xs
xsm
sm
md
lg

"เรดแฮท" หนุนลูกค้าทำงานทุกที่ทุกเวลา

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


กวินธร ภู่ตระกูล
เรดแฮทเผยโควิด-19ทำให้ลูกค้าต้องโฟกัสลงทุนเฉพาะส่วนที่จำเป็นซอฟต์แวร์ต้องสามารถทำงานแบบอัตโนมัติและทำได้ทุกที่ทุกเวลา เดินหน้าเปิดตัวโอเพ่นซอร์สตอบโจทย์การทำงานรูปแบบใหม่

นายกวินธร ภู่ตระกูล ผู้จัดการประจำประเทศไทย เรดแฮท กล่าวว่าสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ลูกค้าองค์กรหันมาโฟกัสเฉพาะการลงทุนที่จำเป็นก่อน เพื่อให้สอดรับกับการทำงานที่บ้านซึ่งเรดแฮทได้มีส่วนช่วยให้ลูกค้าสามารถปรับโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีสนับสนุนฝ่ายไอทีให้ทำงานแบบอัตโนมัติทำให้สามารถบริหารจัดการระบบได้อย่างรวดเร็วและสะดวกโดยไม่ต้องเดินทางไปยังสถานที่ทำงาน ลูกค้าต้องมีการวิเคราะห์งบประมาณที่วางแผนไว้กับโครงการเดิมว่าคุ้มค่าหรือไม่

ดังนั้นโดยรวมแล้วเรดแฮทไม่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์นี้มากนักเพราะโครงการต่างๆที่ลูกค้าวางแผนว่าจะดำเนินการก็ยังคงดำเนินต่อไป โดยเรดแฮทเข้าไปช่วยในเรื่องต่างๆที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าในสถานการณ์โควิด-19อย่างใกล้ชิดซึ่งโซลูชันที่ตอบโจทย์ต้องสามารถทำงานได้ทุกที่ทุกเวลา

ขณะที่กลุ่มสายการเงิน การธนาคาร ได้รับรู้แล้วว่าระบบไอทีที่ลงทุนไปก่อนหน้านั้นไม่เสียเปล่าเพราะเมื่อเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นการทำธุรกรรมการเงินออนไลน์หรืออี-แบงก์กิ้ง มีเพิ่มสูงขึ้นและระบบของธนาคารสามารถรองรับการใช้งานได้ ซึ่งหลังจากนี้ธนาคารก็ต้องพิจารณาเพิ่มเติมว่าจะต้องปรับปรุงหรือลงทุนระบบอะไรเพิ่มเติมอีกบ้าง เช่นเดียวกันกับธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ ที่มีการใช้งานเพิ่มขึ้นเช่นกัน ส่วนกลุ่มที่ได้รับผลกระทบคือกลุ่มท่องเที่ยว การเดินทางและสายการบิน จึงต้องมีการปรับตัวด้วยการลดต้นทุนที่ไม่จำเป็นออกไปดังนั้นแม้ภาพรวมของตลาดชะลอตัวแต่การลงทุนไอทีที่จำเป็นสำหรับองค์กรนั้นๆยังคงมีการลงทุนต่อไป

นายเบนจามิน เฮนแชลล์ ผู้จัดการทั่วไปประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของเรดแฮท กล่าวว่า ในช่วงสถานการณ์โควิด-19ทำให้แต่ละองค์กรหันไปโฟกัสเฉพาะธุรกิจหลักของตนเองเพื่อให้ธุรกิจอยู่รอด จึงยังไม่มีบริษัทไหนที่คิดจะอัปเกรดซอฟต์แวร์เมื่อถึงช่วงเวลาที่ต้องอัปเกรด ดังนั้นการซัปพอร์ตจากเจ้าของผลิตภัณฑ์จึงเป็นสิ่งจำเป็นที่สุดในสถานการณ์แบบนี้ ส่วนแผนการลงทุนระบบที่แต่ละบริษัทวางแผนไว้ไม่ได้รับผลกระทบยังคงแผนเดิมไว้อยู่

เบนจามิน เฮนแชลล์
ในขณะที่โลกยังคงปรับและฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง เรดแฮทมีการวางแผนเพื่อช่วยเหลือเพื่อให้ธุรกิจเดินหน้าต่อไปได้ ไม่ว่าจะเป็นการลดราคา50% สำหรับลูกค้าใหม่ที่ใช้บริการ Technical Account Management (TAM) , การขยายอายุการใช้งานRed Hat Enterprise Linux (RHEL), Red Hat OpenShift Container Storage, Red Hat Ceph Storage, and Red Hat Runtimes,การฝึกอบรมสำหรับผู้ที่ออกจากงานและผู้ที่ต้องการหางาน โดยเรดแฮทร่วม กับSkillsBuild.orgเปิดฝึกอบรมRedHatCertifiedSystemAdministrator(RHCSA) และการจัดหลักสูตรอบรมออนไลน์ด้านทักษะเทคโนโลยีฟรีซึ่งได้เปิดอบรมให้กับผู้สนใจไปแล้วกว่า5แสนราย

