xs
xsm
sm
md
lg

AIS-โรงเรียนพยาบาลรามาธิบดี เปิดสายด่วน ‘Are U OK?’ รับปรึกษาปัญหาสุขภาพจิต

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



การรับมือกับการแพร่ระบาดของ COVID-19 ในสถานการณ์ปัจจุบันมีหลากหลายมิติ ทั้งมาตรการควบคุมการเดินทาง การจำกัดการใช้บริการพื้นที่สาธารณะ หรือแม้แต่มาตรการเว้นระยะห่าง การรณรงค์อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ แต่อีกหนึ่งเรื่องที่มองข้ามไม่ได้ในช่วงนี้คือ ปัญหาด้านสุขภาพจิตของคนไทยในการรับมือกับข่าวสาร ภาวะเศรษฐกิจ การดำรงชีวิต

จนบางครั้งทำให้เกิดความเครียดจนนำมาซึ่งปัญหาด้านสุขภาพจิต นั่นจึงเป็นที่มาของความร่วมมือระหว่างโรงเรียนพยาบาลรามาธิบดี ทีมอาจารย์พยาบาล คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี ม.มหิดล และ AIS ในการเปิดสายด่วน “Are U OK?” เพื่อให้บริการประชาชนในช่วงการระบาดของ COVID-19 ทั้งนี้ ยังร่วมกันนำบริการดิจิทัล (Digital Service) อย่างระบบ Call Center ที่ใช้Intelligence IVR มาบริหารจัดการการจองคิวสำหรับประชาชนที่เข้ารับการฉีดวัคซีนที่โรงพยาบาลรามาธิบดีอีกด้วย


รองศาสตราจารย์ ดร.พูลสุข เจนพานิชย์ วิสุทธิพันธ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนพยาบาลรามาธิบดี กล่าวว่า ปัญหาสุขภาพจิตของคนไทยในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาด COVID-19 มีแนวโน้มที่เพิ่มสูงขึ้นจากปัจจัยแวดล้อมต่างๆ ที่ส่งผลโดยตรงต่อสุขภาพจิต ซึ่งเราพบว่าปัญหาดังกล่าวอาจจะถูกมองข้ามไป ทำให้ภาวะความเครียดส่งผลต่อการใช้ชีวิต จนบางครั้งหากมีความรุนแรงอาจถึงขั้นการคิดฆ่าตัวตายเลยก็ว่าได้ เราจึงร่วมมือกับ AIS เปิดให้บริการ Are U OK? สายด่วนรามาธิบดีปรึกษาสุขภาพจิต บริการรับปรึกษาปัญหาด้านสุขภาพจิตของคนไทยในช่วง COVID-19 ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งปัญหาที่ต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน โดยประชาชนสามารถโทร.เข้าปรึกษาปัญหาสุขภาพจิตได้ที่ เบอร์ 0-2078-9088

นอกจากนี้ เรายังได้รับการสนับสนุนจาก AIS ในการทำระบบ Call Center ที่เราเรียกว่า Intelligence IVR เพื่อให้ประชาชนที่ต้องการจองฉีดวัคซีนกับโรงพยาบาลรามาธิบดีสามารถติดต่อเพื่อจองคิวผ่าน Call Center ของโรงพยาบาล โดยความพิเศษของ IVR คือระบบจะขอรหัสบัตรประชาชนเพื่อสร้างฐานข้อมูลและดำเนินการหาวันเพื่อจองคิวให้ประชาชนได้แบบอัตโนมัติ ซึ่งนับว่าเป็นบริการทางดิจิทัลที่อำนวยความสะดวกให้ประชาชนและช่วยการทำงานของเจ้าหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ทางด้าน นางสายชล ทรัพย์มากอุดม หัวหน้าฝ่ายงานประชาสัมพันธ์ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ AIS กล่าวเสริมว่า “เอไอเอสยังคงเดินหน้าภารกิจสู้ภัย COVID-19 ตามแนวทาง เชื่อมต่อ ช่วยเหลือ เพื่อคนไทย ผ่านการนำเทคโนโลยี และศักยภาพขององค์กรในด้านต่างๆ ทั้งสัญญาณเครือข่าย เทคโนโลยี บริการดิจิทัล รวมถึงบุคลากรทุกส่วนงานเข้าสนับสนุนการทำงานของภาคสาธารณสุขอย่างเต็มกำลัง

สำหรับความร่วมมือกับโรงเรียนพยาบาลรามาธิบดี คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดีในครั้งนี้ เป็นอีกหนึ่งมิติที่นำเอาระบบ Call Center เข้าสนับสนุนการทำงานรวมถึงร่วมกันพัฒนาระบบเพื่อรับมือกับปัญหาอีกหนึ่งด้านที่อาจถูกมองข้ามไปอย่างปัญหาด้านสุขภาพจิต อีกทั้งยังมีการเสริมศักยภาพของระบบจองคิวการฉัดวัคซีนผ่าน Call Center ที่มีความสามารถในการให้บริการจัดการการจองคิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้การทำงานของบุคลากรทางการแพทย์มีความคล่องตัว สามารถให้บริการประชาชนได้อย่างเต็มที่

“การทำงานแบบสอดประสานไม่ว่าจะในมิติไหนก็ตามจะช่วยทำให้สามารถผ่านพ้นวิกฤตไปได้ด้วยดี ในฐานะ Digital Life Service Provider ของ AIS นอกเหนือจากความมุ่งมั่นในการพัฒนาบริการเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลแล้ว และยืนยันความพร้อมในการร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนเทคโนโลยีสื่อสาร รวมถึง Digital Service ต่างๆ กับทุกภาคส่วน เพื่อต่อสู้กับ COVID-19 และรับมือกับความท้าทายต่างๆ ได้อย่างดี”




กำลังโหลดความคิดเห็น