การใช้อินเทอร์เน็ตในยุคนี้ต้องระมัดระวังการโดน ฟิชชิ่ง หรือโจรกรรมข้อมูลจากแฮกเกอร์จอมล่อลวง
ฟิชชิ่ง คือการโจรกรรมข้อมูลทางโลกออนไลน์ ซึ่งเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย เพราะเป็นการโขมยข้อมูลบัญชีผู้ใช้เพื่อเข้าไปสืบค้นความลับของผู้อื่น โดยการฟิชชิ่งนั้นมีวิธีการหลอกลวงหลายรูปแบบ เช่น การส่งอีเมลปลอมมาแจ้งข่าวสารให้แก่เราโดยมีเนื้อหาชวนเชิญให้เรากรอกข้อมูลลงไป และแฮกเกอร์ก็จะได้ข้อมูลของเราไปใช้งาน อาจจะเป็นการเอารหัสบัญชีธนาคารของเราไปเพื่อแอบเอาเงินไปใช้จ่าย หรือเป็นการแจ้งข้อมูลการซื้อปลอมเพื่อหลอกเอารหัสบัตรเครดิตของเราไป ถ้าอยากรู้วิธีการใช้อินเทอร์เน็ตของเราปลอดภัยจากการโดนฟิชชิ่ง มาดูกันว่ามีวิธีไหนบ้างให้เราป้องกันตัวเองจากเหล่าบรรดาแฮกเกอร์จอมขโมย
ตรวจสอบ URL ให้ดี เพื่อดูว่าเว็บไซต์นั้นเป็นเว็บไซต์ปลอมหรือไม่ เพราะแฮกเกอร์สามารถสร้างเว็บไซต์ปลอมให้เหมือนกับเว็บไซต์จริงได้ ดังนั้น เมื่อมีคอนเทนต์แปลกๆ มาเชิญชวนให้เรากรอกข้อมูล หรือคลิก ควรตรวจสอบ URL ทุกครั้ง เมื่อคลิกเข้าไปยังลิงก์แล้วอย่าหลงเชื่อคำขอให้ล็อกอิน หรือกรอกรหัสผ่านโดยเด็ดขาด
ระวังอีเมลต้องสงสัย ซึ่งเป็นอีเมลที่จะส่งลิงก์ให้เราคลิกเข้าไปยังเว็บไซต์ปลอม หรืออาจจะเป็นลิงก์ Virus ที่ดักจับข้อมูลของเรา เช่น การแจ้งว่าข้อมูลของเราเต็ม และหลอกให้เราดำเนินการตามขั้นตอนต่างๆ จนไปถึงการให้กรอกข้อมูลหรือคลิกลิงก์นั้น เพื่อไม่ให้เราโดนหลอกต้องตรวจสอบข้อมูลนั้นว่าเป็นข้อมูลจริงที่เกี่ยวข้องกับเราหรือไม่ เมื่อไรก็ตามที่เราหลงทำตามคำแนะนำเหล่านั้นจะส่งผลให้เราตกอยู่ในสถานการณ์ที่เป็นเหยื่อโดยไม่รู้ตัว
ติดตั้งโปรแกรม Anti Virus ที่น่าเชื่อถือและสามารถช่วยป้องกันการฟิชชิ่งได้ เช่น การคัดกรองอีเมลแต่ละฉบับที่ส่งมาหาเรา อย่างน้อยให้โปรแกรม Anti Virus ช่วยเป็นหูเป็นตาแทนเราได้
อย่าคลิกที่ลิงก์หรือเปิดเอกสารใดก็ตามที่แนบมา เพราะการคลิกเพียงครั้งเดียวอาจจะส่งผลให้ข้อมูลของเราโดนโจรกรรมได้ง่ายๆ ดังนั้น ก่อนจะคลิกไปที่ลิงก์ ควรอ่านข้อมูลให้แน่ใจก่อนว่าเป็นข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับเราจริงหรือไม่
ตรวจสอบไฟล์ที่ส่งมาให้เราทุกครั้ง โดยการอัปโหลดไฟล์ไปตรวจสอบที่โปรแกรมอ่านไฟล์ออนไลน์ก่อน โดยไฟล์แปลกๆ เหล่านั้นจะถูกแปลงเป็นรูปภาพ หรือ HTML ก่อน เพื่อป้องกันการติดตั้งมัลแวร์ในอุปกรณ์ แทนที่จะอัปโหลดลงมาในอุปกรณ์โดยตรง วิธีนี้สามารถป้องกันการถูกก่อนกวนได้
ถึงแม้ว่าเราจะใช้อินเทอร์เน็ตอยู่ในที่พักอาศัยก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะปลอดภัยจากบุคคลอันตราย เพราะอินเทอร์เน็ตสามารถทำให้โจรหรือแฮกเกอร์ที่มีเจตนาไม่ดีเข้ามาโจรกรรมข้อมูลจากเราได้ ในปัจจุบันมีภัยร้ายจากการใช้อินเทอร์เน็ตหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นทางโซเชียลมีเดีย เช่น Instagram ซึ่งเราต้อง รู้วิธีการใช้ Instagram ให้ปลอดภัย หรือข่าวปลอมที่หลอกให้เราหลงเชื่อ เราต้อง รู้จักวิธีการตรวจสอบข่าวปลอม ด้วย ดังนั้น การทำธุรกรรมหรือทำกิจกรรมต่างๆ บนโลกออนไลน์จะต้องมีความละเอียดและรอบคอบทุกครั้ง