Dyson ดึงเวทีประกวดออกแบบเชิงวิศวกรรม James Dyson Award จากมูลนิธิเจมส์ไดสัน สู่ประเทศไทย ขิงเงินรางวัลระดับนานาชาติกว่า 1.33 ล้านบาท ส่วนผู้ชนะในไทยจะได้รับเงินรางวัลเบื้องต้น 2.22 แสนบาท หวังเปิดโอกาสให้นักประดิษฐ์ไทยมีผลงานในเวทีโลก
ลิเดีย เบตัน หัวหน้ามูลนิธิเจมส์ไดสัน ให้ข้อมูลเพิ่มว่า ที่ผ่านมาการประกวดแข่งขันออกแบบนวัตกรรม James Dyson Award ได้จัดขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ.2005 และค้นหาไอเดียของนักศึกษาและบัณฑิตจบใหม่จากคณะวิศวกรรมและคณะด้านการออกแบบด้วยโจทย์เดิมมาตลอด 17 ปีนั่นก็คือ ‘ออกแบบอะไรก็ได้ที่แก้ไขปัญหา’
ด้วยโจทย์ที่เปิดกว้างทางความคิดเช่นนี้เอง ทำให้ได้เห็นสิ่งประดิษฐ์ที่เกิดขึ้นจากปัญหาในระดับโลกมากมาย โดยผู้ชนะในปีที่ผ่านๆ มาได้นำเสนอสิ่งประดิษฐ์ที่แก้ไขปัญหาที่น่าทึ่ง ตั้งแต่แก้ไขปัญหาการเข้าถึงการรีไซเคิลพลาสติก แก้ปัญหาเลือดออกจากแผลมีดบาด และพัฒนาการตรวจโรคต่างๆ ได้เองที่บ้าน
สำหรับรางวัลในระดับนานาชาตินั้นจะถูกคัดเลือกโดย James Dyson โดยตรง ผู้ชนะการประกวดครั้งนี้จะได้รางวัลเป็นเงินทุนและยังได้รับโอกาสการประชาสัมพันธ์ผลงานในระดับโลก ซึ่งถือเป็นก้าวแรกที่สำคัญในการนำไอเดียไปต่อยอดทางธุรกิจ
“ไอเดียที่ได้รับความสนใจในปัจจุบันส่วนใหญ่จะอยู่ในเรื่องของความยั่งยืน การรักษาสิ่งแวดล้อม และนวัตกรรม ที่กลายเป็นโจทย์ใหญ่ให้วิศวกร และนักประดิษฐ์ทั่วโลกต่างมองหาไอเดียที่จะช่วยให้โลกนี้ดีขึ้น”
เบื้องต้น งานประกวดนวัตกรรม James Dyson Award จะจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย โดยผู้ชนะระดับชาติจะได้รับรางวัล จำนวน 222,000 บาท และมีสิทธิในการชิงรางวัลระดับนานาชาติที่มีรางวัลจำนวนถึง 1,330,000 บาท โดยเปิดรับผลงานแล้วตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 6 กรกฎาคม 2565 ผ่านเว็บไซต์ jamesdysonaward.org
ทั้งนี้ ความสำคัญของรางวัล James Dyson Award คือการแก้ปัญหาอย่างชาญฉลาด และส่งเสริมให้นักประดิษฐ์และออกแบบรุ่นใหม่ได้ตั้งคำถามและท้าทายกับสิ่งต่างๆ และเชื่อว่าคนรุ่นใหม่มีความคิดที่จะเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้และมันเป็นสิ่งที่ควรสนับสนุน เพราะโลกในอนาคตคือโลกของพวกเขา โดยเฉพาะกว่า 70% ของผู้ชนะในระดับนานาชาติที่ผ่านมาได้สานต่อโครงการและต่อยอดสิ่งประดิษฐ์ในทางธุรกิจด้วย
ผู้เข้าแข่งขันต้องกำลังศึกษาอยู่ในมหาวิทยาลัยที่เข้าร่วมการแข่งขัน James Dyson Award หรือจบการศึกษาเป็นระยะเวลาไม่เกิน 4 ปีในคณะวิศวกรรม หรือคณะด้านการออกแบบ
อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่เข้าร่วมการแข่งขัน จะต้องศึกษาอยู่ในมหาวิทยาลัยที่เข้าร่วมแข่งขัน James Dyson Award หรือจบการศึกษาไม่เกิน 4 ปี โดยต้องมีสมาชิกอย่างน้อย 1 คนที่ศึกษา หรือจบการศึกษาไม่เกิน 4 ปีจากคณะวิศวกรรม หรือคณะด้านการออกแบบ