สำนักงาน กสทช. เตือนประชาชนระวัง SMS หลอกลวง อย่ากดลิงก์ทันที เช็กให้แน่ใจที่มาเพื่อไม่ให้สูญเสียเงินหรือถูกนำข้อมูลส่วนตัวไปใช้
นายสุทธิศักดิ์ ตันตะโยธิน รองเลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวว่า ช่วงนี้ประชาชนจำนวนมากได้รับข้อความสั้น หรือ SMS หลอกลวงจากมิจฉาชีพที่แอบอ้างว่าส่งมาจากธนาคาร หน่วยงานราชการ รัฐบาล โดยใช้วิธีการส่งลิงก์ ประกอบกับข้อความในลักษณะที่สร้างความตกใจ หรือสร้างความสนใจ หรือส่งข้อความลักษณะเหมือนการแจ้งเตือนจากระบบอี-แบงกิ้ง หรือ SMS แจ้งสถานะทางบัญชี เช่น แจ้งเงินเข้าบัญชีจำนวนมาก บัญชีของคุณถูกแจ้งปิดบริการ ธนาคารแจ้งอัปเดตระบบ หรือข้อความบอกกดเงินสำเร็จทั้งๆ ที่ประชาชนที่ได้รับข้อความก็ไม่ได้ทำธุรกรรมใดๆ กับธนาคาร หรือได้รับการช่วยเหลือเป็นจำนวนเงิน XXX บาท ตามนโยบายของรัฐบาล เพื่อให้ประชาชนกดลิงก์ที่แนบมา ซึ่งหากประชาชนกดลิงก์ดังกล่าวแล้วเข้าไปกรอกข้อมูลส่วนตัว หรือทำการใดๆ จะทำให้ต้องเสียเงิน หรือถูกนำข้อมูลไปใช้ก่อให้เกิดความเสียหายได้
สำนักงาน กสทช. ขอให้ประชาชนระมัดระวัง เมื่อได้รับ SMS ที่มีลิงก์ขอให้ตั้งสติ อย่าเพิ่งตกใจ หรือเชื่อในข้อความที่ได้รับ อย่ากดลิงก์ที่ส่งมากับ SMS ทันที แต่ให้ตรวจสอบแหล่งที่มาของ SMS ก่อน สังเกตลิงก์ หรือ url ให้มั่นใจก่อนกด ถ้าเป็นมิจฉาชีพลิงก์ หรือ url ที่ส่งมาจะเป็นชื่อแปลกๆ ไม่ตรงกับหน่วยงาน (ธนาคาร หรือหน่วยงานราชการ ) ที่อ้างใน SMS แต่จะเป็นตัวสะกด เป็นข้อความภาษาอังกฤษหรือเครื่องหมายแปลกๆ หากได้รับ SMS ที่มีข้อความและลิงก์เหล่านี้อย่าไปกดลิงก์ หรือถ้าสงสัยให้โทร.สอบถาม Call Center ของหน่วยงานนั้นๆ อย่าหลงกรอกข้อมูลส่วนตัว Username Password หรือ OTP ผ่านลิงก์ที่ได้รับเด็ดขาด เพราะมิจฉาชีพได้พัฒนากลอุบายต่างๆ เพื่อหลอกเอาข้อมูลส่วนบุคคลของประชาชนแล้วนำไปทำธุรกรรมถอนเงินจากบัญชีของท่านจนหมดได้
ทั้งนี้ สำนักงาน กสทช. ได้สั่งการให้ผู้ประกอบการโทรคมนาคมทุกรายตรวจสอบ ดูแลการส่ง SMS ที่ผ่านระบบของผู้ให้บริการ เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อประชาชน หรือเกิดกรณีหลอกลวงเช่นนี้
“อยากให้ประชาชนระมัดระวัง อย่ากรอก Username Password ที่ใช้ในการทำธุรกรรมต่างๆ กับธนาคารในลิงก์ที่ส่งมากับ SMS หรืออย่าให้ข้อมูลส่วนตัวไปง่ายๆ ควรตรวจสอบให้แน่ใจก่อน เพื่อระมัดระวังไม่ให้ข้อมูลเหล่านี้ตกไปอยู่ในมือมิจฉาชีพที่จะเอาข้อมูลส่วนตัวของเราไปใช้ทำธุรกรรม ขโมยเงินของเรา หรือนำไปก่อความเสียหายได้”