AIS และราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ร่วมพัฒนา “วัคซีนแพลตฟอร์ม” ช่วยบุคลากรบริการฉีดวัคซีนภาคสนามอย่างมีประสิทธิภาพ ประเดิมในจุดฉีดวัคซีนภาคสนาม 120,000 โดส ในเวลา 20 วัน
ศาสตราจารย์นายแพทย์นิธิ มหานนท์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ และเลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ กล่าวว่า การจัดตั้งศูนย์ฉีดวัคซีนภาคสนามมีความจำเป็นอย่างมากที่จะต้องมีระบบที่จะเข้ามาช่วยให้การทำงานของฝ่ายต่างๆ เกิดประสิทธิภาพและมีกระบวนการรายงานจัดการข้อมูลให้ราบรื่น
จึงเป็นเหตุผลที่เราได้ร่วมกับ AIS ในการพัฒนาวัคซีนแพลตฟอร์มขึ้นมา เพื่อให้การทำงานภาคสนามในการดูแลให้บริการประชาชนในการฉีดวัคซีนเกิดความคล่องตัวและรองรับการฉีดวัคซีนต่อวันให้ได้มากที่สุด
“เห็นได้อย่างชัดเจนว่าจุดฉีดวัคซีนภาคสนาม มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มีระบบการทำงานที่ค่อนข้างลงตัว ไม่ได้ใช้เครื่องคอมพิวเตอร์มากมาย ไม่ได้มาเดินสายหรือติดตั้งระบบที่วุ่นวาย แต่ใช้การทำงานผ่านแพลตฟอร์มบนเครื่องแท็บเล็ต”
โดยบุคลากรที่ผ่านการฝึกอบรมมาเป็นอย่างดี ทำให้ขั้นตอนการฉีดวัคซีนตั้งแต่การลงทะเบียนยืนยันตัวตนตามมาตรฐานไปจนถึงการติดตามผลและนัดหมาย ไปจนถึงการส่งต่อข้อมูลผู้ฉีดวัคซีนเข้าสู่ฐานข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขมีความคล่องตัว ในท้ายที่สุดทั้งประชาชนคนไทยที่มาใช้บริการ บุคลากรทางการแพทย์ของราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ก็ต่างได้รับผลประโยชน์สูงสุด การเดินหน้าเป้าหมายการสร้างภูมิคุ้มกันให้ประเทศก็จะสำเร็จลุล่วงได้
นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ AIS กล่าวเสริมว่า การทำงานสนับสนุนภาคสาธารณสุขภายใต้แนวคิด เชื่อมต่อ ช่วยเหลือ เพื่อคนไทย มากกว่าการสนับสนุนสัญญาณเครือข่าย ภายในโรงพยาบาล โรงพยาบาลสนาม และจุดฉีดวัคซีนแล้ว เรายังใช้ศักยภาพขององค์กรในการสร้างสรรค์ Digital Service มาสนับสนุนการทำงานของภาคสาธารณสุขในมิติต่างๆ
“ครั้งนี้นับว่าเป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมด้านสาธารณสุขที่จะมายกระดับการฉีดวัคซีนให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นนั้นก็คือ วัคซีนแพลตฟอร์ม ที่พัฒนาร่วมกับราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ โดยใช้แนวคิดแบบ Modular Design หรือการออกแบบขั้นตอนการทำงานภายในแพลตฟอร์มให้มีความยืดหยุ่นสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสมของการใช้งานในแต่ละพื้นที่”
แพลตฟอร์มนี้สามารถขยายระบบ และการทำงานให้รองรับกับจุดฉีดวัคซีนภาคสนามอื่นๆ ไม่ว่าจะขนาดเล็กรองรับระดับ 100 คน หรือขนาดใหญ่ที่รองรับได้มากกว่า 10,000 คนก็ตาม
"การทำงานร่วมกันในครั้งนี้ของเราและราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์สะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จของการนำวัคซีนแพลตฟอร์มมาใช้ในภาคสนามได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถทำให้ภารกิจที่จุดฉีดวัคซีนภาคสนาม มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ให้บุคลากรภายในและภายนอกประสบความสำเร็จได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ"
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม วันแม่แห่งชาติ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ร่วมกับ AIS ได้ให้บริการฉีดวัคซีนซิโนฟาร์ม (Sinopharm) แก่ประชาชนผ่าน “วัคซีนแพลตฟอร์ม” สร้างภูมิคุ้มกันให้ผู้ด้อยโอกาสและผู้พิการกว่า 5,000 คน ณ ลานกิจกรรม ชั้น 2 อาคารรัฐประศาสนภักดี (อาคารบี) ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ แจ้งวัฒนะ ยิ่งเป็นการยืนยันความพร้อมของระบบที่สามารถบริหารจัดการในรูปแบบศูนย์วัคซีนภาคสนามเพื่อรองรับการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้คนไทยในทุกพื้นที่
สำหรับนวัตกรรม “วัคซีนแพลตฟอร์ม” ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้เป็นเครื่องยืนยันถึงเป้าหมายร่วมกันที่ชัดเจนในการนำเทคโนโลยีเข้ามายกระดับการทำงานของภาคสาธารณสุขของไทยอย่างยั่งยืน ซึ่งเกิดจากความร่วมมือของ AIS และราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ที่มีความต่อเนื่องในการทำงาน ซึ่งแน่นอนว่าวัคซีนแพลตฟอร์มนี้จะเป็นต้นแบบในการนำไปใช้ในพื้นที่ต่างๆ เพื่อเป้าหมายการฉีดวัคซีน COVID-19 ให้คนไทยได้สำเร็จ