เอ็นทีที เดต้า (NTT DATA) ร่วมลงทุนในกองทุนสตาร์ทอัป “ฟินโนเวนเจอร์ ไพรเวท อิควิตี้ ทรัสต์ 1” เสริมความแข็งแกร่งธุรกิจ ฟินเทค อีคอมเมิร์ซ และออโตโมทีฟ
นายฮิโรนาริ โทมิโอกะ ประธานกรรมการและประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ็นทีที เดต้า (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า เอ็นทีที เดต้า (ประเทศไทย) ในฐานะคู่ค้าเชิงกลยุทธ์กับธนาคารกรุงศรีอยุธยามาเป็นระยะเวลานาน ล่าสุด บริษัทได้ตัดสินใจร่วมลงทุนใน “ฟินโนเวนเจอร์ ไพรเวท อิควิตี้ ทรัสต์ 1” กองทุนสตาร์ทอัป มูลค่ารวม 3,000 ล้านบาท โดยมีกรุงศรี ฟินโนเวต บริษัทร่วมลงทุนในเครือกรุงศรี กรุ๊ป เป็นผู้ดูแลและบริหารกองทุน กองทุนนี้เน้นการลงทุนเชิงกลยุทธ์แบบครบวงจรเพื่อสนับสนุนสตาร์ทอัปใน 3 กลุ่ม ได้แก่ สตาร์ทอัปในกลุ่มอุตสาหกรรมเทคโนโลยีการเงิน (Fintech) อุตสาหกรรมพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (E-commerce) และอุตสาหกรรมยานยนต์ (Automotive) ทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ให้เติบโตสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้กลายเป็นยูนิคอร์น และเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ พร้อมสร้างระบบนิเวศของสตาร์ทอัปอย่างยั่งยืน
นอกจากนี้ กรุงศรี ฟินโนเวต ยังมีพันธมิตรที่สำคัญอย่างเอ็มยูเอฟจี อินโนเวชัน พาร์ทเนอร์ (MUFG Innovation Partners Co.,Ltd. : MUIP) บริษัทร่วมลงทุนในเครือ MUFG สถาบันการเงินชั้นนำระดับโลกที่มีเครือข่ายแข็งแกร่ง ทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดในการคัดสรรและลงทุนในสตาร์ทอัป โดยทางเอ็นทีที เดต้า เป็นพาร์ตเนอร์ที่ช่วยพัฒนากลยุทธ์ทางด้านนวัตกรรม และเทคโนโลยีไอทีให้ เอ็มยูเอฟจี ทั้งในประเทศญี่ปุ่นและประเทศไทยมาอย่างยาวนาน ซึ่งเชื่อว่าการขยายความร่วมมือในครั้งนี้จะสามารถสร้างความสำเร็จและการเติบโตที่แข็งแกร่งให้กองทุน
“การลงทุนครั้งนี้นับเป็นก้าวสำคัญในธุรกิจใหม่ในการสร้างความร่วมมือและพันธมิตรทางธุรกิจกับสตาร์ทอัปที่อยู่ภายใต้กองทุน เพื่อบูรณาการนวัตกรรมและเทคโนโลยีจากสตาร์ทอัปชั้นนำในภูมิภาคมาต่อยอดทางธุรกิจ เพิ่มขีดความสามารถให้ลูกค้า สามารถตอบโจทย์ความต้องการผู้บริโภคยุคใหม่ในประเทศไทย และภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้ โดยเอ็นทีที เดต้า พร้อมสนับสนุนกลุ่มสตาร์ทอัปที่ต้องการความร่วมมือ เพื่อเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า ต่อยอดผลิตภัณฑ์และบริการที่ดีให้ลูกค้าของเราต่อไป ปัจจุบันกลุ่มลูกค้าหลักของเอ็นทีที เดต้า คือ กลุ่มธุรกิจสถาบันการเงินและกลุ่มธุรกิจยานยนต์ ซึ่งกำลังเผชิญหน้ากับความท้าทายด้วยการพลิกโฉมหน้าธุรกิจด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม ธุรกิจการเงินกำลังมุ่งหน้าเข้าสู่โลกการเงินไร้ศูนย์กลางอย่างรวดเร็ว เชื่อมโยงเข้าหากันอย่างไร้พรมแดนเพื่อแข่งขันกันตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ และสร้างประสบการณ์ทางการเงินที่สะดวกและรวดเร็วกับผู้คนทั่วโลก ในขณะเดียวกัน ธุรกิจยานยนต์ถูกท้าทายให้เร่งปรับตัวเข้าสู่ยานยนต์ไฟฟ้าและยานยนต์อัจฉริยะ เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ Net zero โดยเร็ว ไปพร้อมกับการแก้ไขวิกฤตพลังงานเชื้อเพลิง ซึ่งกลุ่มประเทศอาเซียนยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก การเข้าไปร่วมลงทุนในครั้งนี้ถือเป็นตัวเชื่อมที่จะนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ ไปช่วยต่อยอดเสริมความแข็งแกร่งให้ลูกค้าทั้ง 2 กลุ่ม” นายฮิโรนาริ กล่าว
นายแซม ตันสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท กรุงศรี ฟินโนเวต จำกัด กล่าวว่า กองทุนฟินโนเวนเจอร์ ไพรเวท อิควิตี้ ทรัสต์ 1 ได้รับความไว้วางใจและการตอบรับที่ดีจากองค์กรชั้นนำในหลากหลายธุรกิจ และเอ็นทีที เดต้า เป็นผู้ลงทุนรายล่าสุดที่ตัดสินใจร่วมลงในกองทุนดังกล่าว ซึ่งนับเป็นก้าวสำคัญที่บริษัทที่ปรึกษาและผู้ให้บริการทางด้านไอทีและเทคโนโลยีชั้นนำของโลกเข้าร่วมสนับสนุนสตาร์ทอัปในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในการสร้างโอกาสเติบโตให้สตาร์ทอัปที่มีศักยภาพ
"ในขณะเดียวกัน ก็สร้างผลตอบแทนและการเติบโตทางธุรกิจให้นักลงทุนในระยะยาวอีกด้วย กรุงศรี ฟินโนเวต ในฐานะผู้บริหารกองทุนเชื่อมั่นว่า การลงทุนครั้งนี้จะเป็นโอกาสในการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ของสตาร์ทอัปเหล่านั้นไปต่อยอดธุรกิจระดับโลก และที่สำคัญยังเป็นโอกาสในการประสานความร่วมมือกันในอนาคตระหว่างผู้ลงทุน เราอาจจะได้เห็นความร่วมมือในการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ ร่วมกัน ก่อนหน้านี้ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) บริษัท ปตท. นํ้ามันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) (OR) และบริษัท สยามราชธานี จำกัด (มหาชน) (SO) เป็น 3 องค์กรแรกที่ร่วมลงทุนในกองทุนฟินโนเวนเจอร์ ไพรเวท อิควิตี้ ทรัสต์ 1 และเอ็นทีที เดต้า นับเป็นผู้ลงทุนรายที่ 4 ที่ตัดสินใจร่วมลงทุนในกองทุนดังกล่าว”
นายฮิโรนาริ กล่าวทิ้งท้ายว่า “จากผลการดำเนินงานที่ผ่านมาของกรุงศรี ฟินโนเวต ซึ่งทำหน้าที่คัดเลือกและลงทุนในสตาร์ทอัปมาแล้วกว่า 15 บริษัทในช่วง 3-4 ปี สะท้อนความมีวิสัยทัศน์และประสบการณ์ของผู้บริหารและทีมงานกรุงศรี ฟินโนเวต ซึ่งเข้าใจในอีโคซิสเต็มของสตาร์ทอัปอย่างลึกซึ้ง และพร้อมเป็นกำลังสำคัญในการสนับสนุนสตาร์ทอัป สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของเอ็นทีที เดต้า ในการที่จะมุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมร่วมกับกลุ่มสตาร์ทอัป ดังนั้นเราเชื่อมั่นว่าการลงทุนครั้งนี้จะพัฒนานวัตกรรมและส่งมอบบริการที่ตอบโจทย์ และสอดคล้องกับสถานการณ์ของสังคมและการแข่งขันที่มีบทบาทสำคัญต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศและในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้”