นายกวินธร กล่าวว่า จากการประชุมRed Hat Virtual Summitในประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อเดือนเม.ย.2563ที่ผ่านมา ได้รับความสนใจจากผู้ร่วมงานกว่า56,000คนจากที่ลงทะเบียนมาประมาณ82,000คนคิดเป็นสัดส่วน68% แสดงให้เห็นว่าโซลูชันของเรดแฮทได้รับความสนใจอย่างมาก ซึ่งโซลูชันล่าสุดของเรดแฮทที่กำลังเป็นเทรนด์เทคโนโลยีที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางได้ประกาศในงานนี้ คือโอเพ่นซอร์สช่วยให้องค์กรใช้ประโยชน์จากแพลตฟอร์มคลาวด์-เนทีฟได้ทุกที่ เทคโนโลยีโอเพ่นซอร์สต่างๆเช่นLinuxและKubernetesที่นอกจากจะช่วยให้องค์กรเข้าถึงนวัตกรรมที่ช่วยให้สร้างสิ่งที่จำเป็นต่ออนาคตและอยู่ในระดับแนวหน้าของอุตสาหกรรมแล้วยังช่วยให้การทำงานต่างๆที่กำลังดำเนินงานอยู่บนสภาพแวดล้อมไอทีทุกแห่งเป็นแบบอัตโนมัติปรับและขยายขนาดการทำงานได้ตามต้องการ

ทั้งนี้ เรดแฮทเห็นถึงความจำเป็นที่ต้องพัฒนาไอทีให้ตอบโจทย์ความต้องการในการใช้บริการดิจิทัลและการเชื่อมต่อได้ตลอดเวลาและเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว อุตสาหกรรมเกือบทุกประเภทเช่น ด้านการดูแลสุขภาพ โลจิสติกส์ ค้าปลีกบริการทางการเงิน ส่วนงานภาครัฐ ภาคการศึกษากำลังมีการปรับตัวแบบเรียลไทม์ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการในการเข้าถึงแอปพลิเคชันและบริการที่จำเป็นได้รวดเร็วขึ้นและเข้าถึงได้จากหลากหลายช่องทางมากขึ้นในขณะที่ยังต้องคงความเสถียรของการทำงานไว้ได้ เช่นในอุตสาหกรรมด้านการสื่อสารโทรคมนาคมซึ่งมีการใช้งานที่มีปริมาณพุ่งขึ้นสูงกว่า50% ในบางภูมิภาคของโลกส่งผลให้ผู้ให้บริการด้านการสื่อสารโทรคมนาคมต้องขยายกำลังในการให้บริการและเร่งให้เกิดการใช้งาน5Gและedging computingให้เร็วขึ้นและเป็นตัวขับเคลื่อนให้เกิดการทดสอบความพร้อมของระบบเครือข่ายและโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์

เรดแฮทเชื่อว่าเทคโนโลยีที่จำเป็นในการตอบโจทย์ความต้องการเหล่านี้ไม่ได้ผูกติดอยู่กับซอฟต์แวร์สแต็คแบบดั้งเดิมหรือต้องมีอยู่ในเทคโนโลยีลิขสิทธิ์ที่มีราคาแพงเท่านั้นในทางตรงกันข้ามนวัตกรรมโอเพ่นซอร์สคือคำตอบที่จะช่วยตอบโจทย์เหล่านี้ได้ โอเพ่นซอร์สช่วยให้องค์กรใช้ประโยชน์จากแพลตฟอร์มคลาวด์-เนทีฟได้ทุกที่ตั้งแต่ edgeและon-premisesดาต้าเซ็นเตอร์ไปจนถึงระบบมัลติเพิลพับลิคคลาวด์ต่างๆ เทคโนโลยีโอเพ่นซอร์ส เช่นLinuxและKubernetesนอกจากจะช่วยให้องค์กรเข้าถึงนวัตกรรมที่ช่วยให้สร้างสิ่งที่จำเป็นต่ออนาคตและอยู่ในระดับแนวหน้าของอุตสาหกรรมแล้ว ยังช่วยให้การทำงานต่างๆที่กำลังดำเนินงานอยู่บนสภาพแวดล้อมไอทีทุกแห่งเป็นอัตโนมัติปรับและขยายขนาดการทำงานได้ตามต้องการด้วยความยืดหยุ่นมากกว่าเทคโนโลยีแบบมีลิขสิทธิ์จะสามารถจัดให้ได้


กำลังโหลดความคิดเห็น