ความคิดถึงกันช่วงเวลาสำคัญสำหรับคนไทยและทุกคนทั่วโลก อย่างเทศกาลคริสต์มาสและเทศกาลปีใหม่ที่อบอวลไปด้วยความสุข และสิ่งที่ขาดไม่ได้คือ ของขวัญและคำอวยพร บางคนอาจส่งกลับไปให้คนที่บ้าน ส่งให้แก่เพื่อนฝูง ญาติผู้ใหญ่ คนที่อยู่ห่างไกล แต่ในช่วงส่งท้ายปี 2563 ต้อนรับปี 2564 นี้ ในประเทศไทยมีการระบาดของ COVID-19 ที่ไม่คาดคิด ทำให้การเดินทางไปมาหาสู่อาจยากลำบาก วันนี้ ไปรษณีย์ไทยมีวิธีการส่งของขวัญให้ถึงจุดหมายทันใจและทันเวลา รวมถึงเทคนิคในการหุ้มห่อ การเลือกสิ่งของให้ถูกอกถูกใจผู้รับ ซึ่งใครที่ไม่อยากให้โมเมนต์ดีๆ ต้องหลุดลอยไปกับเทศกาลนี้ นำทริคที่เรานำมาฝากไปใช้ รับรองได้ว่าแฮปปี้ ปลอดภัยกันถ้วนหน้าแน่นอน
ส่งใกล้ราคาไม่แพง
การส่งของในระยะใกล้ เช่น ภายในกรุงเทพมหานคร และในจังหวัดเดียวกัน อาจเลือกเลือกใช้บริการเดลิเวอรี หรือแมสเซนเจอร์เป็นทางเลือกแรก แต่มีวิธีที่ง่ายและประหยัดได้กว่าเท่าตัว ซึ่งการส่งแบบถูกและดีมีที่บริการไปรษณีย์ด่วนพิเศษ (EMS) ทำให้สิ่งของส่งไปถึงผู้รับปลายทางอย่างรวดเร็วไม่แพ้กัน ด้วยราคาที่ย่อมเยา คิดราคาตามน้ำหนัก เช่น ส่งเอกสารจากออฟฟิศย่านสาทร ไปยังลาดพร้าว ซึ่งหากใช้บริการส่งด่วนเดลิเวอรีอาจมีราคาขั้นต่ำที่สูงถึง 120 บาท และค่าบริการยังขึ้นอยู่กับช่วงเวลาที่เรียกและขนาดของสินค้าอีกด้วย แต่ถ้าส่งด้วยบริการ EMS จะประหยัดลงเกือบ 4 เท่า ดังนั้น บริการ EMS ของไปรษณีย์ไทยนับเป็นตัวช่วยที่ง่ายและเซฟเงินในกระเป๋าได้มาก
สำหรับใครที่ต้องการส่งของขวัญไปต่างจังหวัดก็แนะนำให้เลือกใช้ตัวช่วยนี้เช่นกัน หากส่งจากกรุงเทพฯ ปริมณฑล หรือในอำเภอเมืองของทุกจังหวัด ภายในเวลา 12.00 น. หรือ 17.00 น. ของจะถึงมือผู้รับปลายทางทั่วประเทศในวันถัดไป ซึ่งตัวช่วยนี้ยังเหมาะกับพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ที่ลูกค้าอยู่ในต่างจังหวัด และกำลังสั่งซื้อสินค้าในช่วงปีใหม่เป็นจำนวนมากอีกด้วย
ส่งของไปต่างประเทศด้วยตัวช่วยที่หลากหลาย
ใครที่ต้องการส่งของไปต่างประเทศแนะนำให้วางแผนล่วงหน้าอย่างน้อยหลายๆ วัน และเลือกบริการที่เหมาะสม เช่น หากเป็นสิ่งของขนาดใหญ่หรือที่มีน้ำหนักมากควรเลือกใช้บริการโลจิสโพสต์เวิลด์ บริการจัดส่งสิ่งของขนาดใหญ่ระหว่างประเทศน้ำหนักไม่เกิน 30 กิโลกรัม ส่วนบริการแบบพรีเมียม คือ บริการ EMS World ส่งด่วนระหว่างประเทศ ภายใน 3-7 วัน และยังมีบริการ ePacket ส่งของระหว่างประเทศราคาประหยัด สำคัญคือบริการต่างๆ ที่ได้แนะนำนั้น สามารถตรวจสอบสถานะได้ทุกรายการอีกด้วย
ทั้งนี้ ในช่วงที่เกิดการระบาดของ COVID-19 ทั่วโลกนั้น ทำให้ไม่สามารถจัดส่งสิ่งของไปยังปลายทางบางประเทศได้ หรือจัดส่งได้เพียงบางบริการเท่านั้น ซึ่งผู้ใช้บริการสามารถตรวจสอบประเทศปลายทางและบริการที่เปิดให้บริการได้ที่ www.thailandpost.co.th
