ไปรษณีย์ไทย เปิดแคมเปญลดค่าบริการ COD สูงสุด 70% รับมหกรรม Big Sale และการจับจ่ายผ่านระบบอีคอมเมิร์ซที่มีการเติบโตถึง 20% คาดการณ์สิ้นปี 2562 มีจำนวนพัสดุผ่านเข้าระบบไปรษณีย์กว่า 3,000 ล้านชิ้น
นางสมร เทิดธรรมพิบูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด กล่าวว่า ไปรษณีย์ไทย เห็นถึงการขยายตัวของตลาดอีคอมเมิร์ซ (E-commerce) ซึ่งในปี 2562 ตลาดดังกล่าวมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นถึง 20%
โดยเฉพาะในช่วงที่มีแคมเปญ Big Sale ร้านค้าต่างๆ ทั้งออฟไลน์และออนไลน์ รวมถึงมาร์เก็ตเพลสร่วมแคมเปญอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดปรากฏการณ์ที่ประเทศไทยมียอดการสั่งซื้อสินค้ามากเป็นอันดับหนึ่งของอาเซียน
ไปรษณีย์ไทย ในฐานะผู้ให้บริการด้านการขนส่งโลจิสติกส์จึงเตรียมพร้อมการให้บริการเพื่อรองรับการเติบโตของตลาดอีคอมเมิร์ซ ไม่ว่าจะเป็นการยกระดับคุณภาพบริการ EMS ให้สามารถส่งสินค้าได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้นด้วยมาตรฐาน “ส่งเช้าได้บ่าย ส่งบ่ายได้วันรุ่งขึ้น” ที่ขณะนี้ได้ขยายบริการให้ครอบคลุมแล้วทั่วประเทศ
รวมไปถึงบริการที่ได้รับความนิยมสูงสุดอย่าง Cash On Delivery (COD) หรือบริการเก็บเงินปลายทาง ผ่าน Wallet@post ซึ่งผู้ส่งจะได้รับค่าสินค้ากลับเข้าสู่ระบบภายใน 2 วัน ส่วนผู้รับสามารถเลือกชำระค่าสินค้าได้ 3 ช่องทาง ได้แก่ เงินสด แอปพลิเคชันWallet@Post และโมบายแบงค์กิ้ง
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ไปรษณีย์ไทยเปิดให้บริการ COD มาตั้งแต่ปลายปี 2561 จนถึงปัจจุบันพบว่าอัตราการใช้บริการ COD เติบโตมากกว่า 220 % ซึ่งแสดงให้เห็นว่าบริการดังกล่าวสามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้บริการเป็นอย่างดี และยังเป็นปัจจัยที่ทำให้ยอดการส่งพัสดุในระบบของไปรษณีย์ไทยเพิ่มมากขึ้นถึง 3,000 ล้านชิ้น (ตัวเลขคาดการณ์จนถึงปลายปี)
นอกจากนี้ ไปรษณีย์ไทย ยังคืนกำไรแก่ผู้ใช้บริการ EMS และบริการ COD โดยการปรับลดอัตราค่าบริการ เพื่อเป็นของขวัญรับปีใหม่ภายใต้แคมเปญ “EMS ท้าส่ง” ลดสูงสุดถึง 70% โดยผู้ใช้บริการที่มีจำนวนสิ่งของฝากส่งด้วยบริการ EMS ตั้งแต่ 5 ชิ้นขึ้นไปต่อการส่งในแต่ละครั้ง และ/ หรือใช้บริการ COD เพียง 1 ชิ้น พิกัดน้ำหนักตั้งแต่ เกิน 500 กรัม – 2 กิโลกรัม ค่าบริการลดเหลือเพียง 55 บาท พิกัดน้ำหนักเกิน 2 – 7 กิโลกรัม ค่าบริการลดเหลือเพียง 80 บาท เท่านั้น ตั้งแต่วันนี้ – 31 ธันวาคม 2562