ไปรษณีย์ไทยสนับสนุนศูนย์ช่วยคนตาบอดในประเทศไทยสู้ภัย COVID-19 ภายใต้การดำเนินงานของสมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย โดยขนส่งสิ่งของจำเป็นจำนวนกว่า 10,000 กล่อง เช่น หน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์ล้างมือ อาหารสำเร็จรูป โดยไม่คิดค่าธรรมเนียมเพื่อส่งให้ผู้พิการทางสายตาทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ ความร่วมมือดังกล่าวมีเป้าหมายในการบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ผู้พิการทางสายตาสามารถเข้าถึงการป้องกันสุขภาพ และเพื่อการดำรงชีพภายใต้สถานการณ์การระบาดของโรค COVID-19 ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจร่วมบริจาคสามารถบริจาคสิ่งของได้ที่สมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย
นายกาหลง ทรัพย์สอาด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานปฏิบัติการ และรักษาการในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด กล่าวว่า สถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อ COVID-19 ในระยะที่ 2 ได้ส่งผลกระทบต่อผู้พิการทางสายตา ทำให้ไม่สามารถดำเนินชีวิตได้ตามปกติ และเป็นอุปสรรคต่อการประกอบอาชีพ ไม่ว่าจะเป็นอาชีพบริการนวด อาชีพค้าสลาก จนทำให้บางคนขาดรายได้ ขาดโอกาสในการเข้าถึงการป้องกันสุขภาพ และอาจเข้าสู่สภาวะเสี่ยงต่อการติดเชื้อ
โดยไปรษณีย์ไทยได้เล็งเห็นถึงปัญหาที่เกิดขึ้นจึงได้ร่วมกับสมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย องค์กรของผู้พิการทางสายตาระดับชาติซึ่งมีภารกิจสำคัญในการพิทักษ์และคุ้มครองสิทธิสวัสดิการของผู้พิการทางสายตาทั่วประเทศ จัดหาเครื่องอุปโภคบริโภคสำหรับการดำรงชีพและอุปกรณ์ที่จำเป็นในการป้องกันการแพร่ระบาดให้แก่ผู้พิการทางสายตาที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าว
สำหรับการสนับสนุนศูนย์ช่วยคนตาบอดในประเทศไทยสู้ภัย COVID-19 ไปรษณีย์ไทยจะดำเนินการขนส่งสิ่งของอย่างต่อเนื่อง โดยผู้ที่ประสงค์จะร่วมบริจาคยังคงสามารถบริจาคเครื่องอุปโภคบริโภคได้ด้วยตนเองที่สมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย ซอยบุญอยู่ ถนนดินแดง แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร
“ศูนย์ช่วยคนตาบอดในประเทศไทยสู้ภัย COVID-19 เป็นอีกหนึ่งโครงการเพื่อขับเคลื่อนสังคมภายใต้ภาวะวิกฤตของสมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย ซึ่งไปรษณีย์ไทยในฐานะผู้เชี่ยวชาญและมีศักยภาพในด้านการสื่อสาร ขนส่งได้เล็งเห็นถึงบทบาทที่สำคัญของศูนย์ฯ จึงพร้อมสนับสนุนการขนส่งสิ่งของจำเป็นหลากหลายประเภท จำนวน 10,000 กล่อง เช่น หน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์ล้างมือ อาหารสำเร็จรูป ผ่านบริการ EMS โดยยกเว้นค่าธรรมเนียมให้แก่ผู้พิการทางสายตาที่เป็นสมาชิกของสมาคมฯ ทั้ง 11 แห่งทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ"
การสนับสนุนของไปรษณีย์ไทยในครั้งนี้นอกจากจะเป็นการสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างหน่วยงานตามแนวคิด “เพื่อนแท้ร่วมทาง” แล้ว ยังจะช่วยลดผลกระทบในด้านชีวิตความเป็นอยู่ ช่วยสร้างโอกาสในการเข้าถึงสุขอนามัย และความเสี่ยงในการได้รับเชื้อให้แก่ผู้พิการทางสายตา พร้อมทั้งเป็นแนวทางที่จะช่วยผลักดันให้คนในสังคมได้มีโอกาสแบ่งปันสิ่งของจำเป็นให้แก่คนอื่นๆ ได้ต่อไปในอนาคต