ไม่มีเวลาแต่อยากส่งความเซอร์ไพรส์
รู้หรือไม่ ไปรษณีย์ไทยมีบริการรับฝาก ณ ที่อยู่ลูกค้า (Pick Up Service) แล้ว เป็นบริการที่ง่ายและสะดวกสบายกับไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ อีกทั้งยังอำนวยความสะดวกสำหรับผู้ที่ต้องการฝากส่งสิ่งของจำนวนมาก ซึ่งกี่ชิ้นไปรษณีย์ไทยก็เข้ารับฝากไม่จำกัดจำนวนขั้นต่ำ และยังไม่มีค่าเข้ารับสิ่งของอีกด้วย เรียกได้ว่าครอบคลุมผู้ส่งทั้งรายย่อยและรายใหญ่เลยทีเดียว
อย่าลืมหุ้มห่อปลอดภัยทุกครั้งก่อนส่ง
นอกเหนือจากการส่งด่วนแล้ว ความปลอดภัยในการจัดส่งสิ่งของก็นับเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลที่มีการส่งของขวัญให้กันจำนวนมาก แน่นอนว่าไปรษณีย์ไทยระมัดระวังการจัดส่งของทุกชิ้น แต่แนะนำผู้ฝากส่งหุ้มห่อสิ่งของฝากส่งให้แน่นหนาตั้งแต่ก่อนฝากส่ง โดยเฉพาะสิ่งของที่แตกหักง่าย สิ่งของมีคม ด้วยพลาสติกกันกระแทก (Bubble Wrap) หรือก่อนฝากส่งสามารถสอบถามจากเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ที่ให้บริการอยู่ ณ ที่ทำการไปรษณีย์
เทศกาลปีใหม่ไปรษณีย์ไทยพร้อมให้บริการ
นายกาหลง ทรัพย์สอาด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานปฏิบัติการ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด และรักษาการในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ กล่าวว่า ในช่วงปีใหม่พ.ศ.2564 ที่จะถึงนี้ ไปรษณีย์ไทยเตรียมความพร้อมให้บริการทั้งในและต่างประเทศอย่างเต็มที่ แม้ว่าจะเกิดการระบาดของ COVID-19 ระลอกใหม่ทำให้คนไทยต้องให้ความร่วมมือในการอยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ
โดยไปรษณีย์ไทยยังคงเปิดให้บริการตามปกติภายใต้การดำเนินงานและมาตรฐานด้านชีวอนามัยที่เป็นไปอย่างรัดกุม เช่น ปรับเวลาทำการทุก ปณ.เป็นเวลา 09.00-16.00 น.จัดเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานเป็น 2 เวรสลับกันทำงานคนละวันหรือสัปดาห์ พร้อมกำหนดมาตรการตรวจคุมเข้มผู้ใช้บริการและมาตรการในการป้องกันโควิด-19 ตามแนวทางที่กำหนดอย่างเคร่งครัดเพื่อให้ผู้ใช้บริการสามารถไว้วางใจการให้บริการของไปรษณีย์ไทยได้ 100% ทั้งนี้ การจัดส่งสิ่งของในพื้นที่ซึ่งเกิดการระบาดของ COVID-19 เช่น จังหวัดสมุทรสาครอาจล่าช้า จึงต้องขออภัยในความไม่สะดวกมา ณ ที่นี้
ไปรษณีย์ไทยจะหยุดให้บริการในวันที่ 31 ธันวาคม 2563-1 มกราคม 2564 และเปิดให้บริการตามปกติในวันที่ 2 มกราคม 2564 เป็นต้นไป และไปรษณีย์ไทยยังจะพัฒนาระบบขนส่งให้มีเทคโนโลยีที่ทันสมัย ร่วมกับพันธมิตรธุรกิจที่หลากหลายเพื่อเพิ่มศักยภาพด้านต่างๆ ให้ตอบสนองต่อความต้องการของผู้ใช้บริการทุกกลุ่ม และพร้อมที่จะเดินหน้าพัฒนาคุณภาพเพื่อคงไว้ซึ่งความเป็นผู้นำในด้านการสื่อสารและขนส่งที่คนไทยไว้วางใจมาตลอด 137 ปี
