AVEVA ยักษ์ใหญ่ซอฟต์แวร์อุตสาหกรรมประกาศจุดยืนสนับสนุนอุตสาหกรรมพลังงาน-สาธารณูปโภคไทยขับเคลื่อนธุรกิจด้วยดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชัน ระบุโซลูชันซอฟต์แวร์อุตสาหกรรมกำลังเปลี่ยนวิธีการดำเนินธุรกิจกลุ่มบริษัทพลังงานและสาธารณูปโภคให้มีประสิทธิภาพสูงมากขึ้น มีความน่าเชื่อ เพิ่มความคล่องตัวเพื่อให้บริการลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น พร้อมคว้าโอกาสทางธุรกิจในตลาดใหม่
Evgeny Fedotov รองประธานอาวุโสและหัวหน้าประจำภูมิภาคทวีปยุโรป ตะวันออกกลางและแอฟริกา บริษัท AVEVA กล่าวว่า การปรับเปลี่ยนของภาคอุตสาหกรรมไปสู่ระบบดิจิทัลเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยไม่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตการระบาดเชื้อไวรัสแต่อย่างใด แม้จะมีคู่แข่งในอุตสาหกรรมพลังงานหลายรายได้ตระหนักดีถึงความสำคัญของการมีข้อมูลพร้อมใช้งานสูงและยอมรับแนวทางที่ใช้ระบบคลาวด์เป็นหลัก โดยมีวัตถุประสงค์ในการเพิ่มประสิทธิภาพ การทำให้กระบวนทำงานเป็นระบบอัตโนมัติ การเพิ่มผลิตภาพสูงสุด และการรับประกันความต่อเนื่องในกิจกรรมทั้งหมดที่จะเกิดขึ้นได้
“โซลูชันของเรามีบทบาทสำคัญที่ช่วยให้บริษัทจากทุกภาคส่วนสามารถเปลี่ยนแปลงองค์กรด้วยเทคโนโลยีเพื่อทำให้เกิดความยืดหยุ่นซึ่งจะยังคงดำเนินต่อไปในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า และนี่จึงเป็นการเปลี่ยนแปลงที่จะช่วยปรับปรุงวิธีการผลิต การส่งมอบ และการบริโภคพลังงาน”
AVEVA มีดีกรีเป็นผู้ให้บริการระดับโลกด้านซอฟต์แวร์อุตสาหกรรม ขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลและความยั่งยืน บริษัทได้ตอกย้ำแผนการสนับสนุนธุรกิจพลังงานพลิกโฉมสู่อุตสาหกรรมใช้ระบบดิจิทัลดำเนินธุรกิจรูปแบบใหม่ เสริมสร้างขีดความสามารถให้ธุรกิจในอนาคต ด้วยประสบการณ์ความเชี่ยวชาญที่หลากกลุ่มธุรกิจนำมาตอบโจทย์ความต้องการกลุ่มธุรกิจพลังงานทั่วโลก พร้อมนำเสนอโซลูชันด้านพลังงานที่ล้ำสมัยเพื่อให้บริการที่ปลอดภัย ยืดหยุ่น ยั่งยืน และมีประสิทธิภาพ ลดความเสี่ยงและลดต้นทุนการดำเนินงาน
AVEVA ย้ำว่า ทุกวันนี้คู่แข่งหลักในกลุ่มพลังงานและสาธารณูปโภคต่างพยายามสร้างสมดุลในธุรกิจด้วยการใช้ระบบวิเคราะห์ข้อมูล บิ๊กดาต้า เร่งให้มีการนำก๊าซธรรมชาติและพลังงานหมุนเวียนมาใช้ อีกทั้งยังเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานของโรงงานโดยใช้ระบบวิเคราะห์เพื่อลดต้นทุนและการปล่อยมลพิษ ประกอบกับเพิ่มผลผลิตทางเศรษฐกิจให้ได้สูงสุด อีกทั้งพัฒนาวิธีการใหม่ๆ เพื่อใช้ปฏิสัมพันธ์โต้ตอบกับลูกค้า อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงที่นำไปสู่ระบบดิจิทัลมีขึ้นอย่างรวดเร็วและขยายตัวมากขึ้นกำลังส่งผลกระทบต่อหลายอุตสาหกรรม ซึ่งระบบดิจิทัลต่างๆ ได้ถูกขับเคลื่อนด้วยการผสมรวมทางเทคโนโลยีระบบคลาวด์ ระบบวิเคราะห์ อุปกรณ์เคลื่อนที่ การเรียนรู้ข้อมูลเชิงลึกไปจนถึงระบบ IoT เทคโนโลยีเหล่านี้ได้ทำงานร่วมกันจนทำให้ข้อมูลและความอัจฉริยะกลายเป็นศูนย์กลางของรูปแบบธุรกิจใหม่ๆ ในขณะที่กลุ่มอุตสาหกรรม บริษัท และธุรกิจชั้นนำต่างกำลังเผชิญกับโลกที่ผันผวนและซับซ้อนยิ่งขึ้น ทำให้ต้องการความคล่องตัว รวดเร็ว และความสามารถด้านดิจิทัลที่มากขึ้น
