ดีแทคแจ้งเกิดหลักสูตรออนไลน์ “ห้องเรียนเด็กล้ำ” แพลตฟอร์มอีเลิร์นนิ่งที่รวบรวมบทเรียนเน้นสร้างความเข้าใจและหาวิธีรับมือกับภัยร้ายในโลกออนไลน์ จัดครบบทเรียนช่วยสร้างทักษะการใช้เทคโนโลยีใหม่ทั้งปัญญาประดิษฐ์ และการสร้าง data visualization เพื่อเป็นพื้นฐานสู่การเป็นแกนนำพลเมืองอินเทอร์เน็ตที่มีความรับผิดชอบ (Responsible Netizen) เปิดให้เข้าใช้งานแล้ววันนี้ผ่าน learn.safeinternet.camp ต่อยอดโครงการ Safe Internet ปี 5 ที่เพิ่มหัวข้อความหลากหลายทางเพศ เนื่องจากเยาวชนในกลุ่ม LGBTQ ตกเป็นเหยื่อจากการกลั่นแกล้งล้อเลียนกว่า 80%
นางอรอุมา ฤกษ์พัฒนาพิพัฒน์ ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานสื่อสารองค์กรและการพัฒนาที่ยั่งยืน บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค กล่าวว่า “ห้องเรียนเด็กล้ำ” ถูกออกแบบมาเพื่อให้ความรู้และทักษะที่ไม่มีในระบบการศึกษาตามหลักสูตรสามัญ หากแต่มีความสำคัญกับการใช้ชิวิตของเด็กและเยาวชน ที่ใช้ชีวิตอยู่ในโลกอินเตอร์เน็ตมากกว่า 9 ชั่วโมงต่อวันโดยเฉลี่ย ดีแทคกำหนดเป้าหมายว่า เมื่อเยาวชนได้ผ่านการเรียนใน ‘ห้องเรียนเด็กล้ำ’ แล้ว จะต้องมีทักษะและความสามารถในการวิเคราะห์ เข้าใจปัญหาที่เกิดขึ้นกับตนเอง และบุคคลรอบข้างที่กำลังตกประสบกับภัยร้ายบนโลกไซเบอร์
“ไม่ว่าจะเป็นการถูกด่าทอ ประจาน หรือกลั่นแกล้ง การถูกล่วงละเมิดทางเพศ การรับข่าวสารที่น่าเคลืบแคลงสงสัย หรือเนื้อหาที่มีเนื้อหาไม่เหมาะสม รวมไปถึง การถูกละเมิดความเป็นส่วนตัว เยาวชนจะต้องรู้วิธีรับมือ และสามารถช่วยเหลือเพื่อนและสมาชิกครอบครัวเมื่อประสบกับภัยออนไลน์ดังกล่าวได้อย่างมีสติ ยิ่งไปกว่านั้น ดีแทคคาดหวังว่า ‘ห้องเรียนเด็กล้ำ’ จะช่วยให้เยาวชนสามารถพัฒนาศักยภาพของตนเองให้กลายเป็นผู้นำต้นแบบของเพื่อนๆและเยาวชนคนอื่นในการใช้อินเทอร์เน็ตอย่างมีความรับผิดชอบและชาญฉลาด เพื่อสร้างโอกาสในชีวิตอนาคต”
หลักสูตรใน ‘ห้องเรียนเด็กล้ำ’ แบ่งออกได้เป็น 2 ส่วนหลัก ได้แก่ ส่วนที่หนึ่ง คือ หลักสูตรการสร้างทักษะในการแยกแยะภัยในโลกออนไลน์ผ่านระบบการคิดเชิงวิพากษ์ และวิธีรับมืออย่างเป็นระบบ รวมทั้ง แนวทางปฏิบัติตนที่เหมาะสมในโลกออนไลน์ เพื่อสร้างให้เยาวชนมีความพร้อมที่จะเป็นพลเมืออินเทอร์เน็ตที่มีความรับผิดชอบ
