นายกรัฐมนตรีเป็นประธานในพิธี มอบนโยบาย รมว.ดีอีเอส และ ปณท ดึงศักยภาพการเข้าถึงเครือข่ายครัวเรือน มาบูรณาการร่วมกับเทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อเสริมสร้างสังคมคุณภาพด้านสาธารณสุขของคนไทยให้มีความเป็นเลิศ โดยการทดลองบินโดรนส่งยา อำนวยความสะดวกในสถานการณ์ที่มีข้อจำกัดด้านการขนส่ง ทั้งสถานการณ์โควิด-19 น้ำท่วม หรือพื้นที่ทุรกันดารห่างไกลให้มีความราบรื่นยิ่งขึ้น
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ปัจจุบันคนไทยต้องรับมือกับภาวะวิกฤติรอบด้าน แต่เราก็สามารถลุกได้ไว จากความร่วมมือของประชาชนและทุกภาคส่วนที่มีความพร้อมในการเปลี่ยนแปลง อาทิ วิกฤติการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ประเทศไทยมีการควบคุมได้ค่อนข้างดี แม้มาตรการทั้งหมดจะยังไม่สมบูรณ์ 100% แต่ก็แสดงถึงสัญญาณที่ดีจากความร่วมมือให้สถานการณ์คลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น จึงได้มอบนโยบายให้ทุกหน่วยงานร่วมกันพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยเฉพาะการนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาเป็นส่วนสำคัญในการบูรณาการและสนับสนุนการพัฒนาระบบบริการสาธารณสุขให้มีความทันสมัย ให้ประชาชนคนไทยสามารถเข้าถึงบริการได้ง่ายอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม
นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวว่า กระทรวงดีอีเอสตอบรับนโยบาย โดยการใช้ศักยภาพในการขนส่งและเครือข่ายที่ครอบคลุมทุกครัวเรือนในประเทศของไปรษณีย์ไทย ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ครบวงจรและมีความเชี่ยวชาญในการขนส่งอุปกรณ์ทางการแพทย์ไปยังโรงพยาบาลทั่วประเทศ การส่งยาและเวชภัณฑ์จากโรงพยาบาลไปยังผู้ป่วยทั่วไปและผู้ป่วยโควิด-19 ในโครงการ Home Isolation-Community Isolation มาผนวกกับอุปกรณ์เทคโนโลยีดิจิทัลที่มีประสิทธิภาพสูงและมีความแม่นยำระยะไกลอย่าง “โดรน” พัฒนาให้เป็นยานพาหนะในการจัดส่งยารวมถึงอุปกรณ์ที่จำเป็นให้ถึงบ้านผู้ป่วย
นายดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) กล่าวว่า ไปรษณีย์ไทยพร้อมดำเนินการสอดรับนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงดีอีเอส จากการริเริ่มเป็นผู้ขนส่งยาจากโรงพยาบาลถึงบ้านผู้ป่วยเป็นรายแรกของไทย จนได้รับความเชื่อมั่นและไว้วางใจจากผู้ใช้บริการและโรงพยาบาลกว่า 400 แห่ง เป็นผู้ขนส่งสิ่งของหรืออุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็นต้องรักษาอุณหภูมิ รวมไปถึงการสร้างแคมเปญ “ไปรษณีย์ไทยส่งให้ ชวนคนไทยอยู่บ้าน” สอดรับกับการให้บริการประชาชนในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ผู้ป่วยในทุกพื้นที่สามารถเข้าถึงบริการทางการแพทย์ได้อย่างทั่วถึงและเท่าเทียม นอกจากนี้ ไปรษณีย์ไทยยังให้การสนับสนุนโครงการจัดส่งยา เวชภัณฑ์ รวมถึงเตียงสนามไปยังโรงพยาบาลสนามทั่วประเทศ ตอกย้ำความเป็นเพื่อนแท้ร่วมทางของไปรษณีย์ไทยในการยกระดับคุณภาพสาธารณสุขและการเข้าถึงพื้นที่ห่างไกลได้เป็นอย่างดี
อย่างไรก็ตาม ไปรษณีย์ไทยดำเนินการจัดส่งยา เวชภัณฑ์ และอุปกรณ์ทางการแพทย์ไปยังผู้รับทั่วประเทศอย่างรวดเร็วแม่นยำ ด้วยมาตรฐานบริการ EMS ส่งด่วนทั่วไทย พร้อมมั่นใจด้วยระบบ Track&Trace ให้ติดตามตรวจสอบสถานการณ์จัดส่ง ซึ่งในปี 2563 – 2564 ที่ผ่านมา แม้อยู่ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ไปรษณีย์ไทยยังคงเปิดให้บริการและจัดส่งยาถึงผู้ป่วยได้อย่างต่อเนื่อง รวมกว่า 1.2 ล้านชิ้น
ล่าสุดได้ขานรับนโยบายจากกระทรวงดีอีเอส ด้วยการทดลองให้บริการจัดส่งยาผ่านการบินโดรนระยะไกลในพื้นที่จังหวัดสิงห์บุรี ซึ่งเครื่องที่นำมาแสดงสามารถรับน้ำหนักได้ 10 กิโลกรัม ในระยะทาง 3 กิโลเมตร จากบริษัทซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายโดรน DJI เพื่อแสดงให้เห็นว่าไปรษณีย์ไทยสามารถใช้เครื่องมือดิจิทัลในการแก้ปัญหาส่งของไปยังพื้นที่ที่ไม่สามารถเข้าถึงได้ ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่น้ำท่วม หรือ พื้นที่สีแดงที่มีการปิดการเข้าออก เป็นต้น ดังนั้นการใช้โดรนในการส่งของจึงไม่ได้อยู่ในรูปแบบการให้บริการแบบคิดเงินกับลูกค้า แต่นำมาช่วยเป็นเครื่องมือในการแก้ปัญหาในการทำงานของไปรษณีย์ให้มีศักยภาพมากขึ้น โดยอนาคตอาจจะซื้อเป็นทรัพย์สินของบริษัทซึ่งมีราคาหลักแสนบาท หรือทำงานร่วมกับพันธมิตรในการเช่าใช้ ก็ได้ ต้องขึ้นอยู่กับพื้นที่และขนาดของโดรนที่เราต้องการใช้งาน
