อะเมซอน เว็บ เซอร์วิสเซส เสนอโมเดลราคาที่ช่วยสตาร์ทอัปฝ่าวิกฤตโควิด-19 พร้อมสร้างโอกาสใหม่จากนิว นอร์มอล ย้ำภาคฟินเทค เฮลท์เทค และอีคอมเมิร์ซเป็นส่วนที่ทำให้เทคโนโลยีคลาวด์เติบโตเร็วที่สุด ระบุเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งในประเทศไทยและในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
กอราฟ อโรรา หัวหน้าฝ่ายระบบนิเวศของธุรกิจสตาร์ทอัป ประจำภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก อะเมซอน เว็บ เซอร์วิสเซส กล่าวถึงความท้าทายหลักที่เหล่าสตาร์ทอัปกำลังเจอในช่วงวิกฤตโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบถึงธุรกิจทั่วทั้งเอเชีย โดยเฉพาะกลุ่มสตาร์ทอัป ว่า เป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากเนื่องจากมีสตาร์ทอัปจำนวนมากที่กำลังอยู่ในช่วงสร้างฐานลูกค้าและจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมี cash flow อยู่ในมือ
“จากที่เราได้ทำงานร่วมกับสตาร์ทอัปจำนวนมาก ทำให้เราได้ยินว่ามีสตาร์ทอัปหลายรายที่กำลังทบทวนแผนงานและปรับเปลี่ยนการคาดการณ์ใหม่ เพื่อให้รองรับ “ความปกติแบบใหม่” หรือ new normal เพราะสามารถนำไปสู่การสร้างโอกาสให้แก่สตาร์ทอัปได้เช่นกัน หากปรับตัวทันและรับมือกับ new normal ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะคลาวด์ได้รับการยอมรับว่าเป็นระบบที่ให้ความคุ้มค่าสำหรับการเปิดตัวและสร้างธุรกิจให้เติบโตได้ และมีหลายอย่างที่สตาร์ทอัปสามารถทำเพื่อลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานได้”
AWS มองว่าวิกฤตโควิด-19 ทำให้มุมมองและการคาดการณ์ต่างๆ ของบรรดาสตาร์ทอัปคลาดเคลื่อนไปจากที่วางแผนไว้ ทำให้ต้องมีการปรับตัวและเปลี่ยนมุมมองด้วยการปรับใช้เทคโนโลยีคลาวด์ให้มีความเหมาะสมยิ่งขึ้น ทั้งการใช้งานและการควบคุมค่าใช้จ่ายเพื่อให้มีเงินหมุนเวียนอยู่ในธุรกิจมากพอ โดยไม่ต้องเสียเงินจำนวนมากล่วงหน้าไปกับการลงทุน โดย AWS มองว่าจากประสบการณ์ที่ได้ทำงานกับสตาร์ทอัปจำนวนมาก พบว่าสตาร์ทอัปหลายรายก้าวไปสู่การเติบโตอย่างรวดเร็ว จนไม่ทันได้หยุดคิดว่าตัวเองได้ใช้คลาวด์อย่างเหมาะสมและเต็มประสิทธิภาพหรือไม่
สถานการณ์นี้ทำให้ AWS ต้องการช่วยลูกค้าลดค่าใช้จ่ายด้านคลาวด์ และกำลังนำเสนอแนวทางบางอย่างสำหรับสตาร์ทอัปเพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายในการใช้คลาวด์ในหลายวิธีด้วยกัน ทั้งในรูปของการนำเสนอโมเดลด้านราคา รวมถึงการคิดราคาแบบ spot instance (อินสแตนซ์ Spot ) ซึ่งสตาร์ทอัปชอบโมเดลนี้มากเนื่องจากทำให้ได้รับส่วนลดสูงถึง 90% จากราคาสำหรับการใช้งานแบบออนดีมานด์
“เมื่อเร็วๆ นี้ เราได้เปิดตัว Saving Plans ซึ่งเป็นโมเดลราคาที่ยืดหยุ่นช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการใช้ระบบประมวลผลของ AWS ได้มากถึง 72%”
นอกจากนี้ ยังมีการนำเสนอบริการ AWS Cost Explorer เพื่อช่วยลูกค้าบริหารจัดการค่าใช้จ่าย และตั้งการแจ้งเตือนในเวลาที่ใช้งานถึงจุดที่กำหนดไว้ อีกทั้งยังมี AWS Trusted Advisor ซึ่งเป็นเครื่องมือระบบออนไลน์ที่ช่วยให้สตาร์ทอัปลดค่าใช้จ่าย เพิ่มประสิทธิภาพ และปรับปรุงเรื่องการรักษาความปลอดภัยด้วยการเช็กการใช้ระบบโครงสร้างและการบริการของตัวเองได้ พร้อมให้ข้อเสนอแนะเพื่อช่วยให้ใช้งานได้อย่างเหมาะสมเต็มประสิทธิภาพ สุดท้ายคือ เราได้มีการลดราคาผลิตภัณฑ์และการบริการลงถึง 85 เท่านับตั้งแต่ที่มีการเปิดตัว AWS ในปี 2006