หลักสูตรในส่วนที่สอง คือ หลักสูตรที่สอนให้เยาวชนใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัลที่กำลังทวีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนโลก อาทิ แชทบอท ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) การแสดงผลข้อมูลด้วยภาพ (Data Visualization) เทคนิคการเล่าเรื่อง (Story Telling) และการสร้างบอร์ดเกม ซึ่งเป็นเนื้อหาที่เด็กเยาวชนยุคใหม่ควรเรียนรู้ เพิ่มทักษะสู่การเป็นพลเมืองยุคดิจิทัลในศตวรรษที่ 21 นี้ต่อไป
นอกจาก แพลตฟอร์ม ‘ห้องเรียนเด็กล้ำ’ แล้ว ดีแทคมีแผนที่จะนำเสนอเนื้อหาที่เป็นประโยชน์สำหรับบุคลากรครูและอาจารย์ที่ทำหน้าที่ในการให้ความช่วยเหลือและให้คำแนะนำแก่นักเรียนที่มีความเสี่ยงหรือกำลังประสบกับภัยออนไลน์ ทั้งนี้ ผลการวิจัยและศึกษาของดีแทค พบว่า เยาวชนที่ตกเป็นเหยื่อภัยออนไลน์เลือกที่จะขอคำปรึกษาหรือขอความช่วยเหลือจากเพื่อนในวัยเดียวกัน เป็นทางเลือกอันดับหนึ่ง รองลงมาเป็น พี่ น้อง ส่วนคุณครูกับผู้ปกครองเป็นกลุ่มสุดท้าย เมื่อถามในเชิงลึกจริงๆ ว่า เพราะเหตุใดจึงเลือกให้คุณครูอยู่ในกลุ่มสุดท้าย นักเรียนกลุ่มตัวอย่างตอบว่า เขาไม่ได้รังเกียจหรือไม่ชอบคุณครู กลับกันเขาอยากให้คุณครูเป็นที่พึ่งที่แรกด้วยซ้ำ เพียงแต่ในความคิดของนักเรียน คือครูอาจไม่สามารถช่วยเหลือได้ หรือคิดไปว่าคุณครูไม่ช่วยเหลือเขาเพราะนักเรียนคนนั้นไม่ใช่ลูกศิษย์ที่รัก และอีกประเด็นคือคุณครู ‘ไม่เข้าใจ’ สิ่งที่เกิดขึ้นในโลกออนไลน์ และโซเชียลเน็ตเวิร์กที่พวกเด็กๆ ใช้งานกัน
โครงการ dtac Safe Internet เป็นโครงการที่เกิดจากการตระหนักถึงหน้าที่ความรับผิดชอบของดีแทคในฐานะบริษัทที่ให้บริการอินเทอร์เน็ตและบริการดิจิทัล จึงพัฒนาโครงการที่มุ่งพัฒนาเยาวชนให้เป็นพลเมืองอินเทอร์เน็ตที่มีความรับผิดชอบ และมีความพร้อมในการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อสร้างโอกาสสำหรับชีวิตในอนาคต
นอกเหนือจากการเปิดแพลตฟอร์มอี-เลิร์นนิ่ง ‘ห้องเรียนเด็กล้ำ’ แล้ว ดีแทคยังจัดกิจกรรมในรูปแบบค่ายแกนนำเยาวชนปีละ 2 ครั้ง เพื่อเปิดโลกให้กับเยาวชนในการสัมผัสประสบการณ์การเรียนรู้และแนะนำบ่มเพาะการดำเนินโครงการที่นำเสนอให้เกิดขึ้นจริง มีโค้ชชิ่งที่ช่วยเรื่องการออกแบบจากทีมงานระดับนานาชาติอย่าง FabCafe Bangkok ที่มีประสบการณ์การ Scale-up และเครือข่ายกว่า 12 ประเทศทั่วโลก และให้ทุนสนับสนุนโครงการ สำหรับดำเนินกิจกรรมจริงในโรงเรียนหรือชุมชนรวมมูลค่ากว่า 400,000 บาท และโอกาสในการแสดงผลงานในมหกรรมแสดงผลงานระดับนานาชาติ รวมถึงการทำงานร่วมกับสถาบันการศึกษาทั่วประเทศ ในการจัดอบรมบุคลากรครูอาจารย์ และนักเรียนทั่วประเทศ เพื่อพัฒนาสังคมในโรงเรียนที่มีภูมิคุ้มกันบนโลกออนไลน์