ไปรษณีย์ไทยขานรับนโยบายด้านสิ่งแวดล้อม จากโครงการความยั่งยืนที่เป็นรูปธรรม ทั้งโครงการไปรษณีย์ reBOX ต่อยอดกล่องพัสดุ และซองกระดาษให้มีคุณค่า การผลิตกล่องพัสดุจากเยื่อกระดาษรีไซเคิล การนำรถยนต์ และรถจักรยานยนต์พลังงานไฟฟ้ามาทดลองใช้ในการขนส่ง
ดร.ดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด กล่าวว่า จากสถานการณ์ทางด้านสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ไปรษณีย์ไทยได้มีการปรับตัวในเรื่องดังกล่าวอย่างเป็นรูปธรรม เนื่องจากเป็นภาคบริการขนาดใหญ่และมีผลกระทบต่อภาคส่วนทางเศรษฐกิจและสังคม ที่ผ่านมา จึงกำหนดเป็นแผนงาน กิจกรรมเพื่อส่งต่อประโยชน์ให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และสร้างศักยภาพให้เกิดขึ้นกับหน่วยงานในระยะยาว
โดยมีการดำเนินงานที่สำคัญ ได้แก่ โครงการไปรษณีย์ reBOX นำกล่องพัสดุมาพัฒนาเป็นสิ่งใหม่ที่มีคุณค่า และเกิดผลเชิงบวกกับสาธารณะ พร้อมคืนกำไรให้ผู้เข้าร่วมแคมเปญ เพียงรวบรวมกล่องพัสดุ/ซองที่ไม่ใช้แล้วมาให้ ณ จุด Drop Box จุด Drive Thru สามารถนำแต้มสะสมมาแลกเป็นส่วนลดค่าจัดส่งได้ตั้งแต่ 50 บาท สูงสุด 1,000 บาท เพื่อใช้ในบริการส่งด่วน EMS ในประเทศ ส่งด่วนต่างประเทศ EMS World ลงทะเบียนในประเทศ และลงทะเบียนต่างประเทศ โดยสามารถใช้สิทธิแลกส่วนลดค่าจัดส่งได้ตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2565
นอกจากนี้ ยังมีการผลิตกล่องพัสดุที่มีส่วนผสมของเยื่อรีไซเคิล ลดปริมาณการใช้เยื่อกระดาษที่ผลิตจากต้นไม้โดยตรง แต่ยังคงมีความแข็งแรงทนทานเหมือนเดิม รวมถึงพัฒนารถนำจ่าย และรถขนส่งพลังงานไฟฟ้า เพื่อรับกับเทรนด์ยานยนต์พลังงานไฟฟ้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากว่ารถยนต์ทั่วไป
อีกทั้งยังทดลองใช้รถขนส่งพลังงานไฟฟ้าขนาดใหญ่ (EV TRUCK) ซึ่งคาดการณ์ไว้ว่าจะช่วยประหยัดทรัพยากรได้เพิ่มขึ้นกว่า 30% และเป็นต้นแบบของผู้ให้บริการโลจิสติกส์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Green Logistics) ของประเทศไทยในอนาคต
“ไปรษณีย์ไทยยังได้ร่วมมือกับหน่วยงานพันธมิตรเพื่อร่วมกันดำเนินกิจกรรมทางด้านสิ่งแวดล้อมหลากหลายองค์กร ไม่ว่าจะเป็นโครงการ “ฝากทิ้ง E-Waste กับพี่ไปรษณีย์” ซึ่งเป็นความร่วมมือของไปรษณีย์ไทยกับเอไอเอส และยังคงมุ่งมั่นที่จะมีส่วนร่วมในการดูแลสิ่งแวดล้อม โดยเดินหน้าสู่การเป็นองค์กรเพื่อสร้างความยั่งยืนให้สิ่งแวดล้อมและสังคมต่อไป”