้งระหว่างจีน สหรัฐอเมริกา และไต้หวัน อาจทำให้เกิดความผันผวนในตลาดชิปเซมิคอนดักเตอร์ เนื่องจากไต้หวันเป็นฐานการผลิตชิปที่สำคัญของโลก ครองสัดส่วนมากกว่า 50% ซึ่งในกรณีของ MediaTek นั้นถือเป็น 1 ใน 4 บริษัทผลิตเซมิคอนดักเตอร์แฟบเลสขนาดใหญ่ที่สุดระดับโลก ซึ่งขับเคลื่อนให้เกิดการผลิตอุปกรณ์ที่มีระบบเชื่อมต่อถึง 2 พันล้านเครื่องต่อปี และเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ของบริษัทระดับโลกขนาดใหญ่ทั่วโลกรวมถึงในประเทศไทย สถิติรายรับปี 64 นั้นขยายตัว 60% จาก 10,900 ล้านเหรียญ เป็น 17,600 ล้านเหรียญสหรัฐ

สถิติรายรับปี 64 ของ MediaTek
ต้นปี 2565 ถือเป็นช่วงเวลาทองของ MediaTek โดยบริษัทขึ้นเป็นข่าวพาดหัวตัวใหญ่ด้วยการเปิดตัวชิปซีรีส์ Dimensity 8100/8000 และ 9000 ที่ MediaTek มั่นใจว่าจะช่วยนำประสิทธิภาพระดับสูงมาสู่โทรศัพท์ระดับพรีเมียมกลุ่มเริ่มต้น และไม่นานหลังจากเครือข่ายข้อมูลไร้สายใหม่อย่าง Wi-Fi 6 ถูกเปิดตัว บริษัท MediaTek ก็ผ่าไปเปิดตัวผลิตภัณฑ์ Wi-Fi 7 ตัวแรกในชื่อ Filogic 380 โดยมุ่งทำตลาดที่สมาร์ทโฟน พีซี แล็ปท็อป สมาร์ททีวี และสมาร์ททีวี รวมถึงระบบสตรีม และอุปกรณ์สื่อสารข้อมูลความเร็วสูงระดับ 6.5 Gb/s เพื่อรองรับ Wi-Fi 7 โดย MediaTek ยังได้เปิดตัวเราเตอร์/รีพีเตอร์ชื่อ Filogic 880 ที่รองรับความเร็วสูงสุด 19 Gb/s ด้วย

สำหรับส่วนธุรกิจอินเทอร์เน็ตแห่งสรรพสิ่งหรือ IoT นั้น บริษัทส่ง MediaTek Genio มารองรับในฐานะเป็นโซลูชันที่ทันสมัยสำหรับอุปกรณ์ IoT ที่เชื่อมต่อที่ใช้พลังงานต่ำและประสิทธิภาพสูงทั้งหมด ผลิตภัณฑ์นี้ยังมีตัวเลือกการเชื่อมต่อ Wi-Fi และ 5G ที่ได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้น รองรับมัลติมีเดียสำหรับการพัฒนาระบบบน Android มากขึ้น

MediaTek ร่วมมือกับแบรนด์โทรศัพท์ชั้นนำในการเปิดตัวสมาร์ทโฟน 5G หลายรุ่นผ่านแบรนด์เช่น Oppo, Reno, Vivo, Redmi, Xiaomi, Samsung และอื่นๆ
ที่สำคัญคือ 5G บริษัทชิปอย่าง MediaTek วางนโยบายมุ่งเน้นพัฒนาชิปสำหรับระบบ 5G ความเร็วสูงทั้งในแง่ของการสร้างเครือข่ายและการใช้งานจริง ตั้งแต่ปี 2564 จนถึงปัจจุบัน MediaTek ได้ทำลายสถิติโลกครั้งแรกในด้านเทคโนโลยี ความเร็วที่เร็วที่สุด ซึ่งทำได้เพราะการร่วมมือเป็นพันธมิตรกับโอเปอเรเตอร์ในหลายตลาดทั่วโลก

