xs
xsm
sm
md
lg

“พ.อ.สรรพชัยย์” นัดพนักงาน NT ชี้แจงปรับโครงสร้างองค์กร 11 ส.ค.นี้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“ชัยวุฒิ” มั่นใจกรรมการผู้จัดการใหญ่คนใหม่สามารถนำพา NT มีกำไร ด้าน “พ.อ.สรรพชัยย์” เดินเครื่องแสดงวิสัยทัศน์ต่อพนักงาน NT รับปากขึ้นเงินเดือนให้พนักงานทุกคน ย้ำทุกคนต้องออกแรง ก่อนรายได้หมื่นล้านบาทต่อปีจะหายไปหลังปี 2568 พร้อมเตรียมชี้แจงเรื่องปรับโครงสร้างองค์กร 11 ส.ค.นี้ 

นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวว่า หลังจากที่ พ.อ.สรรพชัยย์ หุวะนันทน์ เข้ามารับตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT เมื่อวันที่ 20 ก.ค.2565 ที่ผ่านมา ได้มอบนโยบายและโครงการหลักๆ ที่ต้องขับเคลื่อนให้สำเร็จ ได้แก่ การปรับโครงสร้างองค์กรหลังมีการควบรวมกิจการ โครงการ 5G บนคลื่น 700 MHz ที่เป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส ซึ่งครึ่งหนึ่งของคลื่นที่ประมูลมาทำธุรกิจร่วมกับเอไอเอส ส่วนที่เหลืออีกครึ่งหนึ่ง NT ต้องนำมาดำเนินการเองทั้งการให้บริการ 5G และเติมเต็มเครือข่ายของบริการโทรศัพท์มือถือ my กิจการดาวเทียมที่รับมอบมาจากบริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) หลังหมดสัญญาร่วมการงาน การปรับรูปแบบการให้บริการโทรศัพท์พื้นฐานเป็นฟิกซ์ ไวร์เลส และเรื่องท่อร้อยสายใต้ดิน ซึ่งเชื่อว่าภายในวาระการทำงาน 4 ปี กรรมการผู้จัดการใหญ่คนใหม่จะสามารถขับเคลื่อนงานได้สำเร็จพร้อมกับมีผลประกอบการไม่ขาดทุนและมีกำไร 

ขณะที่เมื่อวันที่ 26 ก.ค.2565 เวลา 10.00-12.00 น. มีการจัดงาน “CEO 1 TALK” พ.อ.สรรพชัยย์ พูดครั้งแรกกับพนักงาน NT เพื่อทำความรู้จักกับซีอีโอคนแรกของ NT พร้อมแสดงวิสัยทัศน์ในการขับเคลื่อน NT สู่ความสำเร็จ โดยการรับฟังสดที่สำนักงานใหญ่แจ้งวัฒนะ และทางออนไลน์ โดยไฮไลต์ที่สำคัญคือการขึ้นเงินเดือนให้พนักงาน 6.5% ภายในสิ้นเดือน ส.ค.2565 และสัญญาว่าต่อไปการขึ้นเงินเดือนจะตรงเวลาไม่ล่าช้า ขณะที่เรื่องโบนัสนั้นยังไม่สามารถให้คำตอบได้ แม้ว่าปี 2564 NT มีกำไร 2,600 ล้านบาท แต่เป็นตัวเลขที่ยังไม่ได้หักค่าเสื่อมต่างๆ ส่วนเรื่องโครงสร้างองค์กรนั้นมีนัดกับพนักงานอีกครั้งหนึ่งในวันที่ 11 ส.ค.2565 โดยยืนยันว่าต้องปรับแบบค่อยเป็นค่อยไปและมีภารกิจให้ทำชัดเจน 

“คลื่น 700 MHz ตอนที่ตัดสินใจประมูลนั้น เรามีแผน มีความพร้อม แต่ตอนนี้เราขายให้เอไอเอส จำนวน 5 MHz ที่เขารับไปเท่ากับมูลค่าปีที่มีอยู่ของการประมูล ที่เหลืออีกครึ่งหนึ่งนำมารักษาฐานลูกค้าเก่า 2-3 ล้านราย และทำ IoT ให้โครงการกลุ่มลูกค้าองค์กร เพราะจำนวนดีไวซ์จะเกิดในอนาคตมหาศาล ส่วนคลื่นที่กำลังจะหมดในปี 2568 ทั้งคลื่น 850 MHz 2100 MHz  และ 2300 MHz ทำให้รายได้จะหายไปปีละ 10,000 ล้านบาท  เราต้องทำหน้าที่เป็นองค์กรด้านโทรคมนาคมของรัฐ ต้องออกแรงทำ แม้กฎหมายจำกัดให้เราทำไม่ได้ แต่ต้องออกแรงทำ ตนมองว่าต่อไปคลื่นความถี่ไม่จำเป็นต้องจัดสรรด้วยการประมูลเพียงอย่างเดียว หากคลื่นมีจำนวนมากและไม่มีใครสนใจประมูล ควรจะมีวิธีการได้คลื่นมาใช้งาน ดีกว่าให้สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เก็บไว้แล้วไม่มีใครนำมาใช้ประโยชน์” พ.อ.สรรพชัยย์ กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น