ไปรษณีย์ไทยชี้แจงการปรับอัตราค่าบริการส่งจดหมายครั้งแรกในรอบ 18 ปี ในประเภทซอง และหีบห่อ โดยในประเภทซองพิกัดแรกไม่เกิน 10 กรัม ยังคงราคา 3 บาทเช่นเดิม ส่วนหีบห่อพิกัดน้ำหนักแรก 30 บาท
บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ชี้แจงการปรับอัตราค่าบริการส่งจดหมาย ซึ่งเป็นการปรับอัตราค่าบริการครั้งแรกในรอบ 18 ปี โดยเป็นการปรับราคาเฉพาะบริการจดหมายในประเทศเท่านั้น คือ จดหมายประเภทซอง และจดหมายประเภทหีบห่อ ซึ่งเป็นไปตามสหภาพสากลไปรษณีย์ (Universal Postal Union) ที่มีข้อกำหนดเกณฑ์การจัดส่งไปรษณียภัณฑ์ ให้แยกตามรูปแบบและสิ่งบรรจุภายใน ซึ่งการส่งจดหมายประเภทซองพิกัดแรก น้ำหนักไม่เกิน 10 กรัม ยังคงไว้ที่ 3 บาทเช่นเดิม
ส่วนจดหมายประเภทซอง ที่น้ำหนักเกิน 10 กรัม และประเภทหีบห่อ จำเป็นต้องปรับราคาให้สอดรับกับสภาวะเศรษฐกิจและต้นทุน เริ่มตั้งแต่วันที่ 6 กรกฎาคม 2565 ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อผู้ใช้บริการไปรษณีย์ลงทะเบียน
โดยในระยะแรก ระหว่าง พ.ศ. 2565-2567 จดหมายประเภทซอง ไม่เกิน 10 กรัมที่ 3 บาท ประเภทหีบห่อ น้ำหนักไม่เกิน 500 กรัม 30 บาท สูงสุด 55 บาทสำหรับน้ำหนัก 1,000-2,000 กรัม
ส่วนระยะที่สอง ตั้งแต่ปี 2568 จดหมายประเภทซอง จะมีพิกัดเริ่มแรกที่ 4 บาท สำหรับไม่เกิน 10 กรัม ส่วนแบบหีบห่อไม่เกิน 500 กรัม 34 บาท สูงสุด 62 บาท น้ำหนัก 1,000-2,000 กรัม
ทั้งนี้ ไปรษณีย์ไทยมีโปรโมชันบริการ EMS ที่ช่วยแบ่งเบาภาระของผู้ใช้บริการและต้นทุนผู้ประกอบการ โดยส่ง EMS วันจันทร์-วันเสาร์ค่าส่งเริ่มต้น 25 บาท และพิเศษวันอาทิตย์ค่าส่งเริ่มต้น 19 บาท สามารถเช็กสถานะได้ตลอดเส้นทาง
ขณะเดียวกัน เพื่อให้ผู้ใช้บริการได้รับผลกระทบน้อยที่สุด ภาคธุรกิจซึ่งฝากส่งเอกสารและจดหมายกับไปรษณีย์ไทยมาอย่างต่อเนื่อง หรือส่งในปริมาณมากๆ จะมีการมอบส่วนลดในอัตราพิเศษ สามารถติดตามรายละเอียดได้ที่ www.thailandpost.co.th และที่ทำการไปรษณีย์ทุกแห่งทั่วประเทศ