วีเอ็มแวร์ (VMware) เผยวิสัยทัศน์อนาคตของ VMware Cloud อาสาช่วยลูกค้า “ขึ้นคลาวด์” ได้รวดเร็วและยืดหยุ่น ย้ำจุดยืนดันนักพัฒนาสามารถสร้างแอปสมัยใหม่ได้ง่าย ประหยัด และลดความเสี่ยง ลุยให้ฟรีสิทธิเข้าถึงแพลตฟอร์ม VMware Tanzu ใน VMware Tanzu Community Edition ใหม่ มั่นใจปั้นคอมมูนิตีคุณภาพเสริมให้นักพัฒนาสามารถจัดการแอปด้วยระบบ Kubernetes บน multi-cloud ได้เสรีไม่มีค่าใช้จ่าย
อาเจย์ พาเทล (Ajay Patel) รองประธานอาวุโสและผู้จัดการทั่วไป กลุ่มธุรกิจการจัดการและแอปพลิเคชันสมัยใหม่ (Modern Apps & Management Business Group) ของ VMware กล่าวว่า การที่องค์กรเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ยุคของการทำงานแบบดิจิทัลอย่างรวดเร็ว เป็นสัญญาณว่าทีมพัฒนาซอฟต์แวร์ต้องเผชิญกับความท้าทายในการสร้างแอปที่เสถียร ชาญฉลาด ปลอดภัย และรองรับการเปลี่ยนแปลง ซึ่งจะต้องทำได้รวดเร็ว และรองรับการขยายผ่านระบบคลาวด์ยิ่งขึ้นกว่าเดิม
"สถานการณ์นี้เป็นความท้าทายที่ Tanzu สามารถตอบโจทย์ได้ VMware จึงต้องการตอบสนองความต้องการของลูกค้าทั้งในด้านเครื่องมือ การฝึกอบรม การใช้งาน และบริการที่จะช่วยให้ทุกองค์กรก้าวไปบนเส้นทางการทำ app modernization ซึ่งรองรับทุกโครงสร้างพื้นฐาน ทุกแอปพลิเคชัน และทุกคลาวด์"
แนวคิดนี้ทำให้ VMware Tanzu สามารถช่วยให้องค์กรมีอิสระในการสร้างและให้บริการแอปพลิเคชันบนคลาวด์ทุกเจ้า โดยมีการเปิดตัว VMware Tanzu Application Platform ในรุ่นเบต้าที่เพิ่มขีดความสามารถมากขึ้น ต่อยอดจากการเปิดตัวครั้งแรกที่งาน VMware SpringOne 2021 สำหรับ Tanzu Application Platform ถูกวางจุดเด่นเรื่องการมอบประสบการณ์ที่เหนือกว่าในการพัฒนาและ deploy app และ API บน Kubernetes สำหรับองค์กรขนาดใหญ่ ช่วยให้ทีมซอฟต์แวร์สามารถพัฒนาแอปพลิเคชันได้รวดเร็วยิ่งขึ้นและคงอยู่ไปตลอดด้วยระบบ automate และช่วยประสานงานกับทีมพัฒนาและปฎิบัติงานเกิดประสิทธิภาพเมื่อเริ่มใช้งานระบบจริง
ล่าสุด VMware ประกาศความสามารถรูปแบบใหม่ของ Tanzu Application Platform Beta ที่งาน VMworld 2021 โดยย้ำว่ามีคุณสมบัติแบบ end-to-end ครบวงจรสำหรับนักพัฒนาและผู้ให้บริการ ที่โดดเด่นคือด้านซัปพลายเชน (Supply chain choreography), เครื่องมือนักพัฒนา (Developer tooling) รวมถึงด้านความปลอดภัย Intrinsic security ที่เพิ่มฟีเจอร์ป้องกันแรนซัมแวร์ได้
สำหรับ VMware Tanzu Community Edition เป็นแพลตฟอร์ม Kubernetes ที่สามารถจัดการได้ง่ายและไม่มีค่าใช้จ่าย ผู้ใช้สามารถใช้งานซอฟต์แวร์และบริการ Tanzu ได้อย่างอิสระ สามารถดาวน์โหลดซอฟต์แวร์ open source เพื่อใช้งานฟังก์ชันต่างๆ ได้อย่างไม่มีข้อจำกัด สามารถยกระดับความรู้ เชื่อว่าการเข้าถึงคอร์สอบรมหลากหลายจะสร้างชุมชนคุณภาพที่เต็มไปด้วยการสนับสนุนและความช่วยเหลือเพิ่มเติม
ขึ้นคลาวด์ฉลุยด้วย VMware Cloud
