Mitsubishi Electric ขยาความร่วมมือ NTT DOCOMO เข้าร่วมเป็นเครือข่ายพันธมิตร e-F@ctory’s Alliance หรือ Digital Manufacturing Ecosystem ในประเทศไทย นำ "Private 5G Network" มาช่วยในการร่วมพัฒนาอุตสาหกรรมในประเทศไทยเพื่อร่วมสนับสนุนนโยบาย Thailand 4.0 ของภาครัฐ ผ่านการลงทุนสร้างโรงงานอัจฉริยะ
นายวิเชียร งามสุขเกษมศรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท มิตซูบิชิ อีเล็คทริค แฟคทอรี่ ออโตเมชั่น (ประเทศไทย) จำกัด หรือ MELFT กล่าวว่า ความร่วมมือกับพันธมิตร NTT DOCOMO ถือว่าเป็นประโยชน์มากสำหรับการต่อยอดความร่วมมือกับทางสำนักงาน EEC ในการช่วยผลักดันการพัฒนาอุตสาหกรรมของประเทศไทยในพื้นที่ EEC รวมถึงพื้นที่อื่นๆ ในประเทศไทย
โดยเฉพาะการผลักดันโครงการที่ใช้ประโยชน์ในเทคโนโลยี 5G สำหรับภาคอุตสาหกรรมในประเทศไทยให้เป็นจริงได้เร็วขึ้น เนื่องจากบริษัทในอุตสาหกรรมการผลิตค่อนข้างมีความกังวลอย่างมากในเรื่องเกี่ยวกับด้านความปลอดภัยของเครือข่ายการสื่อสาร โดยเฉพาะการติดตั้งเครือข่ายแบบ "Private 5G"
ดังนั้น ความร่วมมือในครั้งนี้จะช่วยเพิ่มความมั่นใจให้แก่ภาคอุตสาหกรรม ให้เห็นถึงระบบที่มีความปลอดภัยสูงและมีความเสถียรเป็นอย่างมาก เพราะแยกเป็นอิสระจากเครือข่ายสื่อสารสาธารณะอย่างสิ้นเชิง ไร้ผลกระทบจากการรับส่งข้อมูลจากการสื่อสารอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องทำให้การเชื่อมต่อและนำข้อมูลมาใช้ประโยชน์ในการพัฒนาการผลิตเป็นไปได้อย่างสมบูรณ์
นอกจากนี้ ระบบไร้สายยังช่วยลดต้นทุนค่าใช้จ่ายจากการเดินสาย การย้ายสายเคเบิล และประหยัดเวลาในการโยกย้ายอุปกรณ์ในระยะยาว ยิ่งกว่านั้นจะช่วยให้สามารถใช้โซลูชันที่เป็นประโยชน์อื่นๆ เพื่อพัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตได้อย่างง่ายดาย และยืดหยุ่น โดยสุดท้าย จะทำให้เป้าหมายของทางภาครัฐในการสนับสนุนการสร้างโรงงานอัจฉริยะในอุตสาหกรรมการผลิตของประเทศไทยเป็นไปได้เร็วขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
โดยความร่วมมือในการติดตั้งเทคโนโลยีการสาธิตทดสอบ “Private 5G Network” ในประเทศไทยครั้งนี้ ส่งผลให้ทาง Mitsubishi Electric Factory Automation (Thailand) มีเครือข่ายพันธมิตรที่สมบูรณ์ครอบคลุมทุกส่วนงาน และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องทั้งด้านการผลิตและการสื่อสาร หรือ Operation Technology รวมถึง Information Technology เพื่อร่วมทำงานกับพันธมิตรกลุ่มต่างๆ
ขณะเดียวกัน การเข้ามาทำธุรกิจของ NTT DOCOMO ถือว่าเป็นการส่งสัญญาณที่เป็นรูปธรรมมากขึ้นสำหรับความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทย และรัฐบาลญี่ปุ่นในการเข้ามาสนับสนุนอุตสาหกรรมไทยให้เกิดการพัฒนามากขึ้น เพื่อเพิ่มโอกาสและความสามารถในการแข่งขันกับทั่วโลกได้อย่างที่วางเจตนาร่วมกันไว้ และยังเป็นการยืนยันว่าความร่วมมือระหว่าง 2 ประเทศนี้จะยังคงดำเนินต่อไปด้วยความสัมพันธ์อันดีเช่นเดิม
สำหรับความร่วมมือครั้งนี้ ทั้ง 2 บริษัทได้มีการกำหนดบทบาทในการทำงานร่วมกันโดยแยกเป็นส่วนเทคโนโลยีและความรู้ด้านวิศวกรรมต่างๆ ในส่วนที่แต่ละฝ่ายมีความชำนาญเพื่อดำเนินการให้เจตนารมณ์ในความร่วมมือครั้งนี้เป็นไปตามแผนงาน โดยเฉพาะการถ่ายทอดความรู้และความเข้าใจให้แก่ผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมในประเทศไทย รวมถึงการเข้าไปมีส่วนร่วมในการพัฒนากำลังคนเพื่อปรับตัวรองรับเทคโนโลยีดังกล่าวนี้ด้วยเช่นกัน