เอชเค แมเนจเมนท์ แอนด์ เซอร์วิส กรุ๊ป ผนึกกำลัง ม.ธรรมศาสตร์ เปิดตัวนวัตกรรมฝีมือคนไทย “Smart handy” อุโมงค์ฆ่าเชื้อโรคอัตโนมัติ รับมือชีวิตวิถีใหม่ ปักธงตีตลาดโลกหนุนไทยสู่ประเทศนวัตกรรมก้าวข้ามกับดักรายได้ปานกลาง
น.ส.จิรัฏฐ์ณิชชา กิติยาณัณท์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอชเค แมเนจเมนท์ แอนด์ เซอร์วิส กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่าการผลักดันประเทศไทยให้เป็นประเทศแห่งนวัตกรรม ถือเป็นปัจจัยที่สำคัญที่จะช่วยแก้ไขปัญหาและข้อจำกัดด้านเศรษฐกิจและสังคม รวมไปถึงการสร้างนวัตกรรมจะช่วยเพิ่มมูลค่าเพิ่มให้ประเทศ นำไปสู่การก้าวข้ามการเป็นประเทศรายได้ปานกลาง ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ของประเทศกำลังพัฒนา ประกอบกับสถานการณ์วิกฤตโรคระบาดจากโรคโควิด-19 ที่ยังคงแพร่ระบาดและมีการขยายสายพันธุ์ ส่งผลให้มีจำนวนผู้ติดเชื้อเป็นจำนวนมาก ทำให้มีผลกระทบอย่างรุนแรงต่อระบบเศรษฐกิจและสังคม รวมไปถึงการใช้ชีวิตประจำวันของประชาชนในประเทศ “Smart handy” อุโมงค์ฆ่าเชื้อโรคอัตโนมัติ จึงเป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมที่ช่วยผลักดันขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจ และสังคมให้ฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว พร้อมรับมือชีวิตวิถีใหม่ (New Normal) ด้วยความมั่นใจ
"เอชเค แมเนจเมนท์ แอนด์ เซอร์วิส กรุ๊ป ตระหนักถึงความสำคัญของการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และเล็งเห็นถึงโอกาสในการพัฒนานวัตกรรม จึงได้ลงนามความร่วมมือ (MOU) กับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยคณะวิศวกรรมศาสตร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบนวัตกรรมและเทคโนโลยี และคณะสหเวชศาสตร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านจุลชีววิทยา ในการพัฒนานวัตกรรม Smart handy อุโมงค์ฆ่าเชื้อโรคอัตโนมัติ ด้วยรังสี UVC สามารถฆ่าเชื้อไวรัสและแบคทีเรียได้สูงถึง 99% ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการคัดกรองเชื้อโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยลดความวิตกกังวล และเพิ่มความมั่นใจให้ประชาชนในการออกมาใช้ชีวิตประจำวัน ดำเนินกิจกรรมทางธุรกิจและสังคมได้อย่างต่อเนื่อง สามารถฟื้นตัวด้านเศรษฐกิจและสังคมในเชิงมหภาคได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะภาคการศึกษา เยาวชนสามารถเข้าสู่ระบบการศึกษาปกติ ส่งเสริมการเรียนรู้ด้านวิชาการ ไม่เป็นอุปสรรคต่อพัฒนาการของเยาวชนที่ต้องการการเรียนรู้และการปฏิสัมพันธ์จากสังคม ซึ่งเป็นพื้นฐานของการพัฒนาทุนมนุษย์"
สำหรับนวัตกรรม “Smart handy” อุโมงค์ฆ่าเชื้อโรคอัตโนมัติ พร้อมนำร่องจัดจำหน่ายในเชิงพาณิชย์สำหรับองค์กรขนาดใหญ่ โดยบริการให้คำปรึกษา ติดตั้งและวางระบบ ตลอดจนบริการหลังการขาย โดยกลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ ท่าอากาศยาน หน่วยงานราชการ โรงแรม ห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาล โรงเรียนและสถาบันการศึกษา ที่ต้องการระบบคัดกรองที่มีประสิทธิภาพเพิ่มความมั่นใจให้ผู้มาใช้บริการ
ปัจจุบัน บริษัทได้ทำการติดตั้ง Smart handy อุโมงค์ฆ่าเชื้อโรคอัตโนมัติ เพื่อทดลองใช้งาน ณ อาคารสำนักงานท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT และในอนาคต เอชเค แมเนจเมนท์ แอนด์ เซอร์วิส กรุ๊ป ตั้งเป้าพัฒนา Smart handy อุโมงค์ฆ่าเชื้อโรคอัตโนมัติ โมเดลสำหรับที่อยู่อาศัย เจาะกลุ่มลูกค้าทั่วไป ทั้งนี้บริษัทตั้งเป้ารายได้ 250 ล้านบาทภายใน 2 ปี และตั้งเป้าจัดจำหน่าย Smart handy อุโมงค์ฆ่าเชื้อโรคอัตโนมัติไปยังประเทศต่างๆ ทั่วโลก ซึ่งถือเป็นโอกาสจากความต้องการเพิ่มประสิทธิภาพการคัดกรองเชื้อโรคลดความเสี่ยงในการเกิดโรคระบาด และโรคอุบัติใหม่ในอนาคต