นอกจาก Tanzu อีกดาวรุ่งอย่าง VMware Cloud ก็ถูกประกาศก้าวใหม่ด้วยโครงสร้างพื้นฐานการในประมวลผลแบบ multi-cloud ที่มีประสิทธิภาพ โดยการันตีตัวเองเป็นรายเดียวในอุตสาหกรรมที่จะช่วยให้สามารถย้ายการทำงานแอปพลิเคชันขององค์กรไปยังคลาวด์ ด้วยเวลาและค่าใช้จ่ายที่ลดลงไปมากกว่าครึ่งหนึ่ง ไม่เพียงประหยัดแต่ยังลดความเสี่ยงได้ดีขึ้น
มาร์ค โลมเมเยอร์ รองประธานอาวุโสและผู้จัดการทั่วไป กลุ่มธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ของ VMware กล่าวว่า VMware พยายามวางจุดยืนให้ตัวเองแตกต่างในวงการ multi-cloud ด้วยการประชุมร่วมกับลูกค้าเพื่อให้ทราบถึงความต้องการและพาลูกค้าไปสู่ความสำเร็จในการใช้งานคลาวด์ VMware ช่วยขจัดทางเลือกที่ผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นระหว่างนวัตกรรมทางธุรกิจและการควบคุมทางด้านไอที
“นวัตกรรมล่าสุดของเราจะช่วยให้ลูกค้าสร้าง modernize apps โครงสร้างพื้นฐาน และมีการปฏิบัติงานที่ดีขึ้น ช่วยลดทั้งต้นทุนค่าใช้จ่ายและความเสี่ยงให้ลดลง พร้อมทั้งยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของนักพัฒนา ด้วย Project Arctic ซึ่งเป็นวิวัฒนาการขั้นต่อไปของ VMware vSphere ที่ช่วยปลดล็อกไฮบริดคลาวด์ให้ทุกองค์กร”
VMware ย้ำที่งาน VMware 2021 ว่าบริษัทพร้อมส่งมอบ Kubernetes-based Containers และ Infrastructure as a Service โดย VMware Cloud พร้อมด้วย Tanzu services จะพร้อมให้บริการโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมบน VMware Cloud บน AWS ในไตรมาสที่ 3 ของปี 2022 เชื่อว่า VMware Cloud จะช่วยหนุนนำบริการ Tanzu ให้การสร้าง apps modernization บน Kubernetes สามารถทำได้เร็วขึ้น ง่ายขึ้น พร้อมทั้งช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากกว่าโซลูชัน Kubernetes ที่มีการจัดการจากที่อื่น
การสำรวจพบว่า VMware Cloud ใหม่จะทำให้การเรียกใช้งาน vSphere ระดับองค์กรบนคลาวด์ง่ายและปลอดภัยยิ่งขึ้น การวิจัยแสดงให้เห็นว่าลูกค้าของ VMware Cloud ประสบความสำเร็จในการ deploy Kubernetes ได้เร็วขึ้น 300% และการย้ายขึ้นคลาวด์เร็วขึ้น 46% และมีต้นทุนการปฏิบัติงาน หรือ TCO ลดลง 57%
VMware ย้ำอีกว่ามีเพียง VMware Cloud เท่านั้นที่มีบริการ native service ครอบคลุมทุก public clouds มากกว่า 100 ประเทศในทุกภูมิภาค ทั้ง Amazon Web Services (AWS), Azure, Google Cloud, IBM Cloud และ Oracle Cloud สถิติคลาวด์พาร์ตเนอร์ในปัจจุบันมีมากกว่า 4,000 ราย
ในขณะที่ VMware Cloud บน AWS Outposts จะพร้อมเปิดให้บริการในไตรมาสที่ 3 ในปี 2022 บริการที่จะไม่เข้าไทยอย่าง Dell Technologies APEX Cloud Services ที่นำเอาคุณสมบัติต่างๆ ของ VMware Cloud มาประยุกต์ใช้ในการทำงานบน APEX มีกำหนดจะเปิดให้ทดลองใช้บริการ private preview ช่วงไตรมาสที่ 4 ของ VMware ปี 2021