ซัมซุง เปิดเผยข้อมูลสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ที่จะวางจำหน่ายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ทั้ง Galaxy S22 Galaxy S22+ และ Galaxy S22 Ultra รวมถึง Galaxy Tab S8 ทั้ง 3 รุ่น จะเลือกนำรุ่นที่ใช้ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 8 Gen 1 เข้ามาทำตลาดแทนชิปเซ็ต Exynos ที่ผลิตเอง
ข้อมูลจากทางซัมซุงแจ้งว่า หลังจากที่ผู้บริโภคเรียกร้องให้นำสมาร์ทโฟนแฟลกชิปที่ใช้ชิปเซ็ตจาก Qualcomm Snapdragon เข้ามาใช้งาน เนื่องจากมีประสิทธิภาพสูงกว่า ทำให้ในปีนี้ ซัมซุงเลือกนำ S22 ซีรีส์ ที่ใช้งาน Snapdragon 8 Gen 1 บนสถาปัตยกรรม 4 นาโนเมตร เข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย
เบื้องต้น เมื่อเทียบความแรงกับรุ่นก่อนหน้าอย่าง Galaxy S21 จะให้การประมวลผลของ CPU เร็วขึ้น 5% กราฟิก (GPU) เร็วขึ้น 40% และ NPU ที่เร็วขึ้นถึง 133% ซึ่งเป็นจุดสำคัญที่มาช่วยให้การถ่ายภาพของ Galaxy S22 ซีรีส์ ทำได้ดีขึ้นด้วย
สำหรับรายละเอียดของ Samsung Galaxy S22 ซีรีส์ที่วางจำหน่ายในไทย จะเริ่มที่ Galaxy S22 และ Galaxy S22+ ที่มีให้เลือกระหว่าง RAM 8 GB ROM 128 GB และ RAM 8 GB ROM 256 GB
ในขณะที่ Galaxy S22 Ultra จะมากับ 3 ตัวเลือกคือ RAM 8 ROM 128 GB RAM 12 GB ROM 256 GB และ RAM 12 ROM 512 GB โดยที่ตัวเครื่องทั้ง 3 รุ่นเครื่องไม่สามารถเพิ่มหน่วยความจำไมโครเอสดีการ์ดได้
ทั้งนี้ ในช่วงเปิดให้สั่งจองล่วงหน้าทาง ซัมซุง ได้ทำโปรโมชันพิเศษให้สามารถซื้อเครื่องในราคารุ่นเริ่มต้น แต่ได้ความจุเพิ่มเป็น 2 เท่า ทำให้ในช่วงแรกจะสามารถซื้อเครื่องรุ่น S22/S22+ RAM 8 GB ROM 256 GB ได้ในราคา 29,900 บาท / 34,900 บาท และ S22 Ultra RAM 12 GB ROM 256 GB ในราคา 43,900 บาท
ส่วนรายละเอียดอื่นๆ เริ่มต้นที่ Galaxy S22 มากับหน้าจอ 6.1 นิ้ว ส่วน S22+ อยู่ที่ 6.6 นิ้ว FHD+ ทั้งคู่ และรองรับ Adaptive Refresh Rate ที่ 10-120 Hz ในขณะที่ Galaxy S22 Ultra มากับหน้าจอ 6.8 นิ้ว QHD+ รองรับ Refresh Rate ที่ 1-120 Hz
ตามมาที่กล้องรุ่น Galaxy S22 Ultra มากับ 4 เลนส์หลัก คือ 108 ล้านพิกเซล มุมกว้าง 12 ล้านพิกเซล เลนส์ซูม 3x 10 ล้านพิกเซล และเลนส์ซูม 10x 10 ล้านพิกเซล และให้กล้องหน้ามาถึง 40 ล้านพิกเซล
ส่วนรุ่นรองอย่าง Galaxy S22 และ S22+ จะให้เลนส์หลัก 50 ล้านพิกเซล เลนส์มุมกว้าง 12 ล้านพิกเซล และเลนส์ซูม 3x10 ล้านพิกเซล กล้องหน้า 10 ล้านพิกเซล ทั้ง 3 รุ่นรองรับการถ่ายภาพในที่แสงน้อยใหม่อย่าง Nightography ที่จะนำ NPU มาทำงานร่วมกับเซ็นเซอร์ในการประมวลผล เพื่อให้สามารถเก็บรายละเอียดได้ครบถ้วนมากยิ่งขึ้น
ขณะที่แบตเตอรี่ Galaxy S22 Ultra และ S22+ มาในขนาด 5,000 mAh และ 4,500 mAh ตามลำดับ โดยมีความสามารถในการชาร์จเร็ว 45W มาให้ด้วย ส่วน S22 มากับแบตเตอรี 3,700 mAh รองรับชาร์จเร็วที่ 25W และแน่นอนว่าซัมซุงไม่ได้แถมอะแดปเตอร์มาให้ในกล่องด้วย
ด้านการเชื่อมต่อทั้ง 3 รุ่นรองรับการใช้งาน 5G แบบ 2 ซิม รวมถึง WiFi 6E และบลูทูธ 5.2 แต่จะพิเศษตรงที่ Galaxy S22 Ultra และ S22+ รองรับ Ultra Wide Band ในการส่งสัญญาณผ่านคลื่นความถี่ต่ำ เพื่อใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ IoT ต่างๆ ด้วยเพิ่มเข้ามา