“แม้ว่าบริษัทพลังงานกำลังเปลี่ยนโฉมไปสู่ระบบดิจิทัลได้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง และอีกหลายบริษัทได้ใช้เทคโนโลยีที่อาจเรียกว่าเป็นการดิสรัปชันก็เป็นได้ เช่น ระบบ AI ระบบวิเคราะห์ และการเรียนรู้ของเครื่องจักร แต่หลายๆ องค์กรยังคงชั่งน้ำหนักและหาโอกาสทดลองใช้อยู่ ทั้งนี้ AVEVA มีกลุ่มผลิตภัณฑ์โซลูชันอุตสาหกรรมครอบคลุมตั้งแต่ เทคโนโลยี Digital Twin กลยุทธ์เชิงสินทรัพย์ การบริหารจัดการประสิทธิภาพของสินทรัพย์ จนถึงการเชื่อมต่อระหว่างทีมปฏิบัติการ และระบบ Mobile Operator Rounds โดยทั้งหมดได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยเร่งการเปลี่ยนเข้าสู่ระบบดิจิทัลและเพิ่มการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีคลาวด์ในภาคพลังงานอีกด้วย“ AVEVA ระบุในแถลงการณ์
AVEVA ย้ำว่า ได้ร่วมพัฒนานวัตกรรมกับคู่ค้าด้านพลังงานและสาธารณูปโภครายใหญ่ทั่วโลกมาเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว โดยลูกค้ากลุ่มนี้วางใจใช้โซลูชันของ AVEVA ในการเพิ่มประสิทธิภาพและความปลอดภัยของพนักงาน พัฒนาความน่าเชื่อถือของโรงงาน ลดความเสี่ยง เพิ่มผลิตภาพ และพัฒนาประสิทธิภาพโดยรวมของธุรกิจด้วยโซลูชันดิจิทัลและระบบคลาวด์ที่ช่วยพลิกโฉมหน้าการทำงาน เช่น ผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่ายไฟฟ้าและก๊าซชั้นนำระดับโลก ENEL ที่นำระบบวิเคราะห์และคาดการณ์ AVEVA Predictive Analytics ไปใช้ร่วมกับเทคโนโลยี AI เพื่อขับเคลื่อนแนวคิดไปสู่การเป็นโรงงานอัตโนมัติ (Autonomous Plant) นอกจากนี้ โซลูชันของ AVEVA ยังช่วยให้ ENEL เพิ่มประสิทธิภาพและความน่าเชื่อถือของสินทรัพย์ของตนได้สูงสุดและพัฒนาศักยภาพในการดำเนินธุรกิจ โซลูชันดังกล่าวยังช่วยให้พนักงานของ ENELเปลี่ยนรูปแบบการทำงานสามารถจะทำงานจากที่บ้านได้ภายในชั่วข้ามคืนเมื่อเกิดโรคระบาดขึ้น จึงทำให้มั่นใจได้ถึงความยืดหยุ่นและการส่งมอบบริการที่สำคัญอย่างยั่งยืน
ยังมีคณะกรรมการการไฟฟ้าแห่งสหพันธรัฐ (CFE) แห่งเม็กซิโก ที่ใช้กลุ่มผลิตภัณฑ์ AVEVA Smart Grid เพื่อจัดการสินทรัพย์ การดำเนินงาน และบุคลากรให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล และให้สามารถจ่ายไฟฟ้าได้อย่างน่าเชื่อถือและยั่งยืนทั่วประเทศ รวมถึง Duke Energy ในสหรัฐอเมริกาเป็นบริษัทสาธารณูปโภคด้านไฟฟ้าที่ใช้ประโยชน์จากซอฟต์แวร์วิเคราะห์สินทรัพย์เชิงคาดการณ์ของ AVEVA เพื่อตรวจสอบสินทรัพย์ที่ผลิตไฟฟ้าจากส่วนกลาง โดยบริษัทสามารถประหยัดเงินได้ 50 ล้านเหรียญสหรัฐ เพราะประสบปัญหาความล้มเหลวน้อยลง รวมถึงประหยัดเงินได้ 30 ล้านเหรียญสหรัฐ เพราะได้รับการแจ้งเตือนล่วงหน้าเพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น
“กระบวนการของการเปลี่ยนโฉมด้วยดิจิทัลต้องลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานและเทคโนโลยีใหม่ๆ ซึ่งรวมถึงการเปลี่ยนแปลงด้านกรอบคิด นโยบายสาธารณะ และโมเดลธุรกิจต่างๆ อีกทั้งยังต้องมีการลงทุนพัฒนาบุคลากรด้วยการศึกษาและทักษะในการทำงาน ซึ่งจะช่วยยกระดับและพัฒนาให้เป็นมาตรฐานเปิด และสร้างความมั่นใจว่าจะสามารถทำงานร่วมกันได้ นอกจากนี้ ยังต้องการความปลอดภัยทางไซเบอร์ในระดับสูงสุดในเรื่องความเป็นส่วนตัวของข้อมูลและความเสี่ยงด้านความปลอดภัยของระบบ” แถลงการณ์ระบุ
AVEVA ทิ้งท้ายว่า สภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจมหภาคที่ท้าทายในปัจจุบันนั้นแสดงให้เห็นภาวะที่บริษัทพลังงานจำเป็นต้องจัดหาเทคโนโลยีที่จะช่วยปรับปรุงระบบเก่าๆ และกระบวนการดั้งเดิมให้ทันสมัยขึ้น เพื่อทำให้พวกเขาขับเคลื่อนไปสู่อนาคตดิจิทัล กลุ่มผลิตภัณฑ์โซลูชันของ AVEVA จึงสนับสนุนแนวทางนี้โดยนำเสนอมุมมองแบบองค์รวมเกี่ยวกับวงจรชีวิตของสินทรัพย์และห่วงโซ่คุณค่าให้แก่ลูกค้ากลุ่มพลังงาน ซึ่งช่วยให้ลูกค้าสามารถพัฒนาความปลอดภัยในการปฏิบัติงานได้ดีขึ้นมากและกำจัดไซโลข้อมูลจากทั่วทั้งระบบ IT และ OT รวมถึงยังช่วยเพิ่มพูนศักยภาพในการทำงานร่วมกันในกระบวนการอีกด้วย