อนาคตสดใสของ 5G ในอาเซียน
ไม่เพียงแต่แอปพลิเคชัน 5G บนมือถือเท่านั้น MediaTek ยังปรับใช้ 5G ในหลายพื้นที่ เช่น บรอดแบนด์ 5G, เทเลเมติกส์ และ IoT บริษัทเปิดตัวชุดชิปเซ็ตมากมายที่รองรับยูสเคส 5G ที่หลากหลาย จุดนี้ทำให้ MediaTek ไม่ได้เพียงร่วมมือกับแบรนด์โทรศัพท์ชั้นนำในการเปิดตัวสมาร์ทโฟน 5G หลายรุ่นผ่านแบรนด์เช่น Oppo, Reno, Vivo, Redmi, Xiaomi, Samsung และอื่นๆเท่านั้น แต่ยังมีความร่วมมือกับโอเปอเรเตอร์เพื่อพัฒนาในระดับโครงข่ายด้วย

นายชุนยัน ซี (Chunyan See) ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท MediaTek แสดงความมั่นใจว่าธุรกิจของบริษัทจะไปได้สวยในตลาดไทย เพราะแม้ความผันผวของเศรษฐกิจจะทำให้ยอดขายอุปกรณ์มือถือมีแนวโน้มลดลง แต่จากการเจรจากับองค์กรใหญ่ในไทยนั้นมีแนวโน้มสดใส โดยปัจจัยบวกมาจากแนวโน้มของโอเปอเรเตอร์ในไทยที่ต้องแข่งขันกันลงทุนและพัฒนาโครงข่าย 5G ให้มีประสิทธิภาพ ซึ่งนอกจากโอเปอเรเตอร์ บริษัทวางแผนจะขยายไปที่ 3 ส่วนตลาด ซึ่งจะทำให้เกิดการประยุกต์ใช้ชิปประสิทธิภาพสูงของบริษัทในมุมที่หลากหลายมากขึ้น

“3 เซกเตอร์คือสมาร์ทโฮม สมาร์ทรีเทล และสมาร์ทโลจิสติกส์” ชุนยันระบุ “การร่วมมือกับพันธมิตรที่ผ่านมามักมีแต่ในอุปกรณ์ที่มีหน้าจอ แต่สมาร์ทโฮมจะครอบคลุมส่วนระบบไฟอัตโนมัติ เราจะสร้างอีโคซิสเต็มในพื้นที่นี้ให้เติบโตในตลาดไทย ทั้งด้านสมาร์ทเซ็นเซอร์ ระบบสมาร์ทโฮม ทำงานกับโอเปอเรเตอร์ และคอนเทนต์อื่น เพื่อนำสินค้ากลุ่มสมาร์ทโฮมมาสู่ตลาดไทย ถือเป็นหนึ่งในเป้าหมายของเรา”

ชุนยัน ซี
อีกเซกเมนต์ที่ MediaTek จะขยายในตลาดไทยคือสมาร์ทรีเทล บริษัทระบุว่ากำลังหาพาร์ทเนอร์เพื่อเติบโตในธุรกิจระบบชำระเงินดิจิทัล ซึ่งได้รับความนิยมและใช้งานแพร่หลายในประเทศจีนแล้ว นอกจากการจ่ายชำระเงิน MediaTek ยังมีเทคโนโลยีอื่นเพื่อการพัฒนา “ไลฟ์สไตล์ฮับ” เช่น ระบบลองเสื้อดิจิทัล และอีกหลายระบบที่จะทำให้องค์กรสามารถนำชิปมาเพิ่มยอดการขายได้ หรือการเชื่อมต่อของกล้องไอพีแคเมรา เพื่อให้เกิดประสบการณ์รีเทลหรือการค้าปลีกที่ดีขึ้น

เซกเมนต์สุดท้ายคือโลจิสติก MediaTek ระบุว่าชิปสามารถยกระดับให้ระบบจัดการรถบรรทุกหรือระบบบริหารการขนส่งอื่นๆ มีระบบศูนย์กลางเพื่อช่วยให้องค์กรจัดการได้ดีขึ้น รวมถึงธุรกิจการขนส่งอาหารที่ประเทศไทยมีแนวโน้มเติบโตในอนาคต

“เราเป็นผู้ให้บริการโซลูชัน 5G ที่สามารถผสมเข้าไปกับระบบบริหารรถอีวี (รถยนต์พลังงานไฟฟ้า) รวมถึงรถบรรทุกอีวี และแม้แต่เรืออีวี เราเห็นความตั้งใจของรัฐบาลไทยที่จะเพิ่มจุดชาร์จ ชิปของ MediaTek จะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานบนระบบ 5G ซึ่งจะเปลี่ยนวิถีธุรกิจโลจิสติกในไทยได้”.


กำลังโหลดความคิดเห็น