AWS มองว่าสิ่งจำเป็นสำหรับสตาร์ทอัปคือการสนับสนุนตลอดทุกช่วงวงจรธุรกิจ ตั้งแต่เริ่มเปิดธุรกิจตลอดจนธุรกิจมีการขยายตัว สำหรับ AWS เราพร้อมสนับสนุนเพื่อสร้างความสำเร็จให้แก่สตาร์ทอัป เรามีโปรแกรม AWS Activate ที่ช่วยให้สตาร์ทอัปที่อยู่ในช่วงเริ่มต้น สามารถสร้างธุรกิจได้อย่างรวดเร็วอีกทั้งให้การสนับสนุนตลอดทุกช่วงวงจรของธุรกิจ โดย AWS Activate จะให้ประโยชน์มากมายสำหรับสตาร์ทอัป ไม่ว่าจะเป็น AWS credits รวมถึงให้การสนับสนุนด้านเทคนิค และการฝึกอบรม โดยสตาร์ทอัปจำนวนหลายหมื่นรายทั่วโลกจะได้รับข้อได้เปรียบจากประโยชน์เหล่านี้ในแต่ละปี โดยมีมาตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2019 ทั้งนี้ อะเมซอนยังมอบ AWS Credit กว่าพันล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อช่วยให้บรรดาสตาร์ทอัปทั่วโลกเร่งสู่การพัฒนาธุรกิจให้เติบโต
ในประเทศไทย สตาร์ทอัปที่อยู่ในช่วงเริ่มต้น จะได้รับประโยชน์จากทรัพยากรที่ AWS Activate มอบให้ เช่น Living Mobile ซึ่งเป็นบริษัทที่ทำธุรกิจด้านแอปพลิเคชัน ที่ช่วยบริหารจัดการร้านอาหาร ใช้ชื่อว่า FoodStory ซึ่งมีการใช้ในคาเฟ่ ร้านที่เป็นคีออสก์ ฟูดทรัก และร้านอาหารทุกขนาด ช่วยบริหารจัดการทุกเรื่องตั้งแต่จุดชำระเงิน ไปจนถึงการจัดการสต๊อก ตลอดจนการจัดส่ง การใช้ Activate ช่วยให้สตาร์ทอัปสามารถเข้าถึง AWS credits และการสนับสนุนด้านเทคนิคที่ช่วยให้ทดลองใช้นวัตกรรมด้านเทคโนโลยี อย่างแมชชีน เลิร์นนิ่งได้
สำหรับลูกค้าสตาร์ทอัปที่เติบโตขึ้น เรายังช่วยสร้างคอนเนกชันระหว่างสตาร์ทอัปกับลูกค้าที่มีศักยภาพรวมถึงนักลงทุน ด้วยการเชื่อมโยงผู้บริหารจากองค์กรใหญ่เข้ากับสตาร์ทอัปเพื่อรับฟังโซลูชันใหม่ที่น่าสนใจ พร้อมอำนวยความสะดวกในเรื่องของการแนะนำโครงการสนับสนุนในระดับโลกเพื่อเร่งการเติบโต (global accelerators) รวมถึงนักลงทุนอิสระ หรือ angel investors รวมถึงช่วยหาแหล่งเงินทุนสนับสนุน (seed funds) และบริษัทที่ร่วมลงทุน (venture capital firms) ที่อยู่ในเครือข่ายของเรา เพื่อเป็นแรงสำคัญในการช่วยสตาร์ทอัประดมทุนเพื่อสร้างธุรกิจให้เติบโต
AWS มองว่าอุตสาหกรรมที่มีการเติบโตมากที่สุดในปัจจุบันที่มีการนำระบบดิจิทัลมาใช้กันอย่างจริงจังและมีการปฏิรูปกันมาก คือภาคฟินเทค เฮล์ธเทค และอีคอมเมิร์ซ โดยเฉพาะการเติบโตอย่างรวดเร็วของภาคบริการด้านการเงินและประกัน ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งในประเทศไทยและในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
AWS เคลมว่า สตาร์ทอัปส่วนใหญ่เลือกที่จะเริ่มธุรกิจบน AWS ไม่ว่าจะเป็นผู้ให้บริการด้านการชำระเงิน เช่น 2C2P และ InsurTech startup กับ Sunday Insurance เช่นเดียวกับผู้ให้บริการอีคอมเมิร์ซอย่าง aCommerce ซึ่งเป็นผู้ให้บริการและผู้ช่วยด้านการทำอีคอมเมิร์ซ (ecommerce enabler) และผู้ค้าปลีกด้านแฟชั่น อย่าง Pomelo ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ด้วยการนำเทคโนโลยีคลาวด์มาช่วยอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าเข้าถึงสินค้าได้อย่างรวดเร็ว แม้กระทั่งในเวลาที่อยู่บ้านก็ตาม และเมื่อเร็วๆ นี้ ยังได้เห็นถึงการเติบโตของผู้ให้บริการทางการแพทย์ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต (telehealth providers) เช่น Doctor Raksa ของประเทศไทย และ Halodoc ในอินโดนีเซีย ซึ่งทั้ง 2 รายล้วนสร้างธุรกิจบน AWS