ผศ.ดร.ปรัชญา เปรมปราณีรัชต์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เปิดเผยว่า ความสำเร็จของนวัตกรรม Smart handy อุโมงค์ฆ่าเชื้อโรคอัตโนมัติ นับเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จของนวัตกรรมไทยภายใต้ความร่วมมือของภาคเอกชนและสถาบันการศึกษา ภายใต้แนวคิด “คนไทยคิด คนไทยทำ เพื่อสุขภาพคนไทย” เป็นอีกหนึ่งฟันเฟืองที่สำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพจุดคัดกรองให้มีความสะอาดปลอดภัยต่อสิ่งมีชีวิต
โดยการระดมความรู้ในการออกแบบและวิจัย “Smart handy” อุโมงค์ฆ่าเชื้อโรคอัตโนมัติ โดยทีมวิศวกรรมผู้เชี่ยวชาญ โดยทดลองใช้รังสี UVC ความยาวคลื่น 253.7 นาโนเมตร จากการวิจัยและทดสอบผลพบว่า รังสี UVC สามารถเข้าไปทำลาย DNA และ RNA ของสิ่งมีชีวิตขนาดเล็ก ทำให้ไม่สามารถแพร่พันธุ์ และก่อให้เกิดโรคได้อีก ซึ่งเท่ากับมีศักยภาพสูงในการทำลาย DNA และ RNA ของเชื้อโรคและฆ่าเชื้อโรคได้ ที่สำคัญความเข้มข้นของรังสียูวีซีสามารถฆ่าเชื้อไวรัสและเชื้อแบคทีเรียได้อีกด้วย จากนั้นได้คัดเลือกอุปกรณ์คุณภาพสูงจากบริษัทผู้ผลิตชั้นนำ ที่ไม่ก่อให้เกิดสารที่ทำลายชั้นบรรยากาศโอโซนของโลก ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดปรากฏการณ์โลกร้อน
เบื้องต้น Smart handy อุโมงค์ฆ่าเชื้อโรคอัตโนมัติได้ขึ้นทะเบียนจดสิทธิบัตร จากกรมทรัพย์สินทางปัญญาเรียบร้อยแล้ว โดยเน้นการออกแบบ [TP2] ดีไซน์ตัวเครื่องให้มีรูปลักษณ์ที่ทันสมัย เพื่อเพิ่มมูลค่าให้นวัตกรรมและสร้างจุดขายที่สำคัญทำให้นวัตกรรมไทยเติบโตและเป็นที่ยอมรับทั้งในประเทศและต่างประเทศ แสดงให้เห็นว่าประเทศไทยมีศักยภาพในการคิดค้นและพัฒนานวัตกรรมไม่แพ้ประเทศต่างๆ ทั่วโลก โดยที่ผ่านมา นวัตกรรมไทยประสบปัญหาหลักที่สำคัญ 2 ประการ ได้แก่ การออกแบบดีไซน์ให้มีความทันสมัย และการร่วมมือกับภาคเอกชนที่มีความสามารถในการผลักดันนวัตกรรมออกสู่ตลาดในเชิงพาณิชย์ได้อย่างเป็นรูปธรรม เป็นหนึ่งจิ๊กซอว์สำคัญในการผลักดันประเทศก้าวสู่ประเทศแห่งนวัตกรรม
รศ.ดร.วรดา สโมสรสุข คณะสหเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เปิดเผยว่า นวัตกรรม “Smart handy” อุโมงค์ฆ่าเชื้อโรคอัตโนมัติ ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านจุลชีววิทยา จากการวิจัยและทดสอบผลร่วมกันกับผู้เชี่ยวชาญจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พบว่า สามารถฆ่าเชื้อบาซิลลัส อะโทรเฟียส (Bacillus atrophaeus) เป็นเชื้อที่สร้างสปอร์ได้ นั่นหมายถึงสามารถใช้ฆ่าเชื้อไวรัส และแบคทีเรียได้เช่นกัน และมีประสิทธิภาพในการหยุดเชื้อได้ถึง 10,000 เซลล์ และได้ทดสอบด้วยการหยอดเชื้อบาซิลลัส อะโทรเฟียส ลงบนพื้นผิวหลายชนิด เช่น กระเป๋าหนัง กระเป๋าเดินทาง วัสดุที่เป็นพลาสติก กล่องพัสดุไปรษณีย์ และนำไปผ่านกระบวนการฆ่าเชื้อโรคด้วย Smart handy อุโมงค์ฆ่าเชื้อโรคอัตโนมัติ พบว่าภายในระยะเวลา 15 วินาที สามารถฆ่าเชื้อโรคได้ถึง 95% หากเพิ่มเวลาในกระบวนการฆ่าเชื้อโรคเป็น 18 วินาที พบว่าสามารถฆ่าเชื้อโรคที่ติดมากับวัตถุได้สูงถึง 99% นวัตกรรมนี้นับเป็นความสำเร็จในการสร้างนวัตกรรมเพิ่มประสิทธิภาพการคัดกรองเชื้อโรค ช่วยยับยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส และแบคทีเรีย ปกป้องสุขภาพและความเป็นอยู่ของผู้คนให้มั่นใจในการออกไปใช้ชีวิตในยุคที่เชื้อโรคต่างๆ มีการพัฒนาสายพันธุ์อย่างรวดเร็วทั้งของเชื้อโรคต่างๆ รวมไปถึงโรคอุบัติใหม่